WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET23ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว-อิงขาลง เหตุขาดปัจจัยกระตุ้น-จับตาเรื่องกรีซ

   นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว อิงไปในทางขาลง โดยดัชนีฯคงจะยังไม่สามารถทะลุแนว 1,500 จุดได้ เนื่องจากตลาดฯยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะเดียวกันตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้จะอยู่ในแดนลบเล็กน้อย หลังจากที่ดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงค่อนข้างมากเกือบ 1% ด้านตลาดยุโรปก็ปรับตัวลงกัน

   นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศก็ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษ โดยต่างยังรอดูเรื่องกรีซที่ครบกำหนดชำระหนี้ในวันนี้ราว 300 ล้านยูโร ซึ่งก็คาดว่ากรีซจะสามารถชำระหนี้ได้เนื่องจากเป็นจำนวนที่ไม่มาก อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่านักลงทุนยังชะลอการลงทุนอยู่

พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,480-1,500 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(4 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,905.58 จุด ร่วงลง 170.69 จุด(-0.94%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่  5,059.12 จุด ลดลง 40.11 จุด(-0.79%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,095.84 จุด ลดลง 18.23 จุด(-0.86%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 89.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 20.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 68.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 10.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.63 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.68 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 มิ.ย.58)1,490.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.83 จุด (+0.60%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,674.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 มิ.ย.58) ปิดที่ 58 ดอลลาร์/ บาร์เรล ลดลง 1.64 ดอลลาร์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 มิ.ย.58)ที่ 7.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 33.75/76 ทรงตัวจากวานนี้ แต่แนวโน้มยังอ่อนค่า รอปัจจัยใหม่

    - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 11 เดือน สะท้อนประชาชนยังไม่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดถึงต้นไตรมาส 3 แนะรัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและลงทุน ขณะ "ปรีดิยาธร" ชี้เริ่มฟื้นตัว คาดโต 5% ใน 2 ปีข้างหน้า

    - นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะโต กว่าครึ่งปีแรก สศอ.คาดว่าจีดีพีอุตสาหกรรมทั้งปีจะเติบโต 2-3% หรือมีมูลค่า 2.69-2.71 ล้านล้านบาท จากปี 2557 จีดีพีอุตสาหกรรมติดลบ 0.4% หรือ 2.63 ล้านล้านบาท

   - "ธนวรรธน์ พลวิชัย" ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 มิ.ย.นี้ ควรลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หลังมีสัญญาณว่าการบริโภคอาจจะแผ่วไปถึงปลายเดือนก.ค.ถึงต้น ส.ค.

    - สมาคมตราสารหนี้ เผย 5 เดือนแรก บริษัท ขนาด "กลาง-เล็ก" แห่ระดมทุนออกหุ้นกู้ 194,00 ล้าน เฉพาะเดือนพ.ค.ออกหุ้นกู้ 58,000 ล้าน "อริยา" ระบุ เสี่ยงน้อย เพราะกลุ่มบริษัทดังกล่าว ต้องผ่านการจัดเรทติ้งก่อนเสนอขายหุ้นกู้ได้  ขณะบริษัทขนาดใหญ่ชะลอออก เนื่องจากเศรษฐกิจทรุด ส่งผลชะลอแผนลงทุน

    - บอร์ด รฟม.มีมติปรับรูปแบบก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเหลือง-ชมพู เปิดสัมปทานให้เอกชนรายเดียวทำทั้งโครงการ ทั้งก่อสร้างระบบราง จัดหาขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุง ชงคมนาคมเสนอขออนุมัติจาก ครม. เผยช่วยรับภาระความเสี่ยงแทนรัฐบาลทั้งหมด

*หุ้นเด่นวันนี้

     - GIFT-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แกรททิทูด อินฟินิท(GIFT)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 151,341,563 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 30 เมษายน 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ต.ค. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 เม.ย. 2561

     - GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 33 บาท นับตั้งแต่เข้าตลาดฯ ราคาหุ้นปรับลงและต่ำกว่าราคา IPO ที่ 27 บาท สวนทางแนวโน้มกำไรที่มีทิศทางขาขึ้นตลอด 3 ปีข้างหน้าจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่ทยอยเปิดดำเนินการ คาดกำไรในปี 2015 เติบโต 25% Y-Y จากโครงการ IRPCCP-I และปี 2016 กำไรโตต่อเนื่องอีก 11% Y-Y จากโรงไฟฟ้านวนคร(NNEG) กำไรปี 2017 โตอีก 21.5% จากโครงการ IRPCCP –II, NL1PC และ BIC2 ทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 1,851MW จากปัจจุบัน 1,315 MW และทำให้ PE ปี 2017 ลดเหลือเพียง 14.7 เท่า และคาด Dividend yield 3.5-4.5% ต่อปี

    - CENTEL(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้าใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 43 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF หลังจากปรับประมาณการปีนี้และปีหน้าเพิ่มในอัตรา 10%/6% ตามลำดับ ซึ่งมีการปรับสมมุติฐานให้ดีขึ้นในส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 1% และอัตราภาษีเงินได้น้อยลงเป็น 22% จากเดิมที่ 25%

    - TASCO(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 22 บาท ยังมีโอกาสปรับประมาณการปีนี้ได้เพิ่มขึ้นอีก จากประมาณการกำไรปีนี้ที่ 3.2 พันล้านบาท ขณะที่ผลกระทบจากการปิดโรงงานเพื่อซ่อมบำรุงเป็นไปอย่างจำกัด

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุนักลงทุนหวั่นกรีซผิดนัดชำระหนี้

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถชำระคืนหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ทันกำหนดในวันนี้

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3 % แตะที่ 148.85 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,398.76 จุด ลดลง 89.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,328.02 จุด ลดลง 20.61 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,062.22 จุด ลดลง 10.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,345.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,743.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.68 จุด

   ทั้งนี้ การประชุมระหว่างนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ และกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในบางประเด็น ในขณะที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์แก่ IMF ในวันนี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 91.22 จุด นำโดยหุ้นพลังงาน ขณะวิตกกรีซ

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์ก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองก็อ่อนแรงลง

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 91.22 จุด หรือ 1.31% ปิดที่ 6,859.24 จุด

     หุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงลงหลังจากสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดนิวยอร์ก ลดลง 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 58 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ จากคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้

    ส่วนหุ้นกลุ่มเหมือง ซึ่งรวมถึง แองโกล อเมริกัน, แรนโกลด์ รีซอร์เซส และบีเอชพี บิลลิตัน ต่างร่วงลงกว่า 3% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแรงลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาหนี้สินของกรีซ โดยนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซ กล่าวว่า มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดการชำระคืนหนี้สินของกรีซ แต่กรีซและบรรดาเจ้าหนี้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการที่จะบรรลุข้อตกลง

    ขณะเดียวกัน แกนนำหลายคนของพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของกรีซ ระบุเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาไม่สามารถยอมรับข้อเสนอที่ประเทศเจ้าหนี้ยื่นให้กับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เมื่อวันก่อนหน้า โดยนายทาสซอซ โคโรนาคิส เลขาธิการพรรคไซรีซา กล่าวว่า "ข้อเสนอนี้ไม่สามารถใช้เป็นพื้นฐานของการทำข้อตกลงได้"

    ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์ (5.78 แสนล้านดอลลาร์)

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากมีรายงานว่าแกนนำของพรรครัฐบาลกรีซไม่ยอมรับข้อเสนอของประเทศเจ้าหนี้ ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายหนี้งวดแรกของเดือนมิ.ย.ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 392.65 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,987.13 จุด ลดลง 47.04 จุด หรือ -0.93% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,340.60 จุด ลดลง 79.02 จุด หรือ -0.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,859.24 จุด ลดลง 91.22 จุด หรือ -1.31%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถชำระหนี้คืนให้กับ IMF ได้ทันกำหนดงวดแรกในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าแกนนำหลายคนของพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของกรีซ ไม่ยอมรับข้อเสนอที่ประเทศเจ้าหนี้ยื่นให้กับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ การประชุมระหว่างนายซิปราสและกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในบางประเด็น ในขณะที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์แก่ IMF ในวันนี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์

