WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET42ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบกังวลปัจจัยนอกปท.แต่ราคาหุ้นมี upside น่าสนใจ

     นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ในกรอบ 1,480-1,500 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)และยังมีความกังวลเรื่องของกรีซด้วย ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้

     ด้านนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากยังอยู่ในภาวะของความผันผวนจากความกังวลเศรษฐกิจอยู่ แต่ด้วยราคาหุ้นแต่ละตัวที่ต่ำเกิน จากการ react ที่ค่อนข้างเร็ว ทำให้ดูมี upside ที่น่าสนใจ

    ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ เนื่องจากมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดที่อาจไม่พ้นปีนี้ เพียงแต่จะเป็นเมื่อไรเท่านั้นเอง และเรื่องของกรีซก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งตลาดฯยังให้ความสนใจและติดตามดูอยู่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,490-1,500 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(1 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,040.37 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด(+0.16%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,082.93 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด(+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,111.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด(+0.21%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 34.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 123.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 5.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 17.06 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.07 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 พ.ค.58)1,496.05 จุด เพิ่มขึ้น 2.44 จุด (+0.16%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 206.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 พ.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(1 มิ.ย.58) ปิดที่ 60.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 10 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(1 มิ.ย.58)ที่ 9.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.72/74 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็ง

                - บริหารตลาดเงิน-ตลาดทุนไทย ประเมินเฟดขึ้นดอกเบี้ย ผลกระทบน้อยกว่าเลิกคิวอี คาดตลาดผันผวนระยะสั้น นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ "ทั่วโลก-ไทย" ทยอยปรับพอร์ตรับความเสี่ยงไปแล้ว ขณะตลาดหลักทรัพย์ คาดส่งผลตลาดหุ้นไม่มาก เหตุต่างชาติ ถือครองระดับต่ำ

                - รัฐบาลเริ่มขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ ด้วยการเตรียมหาแหล่งเงินลงทุนซึ่งจะมีหลายรูปแบบ นอกเหนือจากตั้งงบลงทุนในงบประมาณประจำปี กู้โดยออกพันธบัตร ก็จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรักเจอร์ฟันด์) และชักชวนกองทุนรวมขนาดใหญ่เข้าลงทุน

                - นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังจะไม่ปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ลดอัตราการเก็บจาก 10% เป็น 7% ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2558 โดยจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเร็วๆ นี้

                - "วุฒิชาติ กัลยาณมิตร"ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย ช่วงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต-บ้านภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา 28 กิโลเมตร วงเงินลงทุนเบื้องต้น 4.3 หมื่นล้านบาท และรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 10 กิโลเมตร 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะเชื่อมโยงการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงพระนครศรีอยุธยา

                - ธปท.เผยผลสำรวจผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์คาดภาพรวมตลาด อสังหาฯ ฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนภาพรวมอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลล่าสุดเดือน เม.ย.อุปสงค์และอุปทานของคอนโดฯ ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยทุกกลุ่มเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างหดตัว

                - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,989 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.7 หมื่นล้านบาท (คำนวณจากค่าเงิน 33.72 บาท/เหรียญสหรัฐ) เป็นการไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,720 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิ 1,681 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.67 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - CWT-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป(CWT)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 94,185,067 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย.2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 13 พ.ค. 2559

                - CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 45 บาท แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยวนับตั้งแต่ต้น เม.ย. ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังสะท้อนปัจจัยพื้นฐานไม่หมด โดยคาดกำไรปกติในปีนี้เติบโตโดดเด่น 47.7% Y-Y จากธุรกิจโรงแรมซึ่งได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และธุรกิจอาหารที่บริษัทปรับกลยุทธ์โดยการปิดสาขาและขายแบรนด์ที่ไม่ทำกำไรออกไปในช่วงปลายปีก่อน ทำให้มาร์จิ้นสูงขึ้นตั้งแต่ 1Q15 แม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะเริ่มเข้าสู่ low season ใน 2Q-3Q15 แต่เชื่อว่า CENTEL อยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าคู่แข่ง

                - STANLY(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 246 บาท มีมุมมองเชิงบวกจากการเปลี่ยนโมเดลใหม่ของรถยนต์ ทำให้มาร์จิ้นงานใหม่ดีขึ้น โมเดลรถใหม่ที่บริษัทฯผลิตงานโคมไฟให้ ได้แก่ Honda new Accord, CRV, Mitsubishi new Triton, Toyota new Hilux REVO, Nissan NAVARA, โดยคาดงานที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้บริษัทฯใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับภาคการผลิตสหรัฐสดใส

     ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังเงินเยนอ่อนค่าเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ขานรับภาคการผลิตของสหรัฐที่ยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนพ.ค.

