Details

Category: หุ้นเด่นวันนี้

Published: Friday, 04 July 2014 18:53

Hits: 3069

โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้า SET ปรับฐาน หลังทะลุ 1,500 จุด แต่เงินนอกยังไหลเข้า - แรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์หนุน แนะถือเงินสดหรือลุยกลุ่มแบงก์

   โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยปรับฐาน ด้วยแรงขายทำกำไรหลังดัชนีฯ ทะยานทะลุ 1,500 จุด ชี้จับตากระแสเงินทุนต่างชาติอาจไหลกลับจากการทำ LTRO ของ ECB พร้อมได้แรงหนุนจากหุ้นแบงก์ในช่วงประกาศงบ Q2/57 แนะทยอยขายทำกำไร ถือเงินสดเพิ่ม หรือลงทุนในหุ้นแบงก์ ประเมินแนวรับ 1,480-1,485 จุด แนวต้าน 1,515 - 1,520 จุด

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนบวก สามารถทะลุ 1,500 จุด ด้วยปัจจัยหนุนจากต่างประเทศเป็นหลัก หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด อีกทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากเดิมที่มีการทำ LTRO 400,000 ล้านยูโร จะมีการทำเพิ่มเติมอีก 600,000 ภายใต้เงื่อนไข หากธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้วงเงินแรก 400,000 ล้านยูโร อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากมีการทำ LTRO ได้ครบ 1,000,000 ล้านยูโร จะทำให้เกิดสภาพคล่องมหาศาล นำไปสู่การโยกการลงทุนไปยังตลาดเกินใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า จะทำให้กลุ่ม TIPs ซึ่งรวมไทยอยู่ด้วยได้รับผลประโยชน์

   สำหรับสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีฯ อาจปรับฐานอีกครั้ง เนื่องจาก Upside ค่อนข้างจำกัด หลังจากที่ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนทะลุ 1,500 จุด แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามเรื่องกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิด หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิสี่วันทำการติดต่อกัน แต่เริ่มแผ่วลงในช่วงสองวันทำการหลัง ทั้งนี้ ECB ส่งสัญญาณการทำ LTRO เพิ่มเติม จะยังเป็นผลดีต่อตลาดทุนทั่วโลก 

   ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ เรื่องการร่างรัฐมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จภายในกลางเดือนนี้ จะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นได้

   ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยขายทำกำไร ถือเงินสดเพิ่มขึ้น เพื่อรอเข้าซื้อในจังหวะอ่อนตัว โดยประเมินแนวรับ 1,485 จุด แนวต้าน 1,515 จุด

   นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17,000 จุด ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ การจ้างงานปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในประเทศนักลงทุนยังเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการโดดเด่น เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น

   "หุ้นวันนี้ปรับตัวดีมาก สามารถยืนขึ้นไปทดสอบที่ 1,500 จุดได้ ซึ่งเป็นเพราะมีข่าวดีหลายอย่าง คือ ข่าวดีในต่างประเทศ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีเกินคาด นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/57 ของบริษัทจดทะเบียนในหลักทรัพย์น่าจะออกมาดี เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกทำให้หุ้นขึ้นไปมาก" นายกวี กล่าว

   ส่วนแนวโน้มในรอบสัปดาห์หน้า คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยยังสามารถขึ้นไปได้ต่อ โดยนักลงทุนยังคงเข้าไปซื้อเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว ที่คาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 2/57 โดดเด่น โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,480 จุด แนวต้านที่ 1,520 ส่วนกลยุทธ์ในการลงทุนให้ลงทุนหุ้นเป็นรายตัว เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะมีการประกาศผลประกอบการออกมาเป็นกลุ่มแรก

   ด้านนายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาค หลังประกาศตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแรงตอบรับกับการรายงานผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งกระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

   สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะปรับตัวขึ้นสูงถึงระดับ 1,515 จุดได้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่หมุนเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังธนาคารโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้นจนเกรงว่าจะเกิดความเสี่ยงภาวะฟองสบู่เกิดขึ้นในภายภาคหน้า

   ส่วนความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเป็นประเด็นที่ติดตามได้อยู่ แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ช่วยหนุนตลาดฯในขณะนี้ เพราะให้น้ำหนักกับปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวมของต่างประเทศมากกว่า

   ทั้งนี้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาและหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ STEC, ITD, CK, QH, AP และ LH ที่คาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) และทยอยขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์บางส่วนออก โดยมองว่าช่วงตลอดเดือนก.ค.นี้เป็นช่วงเข้าซื้อ-ขายทำกำไรได้ดีกว่าเดือนส.ค. เพราะ เมื่อสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 แล้วจะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลง

   ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อ และรอจังหวะขายเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 1,510 จุด ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,490 จุด และแนวต้านที่ 1,515 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย