WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET71ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ ลุ้นดีดขึ้นทางเทคนิค,ผลเฟดไม่ surprise

     นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ลุ้นดีดตัวขึ้นทางเทคนิคถึงระดับแนวต้าน 1,520 จุด ขณะที่การประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจ(surprise) ให้กับตลาดมากนัก โดยตลาดยังรอดูความคืบหน้ากรณีปัญหาหนี้กรีซ และการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันพรุ่งนี้ พร้อมมองดัชนีวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,520 จุด

   นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดจะยังแกว่งตัวในกรอบ 1,500-1,520 จุด โดยประเด็นที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ใช่เพียงเรื่องของปัจจัยเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่เข้ามาขับเคลื่อนตลาดด้วย ซึ่งภาพรวมของตลาดยังเป็นขาลง แต่ตลาดยังเล่นทางเทคนิคที่มีโอกาสจะปรับขึ้นระดับแนวต้าน 1,520 ได้ หากผ่านไปก็จะมีแนวต้านระดับถัดไปที่ 1,536 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,500 จุด

    สำหรับ ปัจจัยจากต่างประเทศในวันนนี้ การเคลื่อนไหวของตลาดภูมิภาคแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบไม่มาก แม้การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อคืนนี้ลงมติให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ surprise มากนัก ขณะที่ตลาดยังรอดูความคืบหน้าจากปัญหาหนี้กรีซ ที่รมว.คลังของประเทศยูโรโซนจะหารือกันในวันนี้ นอกจากนี้ตลาดยังรอดูการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจของธปท.ในวันพรุ่งนี้ด้วย

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(17 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,935.74 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด(+0.17%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,064.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด(+0.18%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด(+0.20%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 25.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 25.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 32.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 0.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.58 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 มิ.ย.58) 1,514.79 จุด เพิ่มขึ้น 11.51 จุด (+0.77%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 707.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 มิ.ย.58) ปิดที่ 59.92 ดอลลาร์/ บาร์เรล ลดลง 5 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 มิ.ย.58)ที่ 9.19 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.62/63 แข็งค่าหลังมติ FOMC ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

                - ฟิทช์ห่วงหนี้ครัวเรือนกดดันเศรษฐกิจไทย-มาเลเซีย เผชิญความท้าทายจากการชะลอตัวของจีน แต่เชื่อว่าแบงก์ใหญ่ยังรับมือได้ ด้าน ธปท.เร่งสำรวจสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ เพื่อสะท้อนผลกระทบต่อการบริโภค ย้ำการดูหนี้ต่อจีดีพียังตอบได้ไม่ชัด ผู้ประกอบการชี้การคุมดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลไม่เกิน 15% กระทบธุรกิจ หวังหารือ ธปท.และผู้ประกอบการก่อนบังคับใช้

                - "แบงก์ชาติ"มั่นใจเกณฑ์ ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องใหม่ ไม่กระทบแผนปล่อยสินเชื่อ เหตุหลายแบงก์ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องไว้สูงอยู่แล้ว ขณะที่บางรายอาจต้องปรับตัว โดยกระจายฐานผู้ฝากเงินเพิ่ม เชื่อยังมีเวลาเพียงพอ

                - สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเผยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 เม.ย. 58 มีทั้งสิ้น 5,775,710.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43.46% ของจีดีพี เทียบเดือนก่อนเพิ่มขึ้น 45,191.30 ล้านบาท ยันมีเสถียรภาพและมั่นคงเหตุส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว

                - "กกพ." แย้มข่าวดีค่าไฟงวดหน้า(ก.ย.-ธ.ค.58) ลงต่อแน่ แต่อาจไม่ลงแรงตามที่คาดไว้ 9.35 สตางค์ต่อหน่วยหลังพบต้นทุนบางส่วนเพิ่มขึ้นทั้งการผลิตไฟฟ้าจากน้ำที่ลดต่ำ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

                - "ประจิน" เข็นประมูล ไฮสปีดเทรน กรุงเทพ-หัวหินและกรุงเทพพัทยาปลายปีนี้ เริ่มสร้างกลางปี 59 พร้อมเร่ง ยุติเจรจาระบบรถสายสีแดงใน มิ.ย. "คมนาคม" จับมือสาธารณสุขและท่องเที่ยวปรับปรุงส้วมรถไฟ 77 สถานีเน้นแหล่งท่องเที่ยว เสร็จใน 150 วัน ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าปรับปรุง ห้องน้ำทุกสถานี และบนขบวนรถเสร็จปี 59 และให้ใช้ฟรี ยอมแบกรับต้นทุนวันละกว่า 2 แสนบาท พร้อมเตรียมปรับปรุงห้องส้วมรถชั้น 3 รุ่นเก่า 148 คันและทุ่ม 400 ล.ซื้อรถห้องน้ำระบบปิดพ่วงแต่ละขบวน

                - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้ลงนามในคำสั่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา เดินหน้าตามมติคณะรัฐมนตรีให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) แทนกระทรวงการคลัง โดยจะเริ่มเข้าตรวจสอบข้อมูลของแบงก์รัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ก่อน คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไป

                - นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงโครงการลงทุนซ่อมสร้างถนนและบริหารจัดการน้ำวงเงินรวม 8 หมื่นล้านบาท ว่า มีการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไปแล้วครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจะทำสัญญาได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีงบประมาณนี้ ปัจจุบันได้กู้มาแล้ว 3,000 ล้านบาท และจะเริ่มเบิกจ่ายภายในเดือน มิ.ย. ซึ่ง สบน.จะประเมินการเบิกจ่ายเงินกู้ก้อนแรกก่อนจะวางแผนกู้เงินก้อนที่สองต่อ

*หุ้นเด่นวันนี้

                - BLA(ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ให้เป้าหมาย 60 บาท ระบุว่าแม้จะปรับประมาณการกำไรลดลง 12-25% ในปี 2015-17 เนื่องจาก 1) BLA ตั้ง Reserve มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ใน 1Q15 ที่ผ่านมา และ 2) Benefit Payment ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับประมาณการกำไร และมูลค่าพื้นฐานลงไม่ได้ทำให้เรื่องราวการเติบโตของ BLA เปลี่ยนไป แม้ใช้ประมาณการกำไรที่ Conservative มากขึ้น แต่ยังคาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง เฉลี่ย 50% ต่อปีในช่วง 2015-16 ขณะที่กำไร 2Q15 จะเติบโตทั้ง y-y และ q-q  นอกจากนี้โอกาสในการตั้ง Reserve ในอนาคตลดลง เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประกันอื่นๆ ในเชิง Valuation จะเห็นว่ากำไร BLA มีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในปี 2015-16 ส่งผลให้ Valuation ในเชิง PE ลดลงเหลือ 12.4x ในปี 2014 ต่ำกว่าบริษัทประกันอื่นที่ซื้อขายที่ PE 14-16x

                - PTTGC (กรุงศรี) แนะ"ซื้อเก็งกำไร" โดยคาดกำไร 2Q15 เพิ่มขึ้น QoQ สวนทางบริษัทอื่นในกลุ่มพลังงานที่กำไรมีแนวโน้มลดลง แรงหนุนสำคัญมาจากราคาเม็ดพลาสติก HDPE และส่วนต่าง HDPE-Naphtha ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคา HDPE QTD เฉลี่ยที่  1,377$/ton เพิ่มขึ้น 15%qoq และ HDPE-Naphtha เฉลี่ยที่ 814$/ton เพิ่มขึ้น 16%qoq รวมถึงได้ประโยชน์ในช่วงน้ำมันขาขึ้น เพราะ PTTGC ใช้ GAS เป็นวัตถุดิบคิดเป็น 90% ของทั้งหมดซึ่งราคา GAS จะ lag time กับราคาน้ำมัน 3-6 เดือนจึงทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นช้ากว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้ Naphtha เป็นวัตถุดิบซึ่งราคาจะขึ้นตามราคาน้ำมันทันที

                - ITD (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ)แนะ"Trading Buy" ให้ราคาเป้าหมาย 12 บาท มองโครงการทวายเฟสแรก มูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีพัฒนาการในด้านบวกต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความล่าช้า  คาดจะเซ็นสัญญาได้ประมาณปลาย ก.ค. นี้  โครงการนี้ได้ยกระดับขึ้นมาเป็นความร่วมมือ 3 ฝ่าย คือ ไทย เมียนมาร์ และ ญี่ปุ่น  อนาคตจะมีโครงการขนาดใหญ่เชื่อมโครงการทวาย คือ มอเตอร์เวย์ และ รถไฟทางคู่ไทย-ญี่ปุ่น  สำหรับโครงการเหมืองโปแตสยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 เดือน ในการทำความเข้าใจกับกลุ่มต่อต้าน

