WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์เทคนิค เกาะติดรัฐหารือกกต.เรื่องเลือกตั้ง

          นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ในทางเทคนิคหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไป วันติดต่อกันแล้ว นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังจากที่รัฐบาลจะหารือเรื่องวันเลือกตั้งกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในวันนี้ อีกทั้งช่วงนี้ก็มีการประชุมส.ว.ในการหารือเกี่ยวกับทางออกของประเทศ ซึ่งจะต้องติดตามดูต่อไป

          ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเฉลี่ย 0.5% ซึ่งช่วงนี้ต่างก็รอดูสถานการณ์ในยูเครน ประกอบกับรอดูผลการทบทวนของดัชนี MSCI ซึ่งคงจะทราบผลในพรุ่งนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,370 จุด แนวต้าน 1,380-1,385 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

          - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(13 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,715.44 จุด เพิ่มขึ้น 19.97 จุด (+0.12%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,897.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด (+0.04%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,130.17 จุด ลดลง 13.69 จุด(-0.33%)

          - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 39.84 จุดดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 132.11 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.11 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.06 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23.56 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 8.11 จุดดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.46 จุดดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.44 จุดดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 16.87 จุด

          - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 พ.ค.) ที่ 1,375.14 จุด ลดลง 2.23 จุด(-0.16%)

          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,245.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.57

          - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 พ.ค.)ที่ 101.70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์หรือ 1.1%

          - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 พ.ค.)ที่ 6.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

          - เงินบาทเปิดตลาด 32.59/61 แข็งค่าตามภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 32.45-32.55

          - ภาคธุรกิจเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมหาทางออกประเทศ ห่วงการเมืองหาทางออกไม่ได้ ประเทศเข้าสู่ภาวะไร้รัฐบาลปีนี้ ส่งผลกระทบ ความเชื่อมั่นหนัก"ศุภวุฒิ"คาดจีดีพีปีนี้ โต 1.1% จากส่งออก เลิกหวังลงทุน-บริโภคในประเทศ ขณะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคประคองตัว รับกำลังซื้อหดจากผู้บริโภค ไม่เชื่อมั่น-ไร้งบภาครัฐกระตุ้น

          - ประชุมนอกรอบวุฒิสภา วันไม่ได้ข้อสรุป หลัง ส.ว.เสียงแตกเรื่อง "นายกฯมาตรา 7" จนต้องนำเข้าถกในที่ประชุมลับ สรุปตั้งคณะทำงาน ชุดประสานองค์กรอื่น พร้อมสืบค้นข้อมูล และประชาสัมพันธ์ "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" ถอยก่อนตกเป็นเป้ามากกว่านี้ เจ้าตัวแถลงไม่เคยตั้งธง มาตรา ย้อนใครไม่เห็นด้วยก็ช่วยเสนอทางออก นัดองค์กรอิสระ-ภาคเอกชนหารือวันนี้ ไม่ปิดทางคุยรัฐบาล

          - "ไอเอ็มดี" ชี้การเมืองยืดเยื้อข้ามปี สร้างความไร้เสถียรภาพ-บั่นทอนความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ฉุดอันดับความสามารถแข่งขันของไทยปีนี้ มีแนวโน้มร่วงจากอันดับ 27 ระบุปัจจัยหนุนไทยขึ้น 20 อันดับแรก ต้องเพิ่มลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างภาวะแวดล้อมการเมืองมีเสถียรภาพ ส่วนเหตุขัดแย้งการเมืองขณะนี้ หวังทุกฝ่ายเจรจาอย่างสันติ

          - อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีปัญหาการเมืองและไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหาร แต่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม วงเงิน 2.52 ล้านล้านบาท ในรอบ เดือนแรก ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556-เม.ย. 2557 สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 1.42 ล้านล้านบาท หรือ 56.36% อย่างไรก็ตามยอดการเบิกจ่ายดังกล่าวยังต่ำกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย

          - เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เผยคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเห็นชอบให้เพิ่มเติมประเภทผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างประเทศที่ผู้ลงทุนประเภท AI (Accredited Investor) สามารถลงทุนได้ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะอนุญาตให้ผู้ลงทุนทั่วไปไปลงทุนในต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านสถาบันตัวกลางไทย

          - แบงก์ชาติเผยอัตราการเติบโตเอ็นพีแอลของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก 36.41% และ 52.41% ตามลำดับ ส่วนปริมาณการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 9.49 พันล้านบาท คิดเป็น 7.82% เพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นหลัก 7.94 พันล้านบาท เฉพาะธนาคารพาณิชย์ พันกว่าล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

          - QH (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 3.80 บาท กำไรปกติใน 1Q57 ราว 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY แต่ลดลง 13% QoQ เนื่องจากใน 4Q56 มีการเร่งบันทึกรายได้จากสินค้าคอนโดมีเนียมเข้ามามากกว่า ประเมินว่า 2Q57-4Q57 เติบโตต่อเนื่องจากใน 1Q57 ส่วนหนึ่งมาจากงานในมือที่รอบันทึกรายได้ 4.5 พันล้านบาท และใน 2Q57 มีแผนเปิดตัว โครงการใหม่ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการขยายตลาดไปยัง จ.ชลบุรี โดยปี 57 มีแผนเปิดตัว แห่ง ภายใต้แบรนด์ The Trust

