WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

เยาวชนคนรุ่นใหม่ เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล

   ไทยโพสต์ : การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการอนุรักษ์ผืนป่า ต้นน้ำ เพราะเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งสำคัญต่อทุกชีวิต และเป็นต้นกำเนิดของพลังงานด้วย "ไฟฟ้า" ที่ใช้กันทุกวันนี้มีที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

   ซึ่ง นางสาวจณิน วัฒนปฤดา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร เอ็กโก กรุ๊ป และเลขาธิการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการจัดโครงการค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า ซึ่งจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 17 ปี มีการฝึกอบรมเยาวชนมาแล้ว 42 รุ่น รวมกว่า 2,700 คน

    สำหรับในปี 2557 นี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงจับมือกับ 2 พันธมิตรสำคัญอย่างมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้สานต่อโครงการ 'ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า รุ่นที่ 43' ภายใต้แนวคิด'คนเล็กในป่าใหญ่...เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล' ด้วยการพาเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งคัดเลือกมาจากโรงเรียนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 59 คน เดินทางสู่อ้อมกอดแห่งธรรมชาติ สัมผัสประสบการณ์ตรงในการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศและความสัมพันธ์ในธรรมชาติ ตลอดจนสัมผัสวิถีชีวิต "คนต้นน้ำ ชาวปกาเกอะญอ"ซึ่งมีวิถีชีวิตเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติมากๆเพื่อปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้กับเยาวชน ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และหมู่บ้านสันดินแดง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22-29 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา

    รูปแบบกิจกรรมของค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า เอ็กโก กรุ๊ป ต้องการให้น้องๆ เยาวชนได้มีประสบการณ์ตรงจากการสัมผัส ด้วยการเรียนรู้ ใช้ชีวิต และเข้าถึงด้วยตนเอง ในเรื่องของธรรมชาติก็ต้องเข้าไปเรียนรู้อยู่ในธรรมชาติจริงๆ ด้วยการใช้ 'เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน'ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาป่าเมฆดอยอินทนนท์ ระยะทางเดินประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่เอ็กโก กรุ๊ป และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้เข้าไปพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นสื่อในการเรียนรู้ เยาวชนก็จะได้ไปเรียนรู้ความสัมพันธ์เรื่องดิน น้ำ ป่า และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าบริเวณนั้น ที่สำคัญคือเรื่อง'การใช้ชีวิตร่วมกับคนต้นน้ำ' ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของค่ายเยาวชนฯ สำหรับปีนี้เลยก็ว่าได้

   "เราให้น้องๆ เข้ามาใช้ชีวิตอยู่กับชุมชนชาวปกาเกอะญอ บ้านสันดินแดง ในฐานะที่เป็นลูกเป็นหลาน เข้ามาอยู่แบบนอบน้อมถ่อมตน และใช้ชีวิตอยู่เหมือนเป็นบ้านของตนเอง เรียนรู้สิ่งที่มีคุณค่าของชาวปกาเกอะญอ นั่นคือ การดูแลป่า เช่น กิจกรรมทำฝายชะลอน้ำ กิจกรรมทำแนวกันไฟ เพราะชาวปกาเกอะญอมีสุภาษิตว่า'อยู่กับน้ำต้องดูแลน้ำ อยู่กับป่าต้องดูแลป่า'เรียกว่าเราให้เยาวชนได้มาสัมผัสคนต้นน้ำ ที่สำคัญคือ ได้สัมผัสหัวใจของคนต้นน้ำอย่างแท้จริง ผ่านการมีประสบการณ์ตรง"คุณจณินกล่าว

    สิ่งที่เยาวชนจะได้รับกลับไปจากการมาเข้าค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า ก็คือ 1) การทดสอบตัวเองว่าสามารถที่จะอยู่กับสภาพที่ไม่คุ้นชินได้อย่างไร เขาจะได้เรียนรู้เรื่องการอยู่กับตัวเอง 2) การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมค่ายอย่างเกื้อกูล เพราะทุกคนมาจากต่างโรงเรียน ต่างจังหวัด แต่ต้องมาอยู่รวมกันในสถานที่ที่ต่างก็ไม่รู้จักกันมาก่อน 3) การสร้างความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เช่น ชาวปกาเกอะญอ เยาวชนก็จะได้เรียนรู้ว่าน้ำใจเล็กๆ ของคนบนดอยมีคุณค่ากับพวกเขามากน้อยแค่ไหน 4) และที่สำคัญที่สุด คือ เยาวชนจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ เมื่อกลับไปที่โรงเรียนแล้ว เขาสามารถที่จะคิด มีโอกาสออกแบบชีวิตประจำวันของตนเองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรกับธรรมชาติไม่แพ้กับชาวปกาเกอะญอ ถือว่าเป็นการร่วมดูแลป่าต้นน้ำ โดยการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!