WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gกฤษฎา จนะวจารณะ 4สรรพสามิต ถกค่ายรถยนต์ ทำความเข้าใจภาษีใหม่ ปี 61 ถอนขนห่านตามเป้า

      ไทยโพสต์ * ‘สรรพสามิต’ แจงถกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำความเข้าใจแนวทางการจัดเก็บภาษีตามกฎหมายใหม่ ยันไม่มีปัญหา พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจทุกอุตสาหกรรม เชื่อเศรษฐกิจฟื้นดันการใช้จ่ายเพิ่ม หนุนจัดเก็บรายได้ปีงบ 61 ไม่พลาดเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท

        นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผย ว่า ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประ กอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับแนวทางการจัด เก็บภาษีรถยนต์ตามพระราช บัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพ สามิต ปี 2560 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในทางปฏิบัติจะมีกระบวนการที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม นั่นคือการเปลี่ยนวิธีการคำนวณภาษีจากเดิมใช้ฐานราคานำเข้า มาเป็นราคาขายปลีก แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางการจัดเก็บภาษีของกรมแต่อย่างใด

       "ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เข้าใจดี ไม่มีข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับภาษีใหม่แต่อย่างใด แม้ว่า ในรายละเอียดของกฎหมายจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยการที่กรมได้เรียกผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์เข้ามาหารือ ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการ และขั้นตอนในการจ่ายภาษี เพราะมีบางอย่างที่ปรับเปลี่ยนไป เช่น การ กรอกเอกสาร ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด" นายกฤษฎากล่าว

      นายกฤษฎา กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือกับผู้ประ กอบการในหลายๆ ภาคอุตสาห กรรม และหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องภายใต้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ วัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดเข้าใจและให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร

       ทั้งนี้ มั่นใจว่าการจัดเก็บ ภาษีของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2561 จะเป็นไป ได้ตามเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้มีการบริโภคและการใช้จ่ายมาก ขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมมีการวิเคราะห์ข้อมูลภาษีสรรพสามิตที่จะเกิด ขึ้นในอนาคต เช่น กรณีที่ประ เทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จะส่งผลกระทบกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งให้วิเคราะห์แนวทางการจัดเก็บภาษีในอนาคตเพื่อให้เกิดความเหมาะสม เป็นธรรม และโปร่งใส เพื่อให้การทำงานของกรมสรรพสามิตมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

       อย่างไรก็ดี ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วง 11 เดือนปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-ส.ค.60) จัดเก็บรายได้รวมอยู่ที่ 5.16 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.25 หมื่นล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ได้แก่ ภาษีน้ำมัน สูงกว่าเป้าหมาย 2.07 หมื่นล้านบาท, ภาษีเบียร์ สูงกว่าเป้าหมาย 5.02 พันล้านบาท

      รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ทำให้การนำเข้ารถยนต์หรูของบริษัทผู้นำเข้าอิสระ (เกรย์มาเก็ต) น้อยลงมาก เนื่องจากอัตรา ภาษีสรรพสามิตสูงขึ้นมาก เพราะมีการเก็บภาษีจากราคาขายปลีก ไม่ได้ใช่ราคาสำแดงนำเข้าที่ส่วนใหญ่มีการสำแดงต่ำกว่าเป็นจริงมาก นอกจากนี้ในส่วนของกรมศุลกากรก็เข็มงวดราคาสำแดงนำเข้าอย่างมาก เพื่อให้มีการสำแดงใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด เพราะการเก็บภาษีนำเข้าของกรมศุลกากรยังใช้ราคาสำแดงนำเข้าอยู่.

ตั้งเป้ารีด 6 แสนล. สรรพสามิตลุ้นปีหน้า'ภาษีบาป'ดันรายได้

        แนวหน้า : นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิตกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามการเสียภาษี ของประเภทสินค้าสำคัญอย่างใกล้ชิด เช่น ภาษีน้ำมัน สุรา เบียร์ ยาสูบ และโดยเฉพาะภาษีนำเข้ารถยนต์ ซึ่งกรมได้หารือ ร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ เพื่อชี้แจง และทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 ซึ่งได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา โดยในทางปฏิบัติ จะมีกระบวนการที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม คือการเปลี่ยนวิธีการ คำนวณภาษีจากเดิมใช้ฐานราคานำเข้า มาเป็นราคาขายปลีก แนะนำ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางการจัดเก็บภาษีของกรมแต่อย่างใด

        "ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เข้าใจดี ไม่มีข้อวิตกกังวล เกี่ยวกับภาษีใหม่แต่อย่างใด แม้ว่าจะในรายละเอียดของกฎหมายจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ ประเด็นสำคัญ โดยการที่กรมได้เรียกผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมรถยนต์เข้ามาหารือ ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการ และขั้นตอนในการจ่ายภาษี เพราะมีบางอย่างที่ปรับเปลี่ยนไป เช่น การกรอกเอกสาร ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากังวล"

       นายกฤษฎา กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการ หารือกับผู้ประกอบการในหลายๆ ภาคอุตสาหกรรม และหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องภายใต้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ วัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดเข้าใจและให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร

       นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของ กรมมีการวิเคราะห์ข้อมูลภาษีสรรพสามิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น กรณีที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และการเก็บภาษี 2% จากภาษีบาปเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ว่าจะส่งผลกระทบกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตหรือไม่ รวมถึงให้วิเคราะห์แนวทางการจัดเก็บภาษีในอนาคตให้เกิดความเหมาะสม เป็นธรรม และโปร่งใส เพื่อให้การทำงานของกรมสรรพสามิต มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

       นายกฤษฎา กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเป็นปีงบประมาณแรกที่พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้มีการบริโภคและการใช้จ่ายมากขึ้น

       โดยผลการจัดเก็บรายได้ของ กรมสรรพสามิต ในช่วง 11 เดือนปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559-สิงหาคม 2560) พบว่า จัดเก็บรายได้ รวมอยู่ที่ 5.16 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.25 หมื่นล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ได้แก่ ภาษีน้ำมัน สูงกว่าเป้าหมาย 2.07 หมื่นล้านบาท ภาษีเบียร์ สูงกว่า เป้าหมาย 5,000 ล้านบาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!