WORLD7

BANPU2024

powertime 950x100pxsmed MTI 720x100

 

กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ

ผลการโอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้มีการโอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (โครงการฯ) ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน 3,025,596 ราย โดยมีผลการโอนเงินแบ่งเป็น โอนเงินสำเร็จจำนวน 2,825,076 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 93.37) โอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 200,520 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 6.63)

สำหรับ สาเหตุที่โอนเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ (ร้อยละ 97.10 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่โอนเงินไม่สำเร็จ) ยังไม่ลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เพื่อผูกบัญชีเงินฝากกับเลขประจำตัวประชาชน และสาเหตุอื่นๆ (ร้อยละ 2.90 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่โอนเงินไม่สำเร็จ) ได้แก่ สถานะบัญชีมีปัญหาไม่สามารถใช้งานหรือรับโอนเงินได้

โฆษกกระทรวงการคลังขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตรวจสอบผลการจ่ายเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน`ทางรัฐ`ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยหากปรากฏผลว่าโอนเงินไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะมีการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกจำนวน 3 ครั้ง จึงขอให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเร่งติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากด้วยเลขประจำตัวประชาชน

ส่วนประชาชน ที่เคยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนแล้วให้ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชีดังกล่าวว่า มีปัญหาใด เช่น บัญชีธนาคารถูกปิด บัญชีธนาคารติดเงื่อนไข บัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เป็นต้น และขอแก้ไขตามแต่ละกรณี โดยอาจจำเป็นต้องผูกพร้อมเพย์กับบัญชีใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในรอบถัดไป ดังนี้

 กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ

รอบจ่ายซ้ำ  จ่ายเงินภายในวันที่   ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่

ครั้งที่ 1  28 กุมภาพันธ์ 2568  25 กุมภาพันธ์ 2568

ครั้งที่ 2  28 มีนาคม 2568  25 มีนาคม 2568

ครั้งที่ 3  28 เมษายน 2568  23 เมษายน 2568

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า สำหรับ ผู้มีสิทธิอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นบุคคลล้มละลายสามารถขอรับเงินตามโครงการฯ ได้ โดยต้องไปกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตเปิด/ใช้บัญชีเพื่อรับเงินตามโครงการฯ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของกรมบังคับคดี และจัดส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการกรอกแบบฟอร์มถึงธนาคาร

เพื่อขอให้ธนาคารเปิดบัญชีให้บุคคลล้มละลาย หรือยกเลิกการอายัดบัญชีของบุคคลล้มละลาย เพื่อรับเงินตามโครงการฯ อย่างไรก็ดี ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะไม่สามารถขอทบทวนหรืออุทธรณ์สิทธิได้ ดังนั้น กรณีเป็นผู้ลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จ ขอให้รอติดตามข่าวสารเพื่อรับทราบความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจากรัฐบาลต่อไป

และหากประสงค์จะร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิการได้รับเงินของตนสามารถดำเนินการยื่นเรื่องผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ช่องทางต่างๆ อาทิ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สายด่วน 1111 ศูนย์ดำรงธรรม รวมถึงผ่านช่องทางร้องทุกข์ของกระทรวงหรือกรมที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั้งสิ้น 2,825,076 ราย ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 28,250.76 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินส่วนนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและครอบครัวต่อไป

  

ช่องทางการสอบถามข้อมูล

1. ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิ และผลการได้รับเงินในโครงการฯ แอปพลิเคชัน `ทางรัฐ`

2. เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการฯ เว็บไซต์กระทรวงการคลัง www.mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (https://mof.go.th/th/detail/2024-12-27-15-36-42/2024-12-27-15-42-50)

3. Call Center สำหรับ สอบถามข้อมูลทั่วไปของโครงการฯ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!