Details

Category: กีฬา

Published: Friday, 05 June 2015 15:10

Hits: 3432

ไทยประเดิม 2 ทอง-บอลชนะมาเลย์ ปิงปอง ฟันดาบ สุดสะใจ

      ทัพนักกีฬาไทยประเดิม 2 เหรียญทองซีเกมส์ จาก 'นนทพัฒน์ ปานจันทร์' ฟันดาบฟอยล์ชาย และ 'น้องหญิง'สุธาสินี เสวตรบุตร นักปิงปองสาวน้อยจากระนอง สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวครั้งแรกในรอบ 32 ปี หลังโชว์ฟอร์มโค่นนักปิงปองเจ้าภาพโอนสัญชาติจากจีน มือ 4 ของโลก แล้วเข้าไปปราบนักตบสาวมาเลย์ในรอบชิงฯ ขณะที่ นักเตะ 'ช้างศึก' ไทย เชือด 'เสือเหลือง' มาเลเซีย 1-0 เก็บชัยชนะนัดที่สาม กัปตันทีม 'ตัง'สารัช อยู่เย็น ตะบันประตูชัยช่วงท้ายเกม ช่วยให้แชมป์เก่ากรุยทางเข้ารอบตัดเชือกสดใส ขณะที่มาเลย์ตกรอบแรกแบบหมดลาย 'บังยี'ควักอัดฉีดให้ถึงขอบสนาม 1 ล้าน นัดต่อไปวันเสาร์เจอบรูไน 'โค้ชโชค' แย้มอาจพักผู้เล่นบางรายไว้รอทำศึกใหญ่กับเวียดนามในนัดสุดท้ายเพื่อชิงแชมป์กลุ่ม

วันที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8955 ข่าวสดรายวัน

       มหกรรมกีฬาของประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ฤกษ์เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการวันนี้ ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจากประเทศสิงคโปร์ว่า พิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 จะมีขึ้นวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย.ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ภายในสปอร์ตฮับ โดยประธานพิธีคือ โทนี่ ตัน ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ในส่วนของประเทศไทย "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านกีฬาของประเทศ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้แทนรัฐบาลไปร่วมพิธี โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) เริ่มถ่ายทอดสดเวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง 3 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการแสดง สิงคโปร์เจ้าภาพเน้นเนื้อหาการมีส่วนร่วมของชาติอาเซียนทั้ง 11 ชาติ ซึ่งมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่มาเฉลิมฉลองความพิเศษของซีเกมส์ร่วมกัน โดยใช้นักแสดง 5,000 คน และทหาร 3,500 คน ซึ่งการแสดงพิธีเปิดทั้งหมดผู้ชมจะมีส่วนร่วมด้วย โดยเจ้าภาพแจกกล่องพลาสติก 6 เหลี่ยมพร้อมกับสายห้อยคอให้กับผู้ชมทั้ง 55,000 คนในสนาม สามารถใช้ดูภาพบนจอแอลอีดีในสนามได้ หลังจากจบพิธีเปิดผู้ชมนำกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย

2 ทองแรก - นนทพัฒน์ ปานจันทร์ นักกีฬาฟันดาบ และ "น้องหญิง"สุธาสินี เสวตร บุตร นักปิงปองมือ 1 ของไทย ขึ้นรับเหรียญทองแรกและเหรียญทองที่สอง ประเดิมให้กับทัพนักกีฬาไทย ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์

