Details

Category: หุ้นเด่นวันนี้

Published: Friday, 09 May 2014 10:34

Hits: 4091

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งลงต่อ จับตาชุมนุมใหญ่ กปปส.-Fund Flow ต่างชาติ

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีแนวโน้มแกว่งลงต่อ แต่จะไม่รุนแรงเท่ากับช่วง 3 วัน ที่ผ่านมาโดยราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ให้จับตาดูการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ที่เริ่มต้นวันนี้เป็นวันแรก

รวมถึงให้จับตาดูในเรื่องของ Fund Flow ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิ แต่ตลาดสัญญาซื้อขายร่วงหน้า (TFEX) นักลงทุนต่างชาติได้ Short SET50 Index Futures สูงถึง 1.3 หมื่นสัญญา อาจจะส่งสัญญาณที่ไม่ดีในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,370-1,375 จุด แนวต้าน 1,390 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(7 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,550.97 จุด เพิ่มขึ้น 32.43 จุด (+0.20%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,875.63 จุด ลดลง 2.58 จุด (-0.14%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,051.50 จุด ลดลง 16.17 จุด(-0.40%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 61.80 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.23 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.61 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.14 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 พ.ค.) ที่ 1,379.02 จุด ลดลง 23.59 จุด(-1.68%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 13,865 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 พ.ค.57

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 พ.ค.)ที่ 100.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.51 ดอลลาร์หรือ 0.51%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 พ.ค.)ที่ 6.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.49/50 อ่อนค่าต่อเนื่องจากข่าว ECB-กังวลการเมือง

- มติป.ป.ช.เอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูล "ยิ่งลักษณ์" มีความผิดฐานปล่อยทุจริตจำนำข้าว ชงเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนตัดสิทธิการเมือง 5 ปี เดินหน้าไต่ส่วน ต่อคดีอาญา ด้านทีมกฎหมายเพื่อไทยเตรียมสู้ในขั้นวุฒิสภา "หมอวรงค์" พอใจมติ ลุ้นทั้งครม.เจออาญา ขณะผู้ส่งออกชี้เป็นความล้มเหลวโครงการรับจำนำ

- ททท.หวั่น 3 ปัจจัยลบ การเมือง-ภัยพิบัติ- ระเบิดหาดใหญ่ ฉุดท่องเที่ยวไทย ยอมรับมีโอกาสสูง ลดเป้าปีนี้ต่ำกว่า 28.4 ล้านคน หวังปี 2558 การเมืองคลี่คลาย เร่งเครื่องอัดรายได้ 2.2 ล้านล้านบาทแทนปีนี้ ขณะที่ กรมการท่องเที่ยวเผย 4 เดือน ตลาดต่างชาติหดตัว 4.9% รายได้เหลือ 4.04 แสนล้านบาท

- แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกให้พ้นจากตำแหน่ง รวมถึงรัฐมนตรี 10 คน ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ทำให้การกู้เงินงบกลางมีปัญหา เพราะการยืมงบกลางที่เกินกว่า 500 ล้านบาท ต้องใช้อำนาจ รมว.คลัง เป็นผู้เซ็นอนุมัติ

- อาฟเตอร์ช็อกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มือดีเหิมหนักขว้างระเบิดเอ็ม 67 ถล่มบ้าน "สุพจน์ ไข่มุกด์" ตุลาการศาล รธน. รพ.จุฬาภรณ์ ประณามยิงไร้มนุษยธรรม เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญขอกำลังเสริมอารักขาเข้มบ้านตุลาการฯ-สำนักงานศาล ประเมินสถานการณ์รายวันสั่งหยุดทำการต่อหรือไม่"จตุพร"รู้ทันก่อเหตุคล้ายปี 49 ปูทางปฏิวัติ ประกาศกร้าว"ป๋าเปรม"คู่ต่อสู้เสื้อแดงนัด 10 พ.ค.ยืดถนนอักษะท้าชนอำมาตย์ "กำนันเทือก"เดินเชิญแขกส่งท้ายสุขุมวิท โวมวลชนร่วมทะลัก อุบแผนเผด็จศึกไม่เกิน 5-7 วันปิดเกม ศอ.รส.จัดกำลัง 6 หมื่นนาย คั่นกลาง 2 ม็อบ

*หุ้นเด่นวันนี้

- AIT(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้าหมาย 42.25 บาท กำไร New high อัตรากำไรสูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส คาด 2Q57 ยังทรงตัวในระดับสูงจาก Backlog สูงที่ 5,000 ล้านบาท ครอบคลุมเกินกว่า 100% ของประมาณการรายได้ช่วงที่เหลือของปี แต่ยังคงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 623 ล้านบาท เติบโต 10% YoY เนื่องจากราคาตลาดยังมี Upside gain จากราคาเป้าหมายเดิม

