WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET38ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นเด้งขึ้นตามตลาดภูมิภาค/ติดตามผลประชุมกนง.วันนี้

     นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเด้งขึ้นได้บ้างตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ ยกเว้นตลาดจีนที่ปรับตัวลงภายหลังจากที่ MSCI ยังไม่นำ A-Shares เข้าคำนวนใน MSCI Emerging Market

     โดยวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในเรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ยว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตลาดฯอาจได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้น

    อย่างไรก็ตามช่วงนี้ปัจจัยหลักยังไม่ค่อยมี การลงทุนคงจะเป็นไปตามข่าวรายวัน-รายสัปดาห์ พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,506 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(9 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,764.04 จุด ลดลง 2.51 จุด(-0.01%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่  5,013.87 จุด ลดลง 7.76 จุด(-0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด(+0.04%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 30.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 54.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 63.27 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 64.33 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 2.11 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 มิ.ย.58)1,492.32 จุด ลดลง 15.96 จุด (-1.06%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 492.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 มิ.ย.58) ปิดที่ 60.14 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 มิ.ย.58)ที่ 9.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.70/72 แกว่งแคบ นักลงทุนชะลอดูผลประชุมกนง.บ่ายนี้

                - กสทช.เดินหน้าใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายปลดล็อกขายไลเซ่นส์ทีวีดิจิทัล หวั่นกระทบเศรษฐกิจ-แบงก์เสี่ยงหนี้เสียกว่า 3 หมื่นล้านบาท สมาพันธ์ฯ หนุนเปลี่ยนมือผู้ประกอบการไปไม่รอด ด้านช่อง 3 - พีพีทีวี  ค้านชี้ผิดกติกาก่อนประมูล จี้เร่งประชาสัมพันธ์ แก้ปัญหาแจกคูปอง-ขยายโครงข่าย ขีดเส้น 14 มิ.ย.ยึดแบงก์การันตี "ไทยทีวี"

                - "สศค."เล็งปรับลดเป้าจีดีพี หลังประเมินส่งออกไม่ฟื้นตัว จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ายังมีแนวโน้มชะลอตัว ด้าน "สแตนชาร์ด" มั่นใจครึ่งปีหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นจากแรงส่ง 3 ปัจจัย "ลงทุนรัฐ-เอฟดีไอ-ส่งออก" ขณะกรมสรรพากรเตรียมออกมาตรการใบกำกับภาษีชิงรางวัลจูงใจแจก "รถยนต์" เป็นรางวัลที่หนึ่ง หวังกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ขณะที่ยอดจัดเก็บ 8 เดือนของปีงบประมาณพลาดเป้า 1 แสนล้าน

                - ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทองเดือน มิ.ย. ลดลง 10 จุด โดยกรอบราคาสูงสุดอยู่ที่ 1,240-1,260 เหรียญสหรัฐ กรอบต่ำสุดอยู่ที่ 1,140-1,160 เหรียญสหรัฐ ด้านทองในประเทศให้ราคาสูงสุดที่ 1.95-2 หมื่นบาท ต่ำสุดอยู่ที่ 1.8-1.9 หมื่นบาท

                - สมาคมผู้ค้าแอลพีจี เผยไตรมาส 2 การใช้แอลพีจี ภาพรวมของประเทศยังคงชะลอตัวจากปีก่อนยอดใช้เฉลี่ยลด 10-12% พบ 2 กลุ่มคือแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมและขนส่งตัวฉุด เหตุ SMEs ที่ใช้แอลพีจีถัง 48 กก.ลดใช้จากยอดขายดิ่ง ขณะที่น้ำมันราคาถูกคนหันเติมน้ำมันแทน ขณะที่รถติดตั้งแอลพีจีใหม่เริ่มชะลอตัว หวังไตรมาส 3 ศก.จะฟื้นตัวดันการใช้พลิกกลับมาเติบโต