         นอกจากนี้ เจ้าภาพยังนำเสนอเทคโนโลยีใหม่การนำเสนอการแสดง โดยเฉพาะการนำนักแสดงและอุปกรณ์ประกอบฉากเคลื่อนที่หรือลอยเข้ามาในสนาม รวมทั้งใช้จอแอลอีดีประกอบการแสดง จำนวน 160 จอ ถือว่ามากที่สุดสำหรับพิธีเปิดมหกรรมต่างๆ เท่าที่เคยมีมา ทำลายสถิติจำนวนจอภาพมากที่สุดในโลกของพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่มีจำนวน 146 จอ
      ทางด้านทัพนักกีฬาไทยจะเดินขบวนเข้าสนามเป็นลำดับที่ 8 เรียงตามตัวอักษร นำโดย "เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลชื่อดังของเอเชีย จะทำหน้าที่ถือธงชาติไทยนำขบวน ต่อด้วย "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย
      ส่วนผู้จุดคบเพลิงเปิดการแข่งขัน เจ้าภาพยังปิดไว้เป็นเซอร์ไพรส์และไฮไลต์ของพิธีการ แต่คาดว่าผู้จุดคบเพลิงคือ ฟานดี้ อาหมัด อดีตกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติสิงคโปร์หลายสมัย ซึ่งได้รับยกย่องเป็นนักฟุตบอลดาราเอเชีย เคยได้ 3 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และ ฟานดี้ เออร์ฟาน ลูกชาย นักเตะซีเกมส์ครั้งนี้จะร่วมจุดคบเพลิงด้วยกัน
      ทั้งนี้ ยังมีอดีตนักกีฬาทีมชาติสิงคโปรชื่อดังร่วมวิ่งคบเพลิงด้วย อาทิ โจเซลิน โย อดีตยอดนักว่ายน้ำหญิง เจ้าของ 40 เหรียญจากซีเกมส์ 8 ครั้ง, ตัน หัว เหลียง นักยกน้ำหนัก และนักกีฬาคนแรกของสิงคโปร์ที่คว้าเหรียญโอลิมปิก โดยได้เหรียญเงินในโอลิมปิกเกมส์ 1960 รวมทั้งโจเซฟ สกูลลิ่ง ฉลามหนุ่ม 5 เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 27 และเจ้าของเหรียญทองผีเสื้อ 100 เมตร เอเชี่ยนเกมส์ 2014 ที่อินชอน เกาหลีใต้
     ทัพนักกีฬาไทยประเดิมเหรียญทองแรกแล้วจากฟันดาบ ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจาก โอซีบีซี อารีน่า ฮอลล์ 2 ฟันดาบรอบแบ่งกลุ่ม ฟอยล์ชาย นนทพัฒน์ ปานจันทร์ รอบ 5 คน แข่ง 4 นัด ชนะ 4 นัดรวด ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย พบ ริกกี้ กูนาร์โต้ จากอินโดนีเซีย ที่ชนะ ศุภกร ศรีแตงอ่อน รอบ 16 คนสุดท้าย 15-10 ผลปรากฏว่า นนทพัฒน์ แก้แค้นให้เพื่อนร่วมชาติสำเร็จ โดยชนะ ริกกี้ ขาดลอย 15-6 คะแนน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ พบ เควิน เจอร์รอล์ด ชาน จากสิงคโปร์ ซึ่งนนทพัฒน์ยังฟอร์มร้อนแรงฟันชนะคู่แข่งจากสิงคโปร์ไปขาดลอย 15-6 
      เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ นนทพัฒน์ พบกับ เหงียน มินห์ กวง จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า นนทพัฒน์ โชว์เพลงดาบเหนือชั้น ชนะไปได้ 15-11 คว้าเหรียญทองแรกมาครองให้ทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ
       "นนท์"นนทพัฒน์กล่าวว่า รอบชิงชนะเลิศเป็นงานยากที่สุดเท่าที่เคยแข่งมาในซีเกมส์ คู่แข่งคนนี้เคยเจอกันมา ตอนนั้นเขาแพ้เราขาด แต่ตอนนี้สู้กันแบบได้ลุ้นมาก แต่ดีใจที่เก็บเหรียญทองส่งท้ายการเลิกเล่นฟันดาบของตัวเองได้สำเร็จ โดยทองนี้เป็นทองที่ 7 ในชีวิต จากการแข่งขัน 6 สมัย ขอมอบให้กับนักกีฬาทีมชาติรุ่นหลังๆ ไว้เป็นกำลังใจว่าทุกคนสามารถคว้าเหรียญทองมาไว้ในมือได้