          - THCOM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 43 บาท 1Q57 กำไรสุทธิ 399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% QoQ และ 21% YoY รายได้รวม 2,374 ล้านบาท เพิ่มต่อเนื่อง 34% YoY และ 4% QoQ จากธุรกิจดาวเทียมซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 89% ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 36% YoY คาด 2Q57 ผลการดำเนินงานปกติของบริษัทจะดีต่อเนื่องจากรายได้ดาวเทียมไทยคม เพิ่มขึ้นตามอัตราการให้บริการที่ขึ้นมาอยู่ที่ 60% จาก 40% ใน 1Q57 และต้นทุนลดลงสู่ปกติ

          - AP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 6.10 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q57 ที่ 265 ล้านบาท เติบโต +19.2% yoy จากการบันทึกกำไรต่อเนื่องของโครงการคอนโดฯ Rhythm สุขุมวิท 44/1 และ Rhythm พหลโยธินที่ทยอยโอนคต่อเนื่องตั้งแต่ 4Q56 ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกเก็งกำไรในระยะสั้นจากเปิดตัว คอนโดฯใหม่ ได้แก่ Rhythm อโศก 2, Rhythm สุขุมวิท 36-38 และ Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง สุดสัปดาห์นี้ และคาดราคาหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวก หากยอด Presales ออกมาดี อีกทั้งมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก

          - SINGER(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 22 บาท กำไรดีกว่าคาดอย่างน่าประทับใจ กำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 135% Q-Q และ 15% Y-Y ดีกว่าคาด 20% จากจากการเพิ่มราคาขายของสินค้าบางชนิด ยอดค้างชำระยังเพิ่มขึ้นเป็น 6.7% ของยอดลูกหนี้รวม แต่ Collection rate ยังสูงกว่า 90% แนวโน้ม 2Q14 จะดีขึ้นเพราะฤดูกาล

          - QH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 3.60 บาท กำไรดีกว่าคาด หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติ 1Q14 ลดลง 20% Q-Q แต่เพิ่ม 32% Y-Y ดีกว่าคาด 7% และคิดเป็น 19% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่คาดโต 3% Y-Y แนวโน้มกำไรปกติ 2Q-4Q14 จะดีขึ้นตามลำดับเนื่องจากจะเริ่มมีคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จทยอยโอน

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะตลาดยังจับตาผลประกอบการเอกชน

          ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูการเปิดเผยผลประกอบการของภาคเอกชน

          ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลงไม่ถึง 0.1% ที่ระดับ 139.32 จุด เมื่อเวลา 9.30 น.ตามเวลาโตเกียว

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,385.60 จุด ลดลง 39.84 จุดดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,484.49 จุด เพิ่มขึ้น 132.11 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,842.05 จุด เพิ่มขึ้น 24.11 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,990.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,245.99 จุด เพิ่มขึ้น 23.56 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1874.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 21.33 จุด ขานรับท่าทีบุนเดสแบงก์

          ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) แตะระดับสูงสุดนับแต่เดือนธ.ค.2542 ขานรับท่าทีของธนาคารกลางเยอรมนีที่จะสนับสนุนมาตรการของธนาคารกลางยุโรป

          ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 21.33 จุด หรือ 0.31% ที่ 6,873.08 จุด

          ตลาดได้รับแรงหนุนจากท่าทีที่ยืดหยุ่นของธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ที่ยินดีจะสนับสนุนมาตรการกระตุ้นทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

          วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บุนเดสแบงก์ระบุว่าจะสนับสนุนมาตรการของอีซีบีในเดือนหน้า หากการประเมินของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลงในปี 2559

          หุ้นบาร์เร็ทท์ ดีเวลล็อปเมนท์ และหุ้นเพอร์ซิมมอนต่างพุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจากมีรายงานว่าราคาบ้านในลอนดอนและพื้นที่ใกล้เคียงทะยานขึ้นเกือบ 16% ในเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ผลประกอบการเอกชนสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

          ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรป

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 341.89 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,754.43 จุด เพิ่มขึ้น 51.97 จุด หรือ +0.54% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,505.02 จุด เพิ่มขึ้น 11.37 จุด หรือ +0.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,754.43 จุด เพิ่มขึ้น 51.97 จุด หรือ +0.54%

          ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงสู่ระดับ 33.1 ในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 43.1

          อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนได้ช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยหุ้น ThyssenKrupp ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปี 2557 เป็น พันล้านยูโร พร้อมกับเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 269 ล้านยูโร

          หุ้นแอร์บัสทะยานขึ้น 6.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย ปรับตัวลดลงแตะ 700 ล้านยูโรในไตรมาสแรก แต่ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 659 ล้านยูโร

          หุ้นแพนโดรา ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องประดับชั้นนำของเดนมาร์ค พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 เป็น 1.05 หมื่นล้านโครเนอร์ หรือ 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ หมื่นล้านโครเนอร์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 19.97 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

          ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้

          ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,715.44 จุด เพิ่มขึ้น 19.97 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,897.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,130.17 จุด ลดลง 13.69 จุด หรือ -0.33%

          ดัชนี ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมี.ค. ขณะที่สต็อกสินค้าของกลุ่มผู้ผลิตขยับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.

          นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่เป็นบวกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยในแถลงการณ์ล่าสุดนั้น นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษในปัจจุบันต่อไป โดยระบุถึงตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ

          ทั้งนี้ เฟดได้ดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายทางการเงินที่มีจุดมุ่งหมายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากเผชิญวิกฤตการเงินในปี 2551

          หุ้น Keurig Green Mountain ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบดกาแฟสำหรับครัวเรือน พุ่งขึ้น 7.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทโคคา-โคลา ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Keurig Green Mountain เป็น 16% จากเดิม 10%

          หุ้นเวิร์ลพูล ดิ่งลง 2.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของลองโบว์ รีเสิร์ช ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

          นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัทวอล-มาร์ท บริษัทเมซี และบริษัทโคห์ล มีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!