                - นายยศพล พิริยะพฤนท์ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนไทยสามารถทำกำไรได้สูงอย่างต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศรวมเงินเฟ้อถึง 1.8 เท่า เป็นอัตราสูงที่สุดในอาเซียน ขณะที่ฟิลิปปินส์เติบโต 1.4 เท่า อินโดนีเซีย 0.6 เท่า และมาเลเซีย 0.5 เท่า เพราะบริษัทจดทะเบียนไทยกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน เสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศได้อย่างตรงจุด สำหรับกลุ่มที่โดดเด่น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มการให้บริการทางการแพทย์ ธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม

 

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TISCO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 56 บาท น่าสนใจที่สุดในกลุ่มแบงก์ TISCO มีความเสี่ยงด้านคุณภาพหนี้ตกชั้นจาก Special mention loan (สินเชื่อค้าชำระ 1-3 เดือน) น้อยที่สุดในกลุ่ม เพราะพอร์ตส่วนใหญ่ที่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้วตั้งแต่ 4Q14 ขณะที่แบงก์ขนาดใหญ่อื่นๆมี Special mention loan เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วมาก นอกจากนื้ TISCO ยังให้ Dividend yield สูงประมาณ 4.5% ต่อปี สำหรับกำไร 2Q15 คาดว่าจะชะลอ 10% Q-Q แต่ +7.5% Y-Y และคาดกำไรทั้งปีฟื้น 6% Y-Y การเติบโตจะมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญและผลขาดทุนรถยึดที่ลดลง ชดเชยสินเชื่อที่ไม่โตได้

                - บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณ์หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ SET50 งวด 1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2015 มี 6 ตัวได้แก่ BA, BLA, ITD, SUPER, TPIPL, WHA หุ้นที่คาดเอาออกมี BAY, BJC, KTIS, SPALI, THCOM, VGI ส่วน SET100 หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณมี 13 ตัวได้แก่ BA, BEAUTY, BLA, CBG, CKP, LHBANK, MTLS, RS, S, SUPER, U, UNIQ, WHA ส่วนหุ้นที่เอาออกมี BAY, BCH, BJC, DEMCO, KTIS, LOXLEY, MEGA, NOK, PTG, SF, SIM, STA, THREL

                -  IVL(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 28 บาท คงคาดว่าจะมีดีล M&A อีก 2 แห่งในครึ่งหลังปีนี้ คาดเพิ่มก่าลังการผลิตอีก 0.9 ล้านตัน ขณะที่ 4 ดีล M&A ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี จบลงแล้ว ท่าให้ต้องปรับเพิ่มคาดการณ์ก่าไรปีนี้ขึ้นเป็น 5.3 พันล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 20% แต่เนื่องจากกระแสเงินสดไม่ได้เกิดขึ้นทันที และกระทบมูลค่าทางบัญชีจ่ากัด ซึ่งใช้วิธีการประเมินมูลค่าเหมาะสม PBV ท่าให้ราคาเป้าหมายไม่ได้เปลี่ยนแปลง

                - PF (ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 1.36 บาท คาดว่าหลังจากได้รับ GRAND มาแล้วจะทำให้มีแหล่งที่มาของรายได้ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น (Recurring Income) ได้แก่ค่าเช่าสำนักงานและโรงแรมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด คาดว่ากำไรไตรมาสที่เหลือของ PF จะดีขึ้นจาก 1Q58 เพราะจะมีการโอนสินค้าที่มากขึ้นทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม มีการขายที่ดินเปล่าที่กรุงเทพกรีฑา และจัดตั้ง REIT สำหรับหอพัก Uniloft ที่เชียงใหม่ คาดการณ์กำไรหลักต่อหุ้นปีนี้โต 29%

                - SIRI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 2.01 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 10 เท่า คาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 58 อยู่ในเกณฑ์ดีเพิ่ม 12% y-o-y ส่วนคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้สูงเป็น 5.3% ทั้งนี้หลังจาก SIRI ประสบความสำเร็จมากจากบริษัทที่ร่วมทุนกับ BTS ปรากฎว่าทั้งสองบริษัทได้เดินหน้าจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพิ่มอีก 8 แห่ง รวมเป็น 9 แห่ง เพื่อพัฒนาคอนโดใกล้รถไฟฟ้ารัศมีไม่เกิน 500 เมตร จึงมีโอกาสจะต่อยอดรายได้และกำไรได้เป็นอย่างดีในอนาคต

ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งตัวผันผวนเช้านี้ หลังหุ้นสินค้าผู้บริโภคร่วง

   ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ โดยตลาดหุ้นบางแห่งอ่อนแรงลงเนื่องเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ขณะที่ตลาดหุ้นบางแห่งดีดตัวขึ้นตามความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มพลังงาน

    ดัชนี MSCI Asia Pacific Index เคลื่อนไหวที่ 146.12 จุด ณ เวลาประมาณ  09.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,126.36 จุด เพิ่มขึ้น 30.06 จุด, +0.15%ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,246.66 จุด เพิ่มขึ้น 54.79 จุด, +0.60% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,079.13 จุด เพิ่มขึ้น 15.10 จุด, +0.73% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,296.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.47 จุด, +0.04% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,052.79 จุด เพิ่มขึ้น 63.27 จุด, +0.23%

    อย่างไรก็ตาม ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,730.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, +0.11% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 5,049.20 จุด ลดลง 64.33 จุด, -1.26% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,321.33 จุด ลดลง 2.11 จุด, -0.03% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,471.30 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

     ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนตัวผันผวนเช้านี้ โดยตลาดหุ้นจีนร่วงลงไปกว่า 1.2% หลังจาก MSCI Inc. ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีหุ้นทั่วโลก เปิดเผยว่า การรวมหุ้นจีนไว้ในการคำนวณดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่นั้นจะต้องรอจนกว่าจะมีการแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงตลาด

       ส่วนตลาดหุ้นโตเกียวและตลาดหุ้นฮั่งเส็งต่างก็เปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากดัชนีตลาดหุ้นทั้งสองตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้

 

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นเหมืองแร่ ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 36.24 จุด

      ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงหุ้นแองโกล อเมริกัน

     ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,753.80 จุด ลดลง 36.24 จุด หรือ -0.53%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1% หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจนเนอราล ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นทั้งสองบริษัท

      ส่วนหุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ดิ่งลง 2%

      นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงประชามติในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ของอังกฤษอย่างใกล้ชิด หลังจากมูดีส์อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าลงประชามติของอังกฤษในระยะเวลาที่เร็วเกินไปอาจเป็นผลเสียต่ออันดับเครดิตของอังกฤษ

     ทั้งนี้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ให้คำมั่นสัญญาณต่อประชาชนก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า เขาจะจัดให้มีการลงประชามติดังกล่าวภายในปี 2560

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกหนี้กรีซ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธข้อเสนอการปฎิรูปเศรษฐกิจของกรีซ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 383.87 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,850.22 จุด ลดลง 7.44 จุด หรือ -0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,001.29 จุด ลดลง 63.63 จุด หรือ -0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.80 จุด ลดลง 36.24 จุด หรือ -0.53%

    ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้สินของกรีซ โดยล่าสุดมีรายงานว่า กรีซได้ยื่นข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจต่อเจ้าหนี้เมื่อวานนี้ เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป แต่เจ้าหน้าที่หลายรายของ EU ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวของกรีซ โดยระบุว่า ข้อเสนอเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ EU มอบเงินช่วยเหลืองวดต่อไป

    ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวของกรีซนั้น ครอบคลุมถึงเป้าหมายด้านภาษี หนี้สิน และงบประมาณของประเทศ นอกจากนี้ กรีซยังได้ขอใช้เงินจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เพื่อนำไปชำระพันธบัตรที่ถือครองโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงเดือนก.ค.และส.ค.นี้

    หุ้นดอยช์ เทเลคอม ดิ่งลง 2.7% หลังจากมีรายงานว่าผู้บริหารของดอยช์ เทเลคอม ไม่ให้ความสนใจที่จะควบรวมกิจการที-โมบาย ยูเอส อิงค์ เข้ากับดิช เน็ทเวิร์ค คอร์

    หุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 2.5% จากข่าวที่ว่า สำนักงานหลายแห่งของดอยช์ แบงก์ ในกรุงแฟรงค์เฟิร์ตถูกทางการเยอรมนีรุดเข้าตรวจสอบหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ของลูกค้าธนาคาร

    หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับลง 0.9% เนื่องจากข่าวที่ว่า เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ จะการลดจำนวนพนักงานลง 22,000-25,000 ราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงการดำเนินงานทั่วโลก และจะขายธุรกิจในตุรกีและบราซิล

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 2.51 จุด เหตุข้อมูลศก.แกร่งหนุนคาดเฟดขึ้นดบ.

