WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET25ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ แม้มีผลบวกจาก ECB แต่ Bond Yield สหรัฐฯสูง

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ ทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก แม้ว่า Sentiment จากต่างประเทศจะเป็นบวก หลังจากผลประชุมของธนาคารกลางยุโรป(ECB)ออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ย และให้คงแผนการทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ต่อไป รวมถึงนักลงทุนคาดการณ์กันว่าเรื่องของกรีซใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว

   แต่ Bond Yield ของสหรัฐฯอายุ 10 ปี ได้ปรับตัวสูงขึ้น 3 วันติดต่อกันแล้ว สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังระมัดระวังความเสี่ยง ซึ่งก็มักจะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย

     อย่างไรก็ดี ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังเป็นลักษณะ Sideway Down พร้อมให้แนวรับ 1,476 จุด ส่วนแนวต้าน 1,486-1,487 ถัดไป 1,495 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(3 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,076.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.33 จุด(+0.36%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,099.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.71 จุด(+0.45%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,114.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด(+0.21%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.33 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 66.43 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.97 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 0.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 12.11 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 7.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 5.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 19.43 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 มิ.ย.58)1,482.07 จุด เพิ่มขึ้น 5.20 จุด (+0.35%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 877.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 มิ.ย.58) ปิดที่ 59.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.62 ดอลลาร์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 มิ.ย.58)ที่ 8.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 33.66/68 แข็งค่าตามภูมิภาค-ยูโร หลัง ECB คงดอกเบี้ย

    - เวิลด์แบงก์คงเป้าจีดีพีไทยในปีนี้ ขยายตัว 3.5% ส่งออกโต 0.5% ฟื้นตัวครึ่งปีหลังจากเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป ชี้ปัญหาส่งออกโตต่ำกว่าศักยภาพ จากขีดความสามารถการแข่งขัน แนะเร่งยกระดับการศึกษารับเศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างความเข้มแข็งระยะยาว

    - "ชัยวัฒน์" กางแผนลงทุน 5 หมื่นล้านใน 5 ปี แบ่งลงทุนพลังงานสะอาด 2.6 หมื่นล้านบาท อีก 2 หมื่นล้านเน้นลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ลั่นพร้อมเข้าร่วมโครงการตามนโยบายรัฐ ทั้งสัมปทานรอบ 21 และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอาเซียน ตั้งเป้า 50-100 เมกะวัตต์ใน 3 ปี

    - นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า คลังจะมีมาตรการอุดช่องโหว่การเสียภาษีชุดใหญ่ออกมา เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 10% ของภาษีที่เก็บได้เวลานี้ 2.3 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท รวมทั้งจะมีการขยายฐานการจัดเก็บภาษี โดยตั้งเป้าว่าจะจัดเก็บภาษีให้ได้เพิ่มจาก 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็น 20% ของจีดีพี

      - "ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์" ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 (มอเตอร์เอ็กซ์โป) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้คาดว่าจะลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 8.8 แสนคัน จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและโครงการคืนภาษีรถคันแรกที่คาดว่าจะมีผล กระทบต่อกำลังซื้อต่อเนื่องไปอีก 2 ปี หลังจากเริ่มมีผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2556

    - เจพีมอร์แกนลดน้ำหนักหุ้นไทย หลังเศรษฐกิจชะลอตัว กดดันหุ้นกลุ่มแบงก์ที่มีน้ำหนัก 29% ในเอ็มเอสซีไอ ให้มีความเสี่ยงจากทั้งคุณภาพสินทรัพย์และกำไรของกลุ่มแบงก์ที่มองว่าจะลดลง 6-7%  หรือมีกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 4% ทิสโก้มองกลุ่มแบงก์ยังไม่ฟื้นคุณภาพสินเชื่ออาจแย่ลง ในไตรมาส 2-3 และผลตอบแทนสินเชื่อลดลงด้วย ด้านที่ปรึกษาไอทีแบงก์ชี้เทรนด์สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ปรับโฉมใหม่สู่ Everyday Bank  สร้างรายได้จากการดำเนินงาน และลดต้นทุนตั้งสาขาใหม่