     "จากนี้ ยังมีแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่สิงคโปร์อีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งขอดูร่างกายก่อนว่าไหวมั้ย แต่เท่าที่คิดไว้คือจะเลิกเล่นแล้ว เนื่องจากต้องการกลับไปดูกิจการโรงเรียนฟันดาบของตัวเองที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียด้วย" ฮีโร่เหรียญทองซีเกมส์แรกของทัพกีฬาไทย กล่าว
      ส่วนการแข่งขันฟันดาบ เอเป้หญิง วิจิตตา ทาคำวงศ์ รอบแบ่งกลุ่ม 7 คน ชนะ 3 ครั้ง ผ่าน เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ชนะ ไอดาร์ อิสนาวาตี้ จากอินโดนีเซีย 15-9 ผ่านเข้ารอบ 8 คน ชนะ ลิม เชริล จาก สิงคโปร์ 15-14 ทะลุรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ ทราน ทิ เลน จาก เวียดนาม 8-15 ได้เหรียญทองแดง ขณะที่วันวิภา ทองเผือก รอบ 6 คน ชนะ 2 นัด เข้ารอบ 16 คน แพ้ ราเนีย เฮอร์ลินา ราฮาร์ดจา จากสิงคโปร์ 9-15 
     เซเบอร์หญิง ศิรวลัย สตารัตน์ รอบแบ่งกลุ่ม 5 คน ชนะ 2 ครั้ง ผ่านเข้ารอบ 8 คน พบ เหงียน ทิ ทานห์ ลูน จากเวียดนาม ผลปรากฏว่า ศิรวลัย ชนะ 15-12 เข้ารอบรองชนะเลิศ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ชนะ เหลา ยเวน จากสิงคโปร์ 15-13 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศิรวลัย พยายามโชว์เพลงดาบเต็มที่ แต่ต้านความแข็งแกร่งของ เหงียน ทิ เล ดัง ที่เอาชนะพรสวรรค์ เงินรุ่งเรืองโรจน์ ในรอบรองชนะเลิศ 15-9 ไม่ได้ แพ้ไปอีก 5-15 ได้เหรียญเงิน ส่วน พรสวรรค์ ที่แพ้ในรอบรอง ได้เหรียญทองแดง 
      สรุปผลงานนักฟันดาบไทย วันนี้เก็บได้ 1 ทอง 1 เงิน 2 ทองแดง
      เหรียญทองที่สองได้จากเทเบิลเทนนิส แข่งที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม ประเภทเดี่ยว "หญิง"สุธาสินี เสวตรบุตร มือ 107 ของโลก ซึ่งเพิ่งได้เหรียญเงินประเภทคู่ผสม และเหรียญทองแดงหญิงคู่ ลงสนามรอบแรกแบบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย สร้างผลงานล็อกถล่มเอาชนะ เฟิง เทียน เหว่ย มืออันดับ 4 ของโลก 3-1 เกม 9-11, 12-10, 11-7, 11-9 ทำให้สุธาสินี นักตบลูกเด้งวัย 20 ปีจากระนอง มีสถิติชนะ 4 เกมรวด คว้าแชมป์กลุ่ม ซี พร้อมเขี่ย เฟิง เทียน เหว่ย ตกรอบแรก และเป็นความพ่ายแพ้ต่อนักตบลูกเด้งไทยเป็นครั้งแรกในการเล่นซีเกมส์อีกด้วย และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่นักตบสาว ลอดช่องไม่เข้ารอบตัดเชือกแม้แต่คนเดียว พร้อมทั้งทำลายความหวังที่สิงคโปร์ต้องการครอง 7 เหรียญทองทันที
