WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสเจอแรงขายทำกำไร เกาะติดรัฐบาลหารือ กกต.

      นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเจอ profit taking หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวขึ้นแรง และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เปิดขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ขณะที่ดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงไปกว่า 100 จุด ซึ่งก็ไม่ได้มากอะไร

      ทั้งนี้ วันนี้คงจะต้องติดตามการหารือระหว่างรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หากสามารถกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ก็จะเป็น Positive ให้กับตลาดฯได้

     ส่วนปัจจัยจากนอกประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ยูเครน แม้จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่อาจมีผลกระทบไปที่ยุโรป ซึ่งอาจทำให้ Flow ไหลเข้าเอเชียมากขึ้น ส่วนปัจจุบันจะเห็นได้ว่า Flow แม้จะชะลอแต่ก็ยังคงไหลเข้าอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 จุด โดยแนะให้เล่น"เทรดดิ้ง"

      ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(14 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,613.97 จุด ลดลง 101.47 จุด (-0.61%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,888.53 จุด ลดลง 8.92 จุด(-0.47%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,100.63 จุด ลดลง 29.54 จุด(-0.72%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 125.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 143.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 22.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.19 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.50 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 พ.ค.) ที่ 1,396.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด(+1.52%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 183.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 พ.ค.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 พ.ค.)ที่ 102.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 พ.ค.)ที่ 5.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.42/43 ทรงตัวไร้ปัจจัยใหม่

     - วงหารือวุฒิสภากับ 12 องค์กรอิสระ ภาคเอกชน ยังไม่ได้ข้อสรุปทางออกประเทศ แต่เห็นตรงกันต้องมี"รัฐบาลอำนาจเต็ม"เผย 2 แนวทาง"รัฐบาลรักษาการลาออก-ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล"ระบุข้อมูลกกต.คาดใช้เวลา 8-12 เดือนเลือกตั้งใหม่เรียบร้อย ตั้งรัฐบาลได้ ด้าน"ธีรภัทร-คณิต"หนุนแนวคิดต้องมีคนเสียสละ ขณะที่"นิวัฒน์ธำรง"ย้ำไร้กฎหมายรองรับ

   - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่าหากวุฒิสภาไม่ตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ในวันที่ 17 พ.ค.ประชาชนจะปฏิบัติการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 หรือเรียกว่าปฏิวัติประชาชน

  - "วีรพงษ์" มองการเมืองกดเศรษฐกิจซบอีก 2-3 ปี อาจกระทบหากยังยืดเยื้อต่อไป คาดการเมืองยังไร้ทางออก หาคนกลางไม่ได้ ยกเว้นปาฏิหาริย์ ขณะ'บัณฑูร'เตือนประเทศใกล้"หน้าผา" จากวิกฤติการเมือง เรียกร้องทุกฝ่ายถอยคนละก้าว เตือนธุรกิจระวังการใช้จ่าย

   - สมาคมนักวิเคราะห์คงเป้าดัชนี 1,473 จุด กำไรบจ.เหลือ 11% เหตุการเมืองกดดันตลาด แนะนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากดัชนีตอบรับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้านบล.เอเซียพลัส เตรียมหั่นเป้ากำไรลง 2% หลังปตท.กำไรพลาดเป้ากดดันดัชนี แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น

    - ศุลกากรเข้มรีดภาษีช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 57 หลัง 7 เดือน รายได้วูบ 1.4 หมื่นล้านบาท โอดการเมืองอุปสรรคใหญ่ กระทบนำเข้าร่วม 3 แสนล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - OTO (บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์)เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI)โดยเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART) ซึ่งประกอบธุรกิจด้านการบริการลูกค้าผ่านศูนย์บริการข้อมูลครบวงจร (Contact Center) ประกอบด้วยการบริหารจัดการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ การบริการจัดหาเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ และการบริการระบบศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ รวมถึงการให้บริการออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ

    - MSCI Semi-Annual Index Review รอบนี้หุ้นขนาดใหญ่เพิ่ม 1 ตัวคือ BH ไม่มีหุ้นเอาออก ส่วนหุ้น Small Cap เพิ่ม 4 ตัว (BJCHI, MEGA, NYT, TTCL) เอาออก 6 ตัว (BH, GSTEL, GRAMMY, SITHAI, TUF, UMI) มีผล 30 พ.ค. 2014(ฟินันเซีย ไซรัส)

     - GUNKUL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 14.25 บาท กำไรดีกว่าคาด หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติใน 1Q14 เพิ่มขึ้น 60% Q-Q และ 483% Y-Y ดีกว่าคาดจากรายได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เข้ามามากกว่าคาด กำไรดังกล่าวคิดเป็น 38% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 121% Y-Y หากมีข้อมูลใหม่จากการประชุมปลายเดือนนี้ เราอาจปรับประมาณการอีกครั้ง

      - TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 12.70 บาท  จะรายงานผลงาน 1Q57 ช่วงเย็น และคาดว่าจะเป็น Positive Surprise ให้กับตลาด เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการตีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(NAV)ของ TRUEIF ที่เพิ่มขึ้นเป็น 74,127 ล้านบาท ณ สิ้นสุด 1Q57 จากสิ้นสุด 4Q56 ที่ 58.353 ล้านบาท จึงส่งผลให้ TRUE ได้ประโยชน์โดยตรงจากมูลค่า NAV ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากถือหุ้น TRUEIF อยู่ 33% คาดจะมีกำไรพิเศษจากรายการดังกล่าวสูงถึง 5 พันล้านบาท และส่งผลให้ 1Q57 พลิกเป็นกำไรสุทธิ ราว 2-2.5 พันล้านบาท และดีกว่าคาดเดิมที่ว่าจะขาดทุนสุทธิราว 2.7 พันล้านบาท และคาดผลประกอบการ 2Q57 มีโอกาสกำไรสุทธิต่อเนื่อง

    - TVD(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.68 บาท ผลงาน Turnaround ชัดเจนปีนี้ ล่าสุดกำไรสุทธิใน 1Q57 ที่ 26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% YoY และพลิกจากขาดทุน 12 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการปรับโครงสร้างการดำเนินงานภายในใหม่ ขณะที่หลังเพิ่มทุนในทีวีดี ช้อปปิ้ง(บริษัทย่อย)มองเป็นโอกาสในการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่านการบริหารของพันธมิตร"โมโม่"ซึ่งเป็นผู้นำตลาดโฮมช้อปปิ้งไต้หวัน นอกจากนี้ TVD มีโอกาสจ่ายปันผลพิเศษจากการขาย TVD Shopping จำนวน 125 ล้านบาทที่จะรับรู้กลางปี 2557 ประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ไว้ที่ 92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% YoY

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนลบ

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงอย่างหนักหลังจากที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.5% เมื่อเวลา 10.02 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,280.51 จุด ลดลง 125.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,044.38 จุด ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,726.59 จุด เพิ่มขึ้น 143.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,852.92 จุด ลดลง 22.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,007.88 จุด ลดลง 2.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,253.43 จุด ลดลง 5.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,878.01 จุด ลดลง 1.19 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,497.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.50 จุด

    ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง ร่วงลง 101.47 จุด หรือ -0.61% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย.ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลารวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 5.41 จุด รับถ้อยแถลงผู้ว่าการธ.กลางอังกฤษ

    ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) ขานรับความคิดเห็นของนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายอาจจะรอจนถึงปีหน้าในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 5.41 จุด หรือ 0.08% ที่ 6,878.49 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้

    หุ้นคอมพาส กรุ๊ปบวกขึ้น 1.6% หลังบริษัทรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนหุ้นมอนดิปรับขึ้น 1.3% เนื่องจากผลกำไรไตรมาสแรกทะยานขึ้น 13%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ผลประกอบการเอกชนอ่อนแอ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย

    ดัชนี Stoxx 600 ขยับลง 0.1% ปิดที่ 341.59 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,501.04 จุด ลดลง 3.98 จุด, -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,754.39 จุด ลดลง 0.04 จุด, 0.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,878.49 จุด เพิ่มขึ้น 5.41 จุด, +0.08%

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง ร่วงลง 101.47 จุด หรือ -0.61% เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย.ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลารวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

     นอกจากนี้ ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่งยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปซบเซาลงด้วย โดยหุ้นมีเดียเซท ดิ่งลง 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 12.5 ล้านยูโรในไตรมาสแรก ตรงข้ามกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่บริษัทมีกำไร 9.3 ล้านยูโร

    หุ้นบังโค คอมเมอร์เชียล ดิ่งลง 11% และหุ้นบังโค เอสปริโต ซานโต ร่วงลง 8.2% หลังจากหนังสือพิมพ์ไดอาริโอ อิโคโนมิโครายงานว่า ธนาคารทั้งสองแห่งวางแผนที่จะระดมทุนเพิ่ม

     ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้  แต่ลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.พ.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 101.47 จุด

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. ยังทำให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลารวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,613.97 จุด ร่วงลง 101.47 จุด หรือ -0.61% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,100.63 จุด ลดลง 29.54 จุด หรือ -0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,888.53 จุด ลดลง 8.92 จุด หรือ -0.47%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16,715.44 จุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2555 หรือในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

   ทั้งนี้ ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 2.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555

   หุ้นฟอสซิล กรุ๊ป อิงค์ ผู้ผลิตนาฬิกาชื่อดัง ร่วงลง 10% หลังบริษัทเผยตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่หุ้น Deere & Co. ดิ่งลง 2% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปี

     ส่วนหุ้นไอบีเอ็มร่วงลง 1.8% แม้ว่านางจินนี โรเมทตี ซีอีโอของไอบีเอ็มได้แสดงความเชื่อมั่นว่าทางบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ดีตามคาดในปีหน้า ถึงแม้ว่ายอดขายฮาร์ดแวร์ในตลาดเกิดใหม่จะชะลอตัวลงก็ตาม

    นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัทวอล-มาร์ท บริษัทเมซี และบริษัทโคห์ล มีกำหนดจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!