    นายคอนสแตนตินอส มิคาลอส ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของกรีซ เตือนว่ากรีซจะเผชิญฝันร้ายของการออกจากยูโรโซน หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่กรีซได้ออกมาเตือนเช่นกันว่า กรีซอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามพันธสัญญาทางการเงินได้ หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นเฟรสนิลโล ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 3% ส่วนหุ้นสาธารณูปโภคปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอิเล็กทริไซท์ เดอ ฟรองซ์ ร่วงลง 2.8%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 170.69 จุด วิตกหนี้กรีซ, IMF ลดคาดการณ์ศก.สหรัฐ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถชำระคืนหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ทันกำหนดในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,905.58 จุด ร่วงลง 170.69 จุด หรือ -0.94% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,059.12 จุด ลดลง 40.11 จุด หรือ -0.79% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,095.84 จุด ลดลง 18.23 จุด, -0.86%

    ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซยังคงส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยล่าสุดมีรายงานว่า แกนนำหลายคนของพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของกรีซ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาไม่สามารถยอมรับข้อเสนอที่ประเทศเจ้าหนี้ยื่นให้กับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

    การประชุมระหว่างนายซิปราสและกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในบางประเด็น ในขณะที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์แก่ IMF ในวันนี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจาก IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนเม.ย.ที่ 3.1% โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น การแข็งค่าของดอลลาร์ และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน

   ทั้งนี้ IMF ได้แนะนำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงซบเซา

   หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นำโดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ปรับลง 0.9% ส่วนหุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.8%

   หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.4% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลง 0.9%

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนเม.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 มิ.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,905.58 จุด                              ลดลง 170.69 จุด      -0.94%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,059.12 จุด                           ลดลง 40.11 จุด       -0.79%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,095.84 จุด                            ลดลง 18.23 จุด       -0.86%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,859.24 จุด                         ลดลง 91.22 จุด       -1.31%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,340.60 จุด                                ลดลง 79.02 จุด       -0.69%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,987.13 จุด                             ลดลง 47.04 จุด       -0.93%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,348.63 จุด                                ลดลง 207.89 จุด      -2.18%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,488.19 จุด                         เพิ่มขึ้น 14.68 จุด      +0.07%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,072.86 จุด                             เพิ่มขึ้น 9.70 จุด       +0.47%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,511.30 จุด           ลดลง 77.00 จุด       -1.38%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,504.30 จุด                 ลดลง 79.30 จุด       -1.42%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,947.10 จุด                          เพิ่มขึ้น 37.12 จุด      +0.76%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,553.65 จุด                  ลดลง 8.02 จุด        -0.11%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,551.89 จุด                                    ลดลง 105.58 จุด      -0.38%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,095.82 จุด           ลดลง 34.68 จุด       -0.68%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,741.48 จุด                            ลดลง 7.69 จุด        -0.44%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,345.00 จุด                            ลดลง 4.84 จุด        -0.14%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,813.42 จุด                              ลดลง 23.78 จุด       -0.09%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถชำระคืนหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ทันกำหนดในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,905.58 จุด ร่วงลง 170.69 จุด หรือ -0.94% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,059.12 จุด ลดลง 40.11 จุด หรือ -0.79% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,095.84 จุด ลดลง 18.23 จุด, -0.86%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากมีรายงานว่าแกนนำของพรรครัฐบาลกรีซไม่ยอมรับข้อเสนอของประเทศเจ้าหนี้ ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายหนี้งวดแรกของเดือนมิ.ย.ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 392.65 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,987.13 จุด ลดลง 47.04 จุด หรือ -0.93% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,340.60 จุด ลดลง 79.02 จุด หรือ -0.69% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,859.24 จุด ลดลง 91.22 จุด หรือ -1.31%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์ก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองก็อ่อนแรงลง

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 91.22 จุด หรือ 1.31% ปิดที่ 6,859.24 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่  1,175.20 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 37.7 เซนต์ ปิดที่ 16.103 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 4.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,099.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 755.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 58 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งหนุนความคาดหวังที่ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ก็จะสดใสด้วย

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1247 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1250 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5314 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.36 เยน เทียบกับระดับ 124.35 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จาก 0.9357 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7770 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 603.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด, +0.84%

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!