      อย่างไรก็ตาม ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% แตะระดับ 150.98 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,604.67 จุด เพิ่มขึ้น 34.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,844.70 จุด เพิ่มขึ้น 15.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,473.45 จุด ลดลง 123.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,619.88 จุด ลดลง 5.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,102.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,375.05 จุด ลดลง 17.06 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,743.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 30.85 จุด เหตุภาคการผลิตขยายตัวต่ำกว่าคาด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนพ.ค.ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

   ดัชนี FTSE 100 ลดลง 30.85 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,953.58 จุด

   ตลาดได้รับแรงกดดัน หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนพ.ค.ขยายตัว 52.0 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ 52.5

    หุ้นกลุ่มเหมืองนำตลาดร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกันและหุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวลงกว่า 2%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ข้อมูลการผลิตสหรัฐสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ในขณะที่กรีซใกล้ถึงกำหนดการชำระหนี้คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 5 มิ.ย.

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.2% ปิดที่ 400.57 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,436.05 จุด เพิ่มขึ้น 22.23 จุด หรือ +0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.30 จุด เพิ่มขึ้น 17.41 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,953.58 จุด ลดลง 30.85 จุด หรือ -0.44%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 51.5 ซึ่งนอกจากจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แล้ว ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ยังขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 29

   อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ โดยกรีซมีกำหนดจะต้องชำระหนี้คืน IMF ในงวดเดือนมิ.ย. ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 5-19 มิ.ย. มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์

   นายนิคอส โวทซิส รมว.มหาดไทยของกรีซกล่าวว่า กรีซจะไม่สามารถชำระหนี้หนี้ให้กับ IMF ในงวดเดือนมิ.ย.ได้ นอกเสียจากว่ากรีซจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติม ซึ่งการแสดงความเห็นของนายโวทซิสสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่กรีซหลายคนที่ออกมาเตือนอย่างเปิดเผยในช่วงก่อนหน้านี้

   หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นโรช โฮลดิงส์ ดีดตัวขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทมีความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง สว่นหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน

    หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปรับขึ้น 1% ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษวางแผนที่จะขายหุ้นในลอยด์ แบงกิ้งให้กับนักลงทุนบางกลุ่มในปีหน้า

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 115.44 จุด หลัง GDP สหรัฐหดตัวไตรมาสแรก

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ค.) หลังจากที่มีการเปิดตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกที่ออกมาติดลบ นอกจากนี้นักทุนยังคงวิตกกังวลต่อสถานการณ์หนี้กรีซ

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 115.44 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 18,010.68 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 13.40 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 2,107.39 จุด ดัชนี NASDAQลดลง 27.95 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 5,070.03 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ สามดัชนีหลักปรับตัวลดลง 1.2%, 0.9% และ 0.4% ตามลำดับ

    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวลง 0.7% จากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าขยายตัว 0.2% โดยระบุถึงภาวะอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติ และการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริโภค

     ทางกระทรวงฯระบุว่า การปรับตัวลดลงของ GDP ในไตรมาสแรกมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออก การลงทุนถาวรที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย และการใช้จ่ายภาครัฐที่อ่อนแอ ซึ่งบดบังการใช้จ่ายผู้บริโภค การลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน และการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้น

    นอกจากตัวเลข GDP แล้ว วานนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออีกหลายรายการ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกหดตัวลงในเดือนพ.ค. ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาส 2

    ทั้งนี้ ดัชนีร่วงลงสู่ระดับ 46.2 ในเดือนพ.ค. จาก 52.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยดัชนีดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต

    ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 90.7 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 88.6 แต่ตัวเลขทั้ง 2 ยังคงต่ำกว่ามากจากระดับ 95.9 ในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งแตะระดับ 98.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี

    นอกจากนี้ การเจรจาหนี้กรีซที่ยังไม่มีทางออกและยังไม่ได้ข้อสรุปก็ส่งผลกระทบต่อภาวะซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเช่นเดียวกัน ประกอบกับวานนี้มีรายงานข่าวว่าธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งของกรีซต้องพึ่งพาการระดมทุนจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศได้ส่งผลให้กระแสเงินฝากไหลออกอย่างต่อเนื่อง

    ธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งดังกล่าว ก็คือ เนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของกรีซเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ และอัลฟา แบงก์

    ทั้งนี้ ธนาคารของกรีซได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินที่ยืดเยื้อของประเทศ รวมทั้งเผชิญแรงกดดันจากหนี้เสียที่พุ่งขึ้นและฐานเงินฝากที่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ฝากเงินมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบธนาคาร จึงได้ถอนเงินจากบัญชี หรือนำเงินไปไว้ในต่างประเทศแทน

   ข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจากธนาคารกลางยุโรปที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ปริมาณเงินฝากในธนาคารของกรีซได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่ชาวกรีซพากันแห่ถอนเงินฝาก หลังมีความวิตกต่อความคืบหน้าที่ล่าช้าในการเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างรัฐบาลและประเทศเจ้าหนี้

    ECB ระบุว่า ชาวกรีซได้พากันถอนเงินจากธนาคารมากกว่า 5 พันล้านยูโร (5.5 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนเม.ย. ส่งผลให้ปริมาณเงินฝากของภาคครัวเรือน ณ สิ้นเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 1.394 แสนล้านยูโร (1.519 แสนล้านดอลลาร์) ลดลงจากระดับ 1.45 แสนล้านยูโรในเดือนมี.ค.

   ตัวเลขเงินฝากในเดือนเม.ย.ถือเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2004 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 1.372 แสนล้านยูโร

  ขณะเดียวกันคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของเยอรมันว่า เธอไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโร และนั่นอาจไม่ได้หมายความถึงอวสานของยูโร

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 มิ.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,040.37 จุด                          เพิ่มขึ้น 29.69 จุด      +0.16%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,082.93 จุด                         เพิ่มขึ้น 12.90 จุด      +0.25%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,082.93 จุด                         เพิ่มขึ้น 12.90 จุด      +0.25%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,953.58 จุด                       ลดลง 30.85 จุด       -0.44%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,436.05 จุด                           เพิ่มขึ้น 22.23 จุด      +0.19%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.30 จุด                         เพิ่มขึ้น 17.41 จุด      +0.35%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,625.69 จุด                           ลดลง 75.38 จุด       -0.78%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,569.87 จุด                       เพิ่มขึ้น 6.72 จุด       +0.03%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,102.37 จุด                         ลดลง 12.43 จุด       -0.59%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,734.00 จุด              ลดลง 40.90 จุด       -0.71%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,735.40 จุด                 ลดลง 41.80 จุด       -0.72%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,828.74 จุด                      เพิ่มขึ้น 216.99 จุด     +4.71%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,670.37 จุด                  เพิ่มขึ้น 89.91 จุด      +1.19%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,597.16 จุด                            เพิ่มขึ้น 172.97 จุด     +0.63%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,213.82 จุด            ลดลง 2.56 จุด        -0.05%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,743.41 จุด                       ลดลง 4.11 จุด        -0.24%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,848.99 จุด                         เพิ่มขึ้น 20.55 จุด      +0.07%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาหนี้สินของกรีซอย่างใกล้ชิด

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,040.37 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,082.93 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,111.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ +0.21%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ในขณะที่กรีซใกล้ถึงกำหนดการชำระหนี้คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 5 มิ.ย.        

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.2% ปิดที่ 400.57 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,436.05 จุด เพิ่มขึ้น 22.23 จุด หรือ +0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.30 จุด เพิ่มขึ้น 17.41 จุด หรือ +0.35% และดัชนีFTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,953.58 จุด ลดลง 30.85 จุด หรือ -0.44%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนพ.ค.ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 30.85 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,953.58 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะยังไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันศุกร์นี้  

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 60.2 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 64.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,188.70 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 2.1 เซนต์ ปิดที่ 16.68 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 7.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,104.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 772.75 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้ช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5203 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5290 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.84 เยน เทียบกับระดับ 124.06 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9456 ฟรังก์ จาก 0.9401 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7605 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7655 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 589.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!