- HEMRAJ(ฟินันเซียไซรัส)"ซื้อ"เป้าหมาย 4 บาท คาดกำไรปกติ 1Q14 เพิ่ม 70% Q-Q จากรายได้การโอนที่ดินทำสถิติสูงสุดใหม่ และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า Gheco-One ผลิตได้ดีขึ้น แต่กำไรลดลง 10% Y-Y เพราะส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมลดลง กำไรดังกล่าวคิดเป็น 25% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 26% Y-Y ซึ่งมาจาก Gheco-One ที่รับรู้รายได้เต็มปี ชดเชยธุรกิจหลักที่ชะลอ ดีกว่าผู้ประกอบการนิคมฯรายอื่น

ตลาดหุ้นเอเชียติดลบเช้านี้ หลังโตโยต้าคาดการณ์กำไรลดลง

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบและหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคหดตัวลง ขณะเดียวกันบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป คาดการณ์ว่าผลกำไรจะลดลง

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% ที่ระดับ 137.59 จุด เมื่อเวลา 9.20 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,101.98 จุด ลดลง 61.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,819.94 จุด ลดลง 17.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,943.14 จุด เพิ่มขึ้น 12.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,953.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,242.44 จุด ลดลง 5.25 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,859.70 จุด ลดลง 3.14 จุด

หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ขยับลง 0.2% หลังบริษัทคาดการณ์ว่าผลกำไรจะลดลง ขณะที่หุ้นเอ็นทีที ดาต้า คอร์ป ร่วงลง 3.3% หลังทำกำไรพลาดเป้า

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 42.81 จุด รับอีซีบีเล็งผ่อนคลายการเงิน

   ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเดือนมิ.ย.

    ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 42.81 จุด หรือ 0.63% ที่ 6,839.25 จุด

    อีซีบีตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ และประธานอีซีบีกล่าวหลังการประชุมว่า อีซีบีจะประเมินข้อมูลเศรษฐกิจก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

       หุ้นบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น 7.9% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากธนาคารประกาศว่าจะปรับลดการจ้างงาน 14,000 ตำแหน่งในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่วางแผนไว้

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับปธ.อีซีบีส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้า

ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 339.56 จุด

       ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,607.40 จุด เพิ่มขึ้น 86.10 จุด หรือ +0.90% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,507.24 จุด เพิ่มขึ้น 60.80 จุด หรือ +1.37% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,839.25 จุด เพิ่มขึ้น 42.81 จุด หรือ +0.63%

     ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นหลังจากนายดรากิออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า ซีบีอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย.นี้ พร้อมกับระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อรายปีของยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในอีกหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวขึ้นในช่วงปี 2558 จนถึงใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของอีซีบี ภายในสิ้นปี 2559

     นายดรากิ กล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้น ยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวปานกลางในไตรมาสแรกปีนี้ และขยายตัวต่อเนื่องในช่วงต้นของไตรมาสที่ 2" ส่วนในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

      หุ้นบีที กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2% แตะที่ 1.71 พันล้านปอนด์ในไตรมาสแรกปีนี้ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 1.66 พันล้านปอนด์

       หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ทะยานขึ้น 7.9% หลังจากมีรายงานว่าธนาคารเตรียมปรับลดจำนวนพนักงาน 7,000 คนในส่วนของวาณิชธนกิจ

      ส่วนหุ้นมิวนิค รี ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่อของยุโรป ดิ่งลง 1.2% หลังจากบริษัทืเปิดเผยรายได้สุทธิลดลงสู่ระดับ 919 ล้านยูโร

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 32.43 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ,จีน

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และยอดส่งออกของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดเคลื่อนตัวอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P 500 และ ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,550.97 จุด เพิ่มขึ้น 32.43 จุด หรือ +0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,051.50 จุด ลดลง 16.17 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,875.63 จุด ลดลง 2.58 จุด หรือ -0.14%

     ดัชนี ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนปรับตัวขึ้น 0.9% แตะที่ 1.8854 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.8% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.845 หมื่นล้านดอลลาร์

      ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 319,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 325,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งวุฒิสภาสหรัฐ โดยเน้นย้ำว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษในปัจจุบันต่อไป และยังกล่าวด้วยว่า เฟดไม่มีกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจากช่วง 0-0.25% ในปัจจุบัน

     หุ้นเทสลา มอเตอร์ส ร่วงลง 11.30% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่นักลงทุนวิตกกังวลหลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต

     อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นชีต้าห์ โมบาย ซึ่งเป็นบริษัทโมบายอินเตอร์เน็ตของจีนที่นำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้ ปิดที่ระดับ 14.10 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคา IPO ที่ระดับ 14 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นอาเมซอน และหุ้นอีเทรด ไฟแนนเชียล ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.5%

     หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นทรานส์โอเชียน ดิ่งลง 4.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 ขณะที่หุ้นเนเบอร์ส อินดัสทรีส์ ร่วงลง 3.1%

อินโฟเควสท์