WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gอภศกด ตนตวรวงศรมว.คลัง จี้สรรพากร หาข้อสรุปเก็บภาษีทักษิณขายหุ้นชินฯก่อนหมดอายุความสิ้น มี.ค.

     นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวถึงการเรียกเก็บภาษีเงินได้ 16,000 ล้านบาท จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้จากการขายหุ้น บมจ.อินทัช (INTUCH) หรือเดิมคือ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้แก่บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัดว่า เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งได้ฝากให้กรมสรรพากรดูแลเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และดำเนินการไปตามข้อกฎหมาย

      สำหรับ การขยายอายุความที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.60 นั้น คณะกรรมการวินิจัยฉัยภาษีอากร กระทรวงการคลัง ได้พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งการขยายอายุความต้องขยายเพื่อเป็นคุณเท่านั้น เช่น กรณีที่เสียภาษีไม่ครบแล้วจะมาขอเสียภาษีเพิ่มเติมก็สามารถขยายเวลาให้ได้ แต่หากจะเป็นการขยายเวลาแล้วทำให้คดีเหมือนกับไม่มีอายุความก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะผิดเจตนารมย์ของข้อกฎหมาย ดังนั้นกรมสรรพากรจะต้องไปหาแนวทางอื่นเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ดังกล่าวก่อนที่จะหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.นี้

      "สรรพากรต้องหาช่องทางอื่นว่าจะทำได้แค่ไหน...ต้องสรุปให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ เราให้นโยบายสรรพากรว่าต้องทำไปตามกฎหมาย"นายอภิศักดิ์ กล่าว

     รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงฯ ไม่ได้รู้สึกกดดันกับเรื่องดังกล่าว แม้จะเป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ที่กระทรวงการคลังและกรมสรรพากรจะต้องดำเนินการ และหากในท้ายสุดกรมสรรพากรไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ก็ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ได้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ซึ่งหากชี้แจงได้อย่างมีเหตุผลก็จะไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

     รมว.คลัง ยังกล่าวถึงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)ในอัตรา 7% ว่า กระทรวงการคลังจะคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ระดับ 7% ต่อไปอีก 1 ปี หลังจากจะสิ้นสุดระยะเวลาการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.นี้

นายกฯ รอสรรพากรสรุปเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป ด้าน กก.วินิจฉัยภาษีระบุไม่ได้อยู่ในขอบเขตหน้าที่ชี้ขาด

      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเก็บภาษีเงินได้จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้กับกองทุนเทมาเส็กเมื่อปี 49 มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.นี้ว่าได้มอบหมายให้กรมสรรพากรไปติดตามเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งรัฐบาลต้องรอฟังรายงานสรุปอีกครั้ง

     ด้านนายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรวันนี้มีความเห็นพ้องกันว่าไม่สามารถขยายเวลาการออกหมายเรียกผู้ยื่นแบบชำระภาษีที่ยังค้างชำระภาษีไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องออกไปจากกำหนดเดิม 5 ปีได้ เนื่องจากในเจตนารมย์ของประมวลกฎหมายรัษฎากร ต้องการให้กรมสรรพากรเร่งดำเนินการตามกระบวนการในการสืบสวนและออกหมายเรียก เพื่อให้บุคคลมาเสียภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด

     "การประชุมในครั้งนี้กรมสรรพากรได้หารือว่าจะสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 3 อัฎฐ วรรคสอง ของประมวลรัษฎากร ที่ระบุว่ากำหนดเวลาต่างๆ ที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร เมื่อมีเหตุสมควรหรือจำเป็น และรัฐมนตรีเห็นเป็นการสมควรจะขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลานั้นออกไปอีกตามความจำเป็นแก่กรณีได้ เพื่อขยายเวลาในการออกหมายเรียกให้บุคคลเพื่อประเมินการเสียภาษีได้หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันว่าไม่อาจขยายเวลาได้ และเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน จึงได้มอบหมายให้กรมสรรพากรกลับไปร่างคำวินิจฉัยของที่ประชุมในวันนี้ เพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้กับทุกคน"นายประภาศ กล่าว

        วันนี้ กรมสรรพากรได้ขอหารือกับที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร เพื่อให้พิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมาตรา 19 ในประมวลรัษฎากรที่ระบุว่ากรณีที่ผู้ยื่นแบบเสียภาษี แต่เสียภาษีไม่ครบ ไม่ถูกต้องตามความจริง หรือไม่บริบูรณ์ ให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวนภายในเวลา 5 ปี และกรมสรรพากรมีอำนาจประเมินภาษีในระยะเวลา 10 ปี และหากกรมสรรพากรไม่ออกหมายเรียกภายใน 5 ปี ก็จะไม่มีอำนาจการประเมินภาษี

     นายประภาศ ยืนยันว่าการหารือของคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติกับผู้เสียภาษีทุกราย ไม่ได้เจาะจงลงไปกับการเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ ของอดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่การเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะดำเนินการว่าจะประเมินภาษีหรือไม่ และการประชุมในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการพิจารณาถึงกรณีหุ้นชินคอร์ปแต่อย่างใด ดังนั้น รายละเอียดในเรื่องดังกล่าวจึงไม่ได้อยู่ในขอบเขตของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร

     "การประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลโดยตรงกับกรณีหุ้นชินคอร์ป แต่เป็นการประชุมเพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจนตามข้อกฎหมายว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่ออกหมายเรียกเพื่อประเมินภาษีภายในระยะเวลา 5 ปีตามที่กำหนด ก็ไม่สามารถประเมินภาษีได้ ส่วนคดีหุ้นชินคอร์ปนั้น คงต้องไปดูในรายละเอียดว่ามีเหตุอันควรหรือไม่ ซึ่งไม่ขอก้าวล่วงเกี่ยวกับข้อวินิจัยในส่วนนี้" รองปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

     สำหรับ กรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไม่ออกหมายเรียกภายใน 5 ปี และทำให้ประเมินภาษีไม่ได้จะมีความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายประภาศ กล่าวว่า ต้องไปพิจารณาว่าหากเจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้วว่าต้องออกหมายเรียก แต่ไม่ดำเนินการก็ถือว่ามีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ต้องไปดูในรายละเอียดเชิงลึกประกอบด้วย

    อย่างไรก็ดี กรณีการขายหุ้นชินคอร์ปของนายทักษิณเกิดขึ้นในปี 49 และต้องยื่นแบบภายใน 31 มี.ค.50 ซึ่งนายทักษิณ ไม่ได้แสดงรายได้ที่เกิดจากการขายหุ้นเพื่อเสียภาษี ทั้งนี้ การประเมินภาษีจะหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.60 และก่อนหน้านี้กรมสรรพากรไม่เคยออกหมายเรียกนายทักษิณภายใน 5 ปี

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!