                - ROBINS (บัวหลวง) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 56 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นหลังจากเยียมชมต้นแบบห้างใหม่ที่ จ.ระยอง การทยอยปรับโมเดลห้างสรรพสินค้าเพื่อเพิ่มส่วนการสันทนาการสำหรับลูกค้าเพิ่มขึ้น คาดจะดึงดูดให้ลูกค้า เข้ามาอยู่ในพื้นที่ห้างให้นานขึ้น และเกิดการใช้จ่ายของลูกค้ามากกว่าเดิม ระยะสั้นราคาหุ้นคาดชะลอจากงบ 2Q15 ยังไม่โดดเด่น แต่เรามองเป็นโอกาสในการสะสมระยะยาว

ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 146.71 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,193.59 จุด ลดลง 25.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,786.53 จุด เพิ่มขึ้น 32.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,189.44 จุด ลดลง 0.39 จุด

    ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,046.19 จุด เพิ่มขึ้น 11.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,324.16 จุด ลดลง 1.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,725.28 จุด ลดลง 1.58 จุด

   ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นขานรับการส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

   ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า ตลาดการเงินไม่ควรจดจ่ออยู่ที่กระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ตาม

   ในการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% และได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 29.55 จุด ตลาดวิตกปัญหาหนี้กรีซ

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) โดยดัชนี FTSE 100 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้สินกรีซ

    ดัชนี FTSE 100 ลดลง 29.55 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 6,680.55 จุด

     นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของการเจรจาโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซซึ่งจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้ ในขณะที่กรีซยังค้างชำระเงินให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาด

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

    อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ แต่ตลาดก็ได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย. ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เผยให้เห็นว่า กรรมการบริหารของธนาคารกลางมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

   ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษมองว่า อุปสรรคของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษเริ่มลดน้อยลง เมื่อถึงจุดหนึ่ง BoE อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าที่ระดับกำลังปกติ

   หุ้นเทสโก้ ร่วงลง 1.6% หลังจากบริษัทเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ให้อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นของบริษัทที่ผลประกอบการต่ำ

   หุ้นเบิร์คลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 10% หลังจากบริษัทรับสร้างบ้านยักษ์ใหญ่รายนี้เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเจรจาหนี้กรีซไม่คืบหน้า

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ความไม่คืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยุโรป อาจทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในช่วงปลายเดือนนี้ และอาจกดดันให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน

    ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ปรับลง 0.5% ปิดที่ 383.74 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,790.62 จุด ลดลง 49.24 จุด หรือ -1.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,978.01 จุด ลดลง 66.00 จุด หรือ -0.60% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,680.55 จุด ลดลง 29.55 จุด หรือ -0.44%

    ปัญหาหนี้กรีซยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา โดยล่าสุดธนาคารกลางกรีซได้ออกมาเตือนว่า กรีซมีความเสี่ยงที่จะถูกขับออกจากยูโรโซน และสหภาพยุโรป (EU) หากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันนี้

   ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งหากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ทันวันดังกล่าว กรีซก็จะประสบภาวะล้มละลาย และอาจต้องออกจากยูโรโซน

   หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ร่วงลงหนักสุด หลังจากเครดิต สวิส ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มซัพพลายเออร์ยานยนต์ในปี 2558-2559 เนื่องจากตลาดจีนชะลอตัวลง โดยหุ้นฟอเรเซีย เอสเอส ร่วงลง 6.3%

     อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ปรับขึ้น 2.5% และหุ้นลันดิน ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.7%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 31.26 จุด รับเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดบ.

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้  (17 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้

     ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,935.74 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,064.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,100.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด หรือ +0.20%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขานรับการส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า ตลาดการเงินไม่ควรจดจ่ออยู่ที่กระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ตาม

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟด 15 จาก 17 รายยังคงระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 หรือ 2 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

    อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากเฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2017 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%

   หุ้นทริปแอดไวเซอร์ พุ่งขึ้น 15% หลังจากที่บริษัททำข้อตกลงด้านการจองห้องพักร่วมกับแมร์ริออต อินเตอร์เนชันแนล ขณะที่หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ปรับขึ้น 1.2% และหุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทวางแผนซื้อคืนหุ้น

     อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.3%

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมรมว.คลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยหลายฝ่ายมองว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่โครงการให้ความช่วยเหลือกรีซของสหภาพยุโรป (EU) จะสิ้นสุดลงในในเดือนนี้

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 1/2558, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนมิ.ย.เฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board

 

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!