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร

      ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,764.04 จุด ลดลง 2.51 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,013.87 จุด ลดลง 7.76 จุด หรือ -0.15% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,080.15 จุด หรือ 0.04% เพิ่มขึ้น 0.87 จุด

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2000 จากระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค.

    ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนยอดค้าส่งพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว

    นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกันสถานการณ์หนี้สินของกรีซ โดยข่าวล่าสุดระบุว่า กรีซได้ยื่นข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจต่อเจ้าหนี้เมื่อวานนี้ เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป แต่เจ้าหน้าที่หลายรายของสหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวของกรีซ โดยระบุว่า ข้อเสนอเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ EU มอบเงินช่วยเหลืองวดต่อไป

    หุ้นเอชเอสบีซีปรับตัวลง 0.7% หลังจากทางบริษัทประกาศว่าจะขายธุรกิจในตุรกีและบราซิล พร้อมทั้งลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงราว 2.90 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดรายจ่าย และตั้งเป้าที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนต่อหุ้นอยู่ในระดับสูงกว่า 10% ภายในปี 2560

    อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1% ส่วนหุ้นกลุ่มประกันดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น AIG ปรับขึ้น 0.8% และหุ้นลินคอล์น เนชันแนล ขยับขึ้น 0.8% เช่นกัน

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 มิ.ย.2558

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,080.15 จุด                       เพิ่มขึ้น 0.87 จุด    +0.04%         

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,013.87 จุด                      ลดลง 7.76 จุด     -0.15%

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,764.04 จุด                          ลดลง 2.51 จุด     -0.01%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,001.29 จุด                            ลดลง 63.63 จุด    -0.58%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.80 จุด                     ลดลง 36.24 จุด    -0.53%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,850.22 จุด                          ลดลง 7.44 จุด     -0.15%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,191.87 จุด                             ลดลง 176.56 จุด   -1.88%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,096.30 จุด                       ลดลง 360.89 จุด   -1.76%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,064.03 จุด                           ลดลง 1.16 จุด     -0.06%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,479.70 จุด        ลดลง 26.80 จุด    -0.49%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,471.30 จุด              ลดลง 27.20 จุด    -0.49%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 5,113.53 จุด                       ลดลง 18.35 จุด    -0.36%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,323.44 จุด               ลดลง 161.45 จุด   -2.16%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,989.52 จุด                                ลดลง 326.76 จุด   -1.20%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,899.88 จุด       ลดลง 115.11 จุด   -2.30%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,729.05 จุด                      ลดลง 10.40 จุด    -0.60%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,295.13 จุด                       ลดลง 25.20 จุด    -0.76%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,481.25 จุด                         ลดลง 41.84 จุด    -0.16%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,764.04 จุด ลดลง 2.51 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,013.87 จุด ลดลง 7.76 จุด หรือ -0.15% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,080.15 จุด หรือ 0.04% เพิ่มขึ้น 0.87 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธข้อเสนอการปฎิรูปเศรษฐกิจของกรีซ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 383.87 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,850.22 จุด ลดลง 7.44 จุด หรือ -0.15% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,001.29 จุด ลดลง 63.63 จุด หรือ -0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,753.80 จุด ลดลง 36.24 จุด หรือ -0.53%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงหุ้นแองโกล อเมริกัน

          ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,753.80 จุด ลดลง 36.24 จุด หรือ -0.53%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่  1,177.6 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 0.2 เซนต์ ปิดที่ 15.957 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,108.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 739.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแรงของจีนทำให้นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินฝืด และหันไปให้ความสนใจกับสกุลเงินที่มีความปลอดภัย อย่างสกุลเงินเยน ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1276 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5375 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5334 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.35 เยน เทียบกับระดับ 124.61  เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9310 ฟรังก์ จาก 0.9293 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7682 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7696 ดอลลาร์

           

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 612.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, +0.33%

 

  อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!