      - ธปท.ไม่ห่วงต่างชาติทิ้งตราสารหนี้ไทยฉับพลัน ส่วนใหญ่ถือครองยาวและสัดส่วนการถือครองไม่สูงนัก ระบุการพัฒนาเศรษฐกิจ ดุลการคลัง การปฏิบัติตามกฎหมาย และเปิดเสรีเงินทุนเป็นปัจจัยดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุนตราสารหนี้ไทย แนะช่วงการพัฒนาเศรษฐกิจและดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระดับต่ำ ควรส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ

*หุ้นเด่นวันนี้

    - TGPRO-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ไทย-เยอรมัน โปรดักส์(TGPRO)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน2,682,958,379 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ :  1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.20 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (ซึ่งออกวันที่ 29 เม.ย.2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 เม.ย. 2560

    - MONO(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เพื่อลงทุนระยะยาว เป้าใหม่ 4.10 บาท มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบไปค่อนข้างมาก แต่ยังเร็วเกินไปสำหรับการฟื้นตัวที่คาดว่าจะมาถึงอย่างเร็วที่สุดช่วงปลายไตรมาส 3/58 แต่ในระยะยาวยังชอบ Business Model ที่มีจุดเด่นที่ต้นทุนต่ำ สามารถ rerun content ได้หลายช่องทาง ซึ่งธุรกิจนี้น่าจะได้รับความนิยม ซึ่งจะได้รับอานิสงส์อย่างมากหากการประมูล 4G ในไทยสำเร็จ

     - DEMCO(แลนด์แอนด์เฮ้าส์)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 17 บาท เพื่อรอความชัดเจนในการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น WEH เนื่องจากความล่าช้าในการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น อาจทำให้เกิดความกังวลและยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น โดยการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น WEH ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทจดทะเบียนในและนอกตลาดหลักทรัพย์รวม 2 บริษัทและกองทุนส่วนบุคคลในประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน(กค.58)และในเบื้องต้นคาดว่ายังคงแผนการขายหุ้น IPO ของ WEH แต่อาจล่าช้ากว่ากำหนดเดิมใน 1Q59

    - TTCL(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 43.40 บาท ผลการดำเนินงานจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับและจะชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3 จากการพัฒนาปรับปรุงระบบ Gas Turbine ของโรงไฟฟ้าที่พม่า มองเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ปลอดภัยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศ เนื่องจากมีรายรับส่วนใหญ่จากต่างประเทศ

    - TIPCO(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อเก็งกำไร"หากใช้ราคาหุ้น TASCO ปัจจุบัน มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นของ TIPCO หลังปรับปรุงเป็น 14.67 บาท เป็นส่วนเพิ่มได้อีก 10% จากราคาหุ้น TIPCO และจากการศึกษาความอ่อนไหว ที่ราคาหุ้น TASCO 16.50-22 บาท มูลค่าทางบัญชีของ TIPCO เป็น 12.82-16.21 บาท, ณ สิ้น 1Q58 TIPCO มี TASCO อยู่ 24.1% หรือ 371.4 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนเพียง 4.56 บาทต่อหุ้น ด้าน Market Cap ของ TASCO ที่ TIPCO มีอยู่เป็น 7.2 พันล้านบาท มากกว่า Market Cap ของ TIPCO ที่ 6.4 พันล้านบาท เสมือนกับซื้อหุ้น TIPCO ได้มาฟรี แล้วยังได้กำไรจาก TASCO

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนเช้านี้ ตลาดจับตาการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ โดยตลาดหุ้นบางแห่งดีดตัวขึ้นขานรับการปิดบวกของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ขณะที่ตลาดบางแห่งร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ

    ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,070.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.33 จุด, +0.36% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,539.94 จุด เพิ่มขึ้น 66.43 จุด, +0.32% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,912.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด

    ส่วนดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,561.65 จุด ลดลง 0.02 จุด, 0.00%  +0.06% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,645.36 จุด ลดลง 12.11 จุด, -0.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,742.02 จุด ลดลง 7.15 จุด, -0.41% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,344.13 จุด ลดลง 5.71 จุด, -0.17% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,537.09 จุด ลดลง 19.43 จุด, -0.20%

      ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดหุ้นบางแห่ง รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดีดตัวขึ้นขานรับการปิดบวกของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่งในเดือนพ. ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ราย

     อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นสิงคโปร์ เปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ในขณะที่กรีซใกล้จะครบกำหนดการจ่ายหนี้มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันพรุ่งนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 22.19 จุด หลัง ECB คงดบ.ต่ำ,เดินหน้า QE

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธาน ECB ยืนยันว่าจะเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการ

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 6,950.46 จุด

    ในการประชุมเมื่อวานนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย

    ทางด้านนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.2559

    หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 3.3%

     ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง หลังจากได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาโลหะ โดยหุ้นที่ร่วงลงได้รวมถึง หุ้นเฟรสนิลโล, หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นอันโตฟากัสตา

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปิดบวก ขานรับ ECB เดินหน้าซื้อบอนด์

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.ปีหน้า

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,034.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.71 จุด หรือ +0.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.62 จุด เพิ่มขึ้น 90.82 จุด หรือ +0.80% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,950.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ +0.32%

   อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 395.93 จุด

   ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนายดรากีเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

   ส่วนในการประชุม ECB เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ -0.20% ซึ่งหมายความว่า ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ ECB หากมีการนำเงินมาฝากกับทาง ECB

    หุ้นเนสเล่ ปรับตัวลง 0.8% หลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานด้านการดูแลอาหารในกรุงนิวเดลีของอินเดียจะระงับการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Maggi ของบริษัทเนสเล่เป็นการชั่วคราว หลังจากพบสารตะกั่วในปริมาณที่สูงในตัวอย่างอาหาร

    หุ้นเมอร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ ปรับตัวลง 0.48% ส่วนหุ้นอาร์เซลอร์มิททาล พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับขึ้น 2.23% และหุ้นอัลสตอม ทะยานขึ้น 2.18%

   นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 2.5% ในปีนี้ และ 2.6% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.9% สำหรับปีนี้และปีหน้า

    การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ การแข็งค่าของปอนด์, ภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัย และประสิทธิภาพการผลิตที่ระดับต่ำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 64.33 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสดใส

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. และยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,076.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.33 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,114.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,099.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.71 จุด หรือ +0.45%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่งในเดือนพ. ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ราย

   ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 19.2% สู่ระดับ 4.088 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี ขณะที่ตัวเลขการขาดดุลในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 5.057 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Beige Book ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐมีการขยายตัวได้ดีในช่วงต้นเดือนเม.ย.จนถึงปลายเดือนพ.ค.

   อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้รับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากคาดการณ์การขยายตัวเดือนมี.ค.ที่ 4.0% และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.8% ในปี 2559 เมื่อเทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.3%

    หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นเมทไลฟ์ ทะยานขึ้น 2.2%

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยที่มีการปรับทบทวนในไตรมาส 1/2558 ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนเม.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มิ.ย. 2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,076.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.33 จุด, +0.36%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,099.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.71 จุด, +0.45%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,114.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด, +0.21%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,034.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.71 จุด, +0.59%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.62 จุด เพิ่มขึ้น 90.82 จุด, +0.80%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,950.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด, +0.32%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,837.20 จุด ลดลง 351.18 จุด, -1.29%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,349.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.09 จุด, +0.27%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,749.17 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด, +0.45%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,130.50 จุด ลดลง 83.32 จุด, -1.60%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,657.47 จุด เพิ่มขึ้น 190.75 จุด, +0.69%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,561.67 จุด เพิ่มขึ้น 9.71 จุด, +0.13%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,909.98 จุด ลดลง 0.55 จุด, -0.01%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,583.60 จุด ลดลง 52.40 จุด, -0.93%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,588.30 จุด ลดลง 51.60 จุด, -0.91%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,063.16 จุด ลดลง 15.48 จุด, -0.74%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,473.51 จุด ลดลง 69.68 จุด, -0.34%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,556.52 จุด ลดลง 57.74 จุด, -0.60%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. และยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,076.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.33 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,114.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,099.23 จุด เพิ่มขึ้น 22.71 จุด หรือ +0.45%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.ปีหน้า

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,034.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.71 จุด หรือ +0.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.62 จุด เพิ่มขึ้น 90.82 จุด หรือ +0.80% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,950.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ +0.32%

          อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 395.93 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธาน ECB ยืนยันว่าจะเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการ

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 6,950.46 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังไม่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันศกร์นี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.8 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.80% ปิดที่ระดับ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 31.9 เซนต์ ปิดที่ 16.48 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 8.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,104.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 10.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 758 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซนได้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1250 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1165 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5314 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5352 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.35 เยน เทียบกับระดับ 124.06 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9357 ฟรังก์ จาก 0.9323 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7770 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7775 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 598.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด, +1.18%

    อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!