      รอบตัดเชือก สุธาสินี พบ ไหม ฮอง ไหมตรัง จากเวียดนาม สาวไทยเสียท่าโดนนำห่างถึง 0-3 เกม แต่โชว์ความสุดยอดเอาคืน 4 เกมรวด พลิกกลับมาชนะ 4-3 เกม 16-18, 10-12, 9-11, 13-11, 11-5, 11-9, 11-9 เข้ารอบชิงพบ อึง ซอก คิม จากมาเลเซีย ก่อนโชว์การรับการตบเอาชนะ 4-2 เกม 7-11, 11-5, 11-8, 9-11, 11-6, 9-11 คว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวได้สำเร็จ ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของนักตบสาวไทยในรอบ 32 ปี หลังจากพัชรินทร์ ลอยไสว ทำไว้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่สิงคโปร์ ปี 2526 เพราะหลังจากนั้นสิงคโปร์นำนักปิงปองจากประเทศจีน โอนสัญชาติมาแข่งขัน เก็บเหรียญทองเป็น เจ้าปิงปองซีเกมส์มาตลอด
      น้องหญิง กล่าวว่า รู้สึกเหมือนฝันเลยที่สามารถคว้าเหรียญทองแรกได้ ก่อนมาแข่งขันไม่คิดว่าจะมาไกลถึงขนาดนี้ เกมสุดท้ายรู้สึกกดดัน แต่บอกตัวเองว่าทำให้ดีที่สุด ไม่กดดันตัวเอง ตีให้คู่แข่งเล่นยากที่สุด เน้นตั้งรับและยื้อเข้าไว้ หวังว่าจะได้เข้าชิงชนะเลิศประเภททีมหญิงให้ได้ ตั้งเป้าอยากไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้สักครั้ง
       จากผลงานความสำเร็จ น้องหญิง รับอัดฉีดไปแล้ว 350,000 บาท จากเหรียญทองหญิงเดี่ยว 200,000 บาท, เหรียญเงิน คู่ผสม 100,000 บาท และเหรียญทองแดงคู่ผสม 50,000 บาท
      ด้านชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ "ไบรท์" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล พ่าย เกา หนิง คู่ปรับเก่าไป 2-4 เกม 11-9, 3-11, 12-10, 6-11, 6-11, 11-13 ได้เหรียญทองแดง
       ส่วน "แป๋ว"นันทนา คำวงศ์ นักตบมือเก๋า พ่าย อึ้ง ซอก คิม จากมาเลเซีย นัดสุดท้าย สายดี 2-3 เกม 11-6, 9-11, 8-11, 11-7, 7-11 ทำให้มีสถิติ 2 แพ้ 1 เป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ดี ตกรอบแรก
      วันเดียวกัน ที่บิชาน สเตเดี้ยม นักเตะ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่ 3 พบคู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซีย สถิติ 2 นัดแรก ไทยชนะลาว 6-0 และชนะติมอร์ เลสเต 1-0 เก็บ 6 แต้มเต็ม ส่วนมาเลเซีย มี 3 แต้ม จากการชนะติมอร์ เลสเต 1-0 และแพ้เวียดนาม 1-5 เกมนี้จึงมีความหมายกับทั้ง 2 ทีม โดยไทยต้องการชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบ ส่วนมาเลเซียตกอยู่ในสภาพเสือลำบาก หากแพ้นัดนี้ก็หมายถึงการตกรอบแรกตั้งแต่ยังเตะไม่ครบโปรแกรม
     เกมนี้ "โค้ชโชค"โชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือใหญ่ ส่งสุริยา สิงห์มุ้ย ลงเล่นแบ๊กซ้ายแทน พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นยังยึดผู้เล่นเดิม ประกอบด้วย ชนินทร์ แซ่เอียะ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อาทิตย์ ดาวสว่าง, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก, นูรูล ศรียานเก็ม และชนานันท์ ป้อมบุบผา
      เริ่มเกมครึ่งแรก ทัพเสือเหลืองเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ไทยทันที และได้ทักทายก่อนจากลูกฟรีคิกแต่ชนินทร์เซฟเอาไว้ได้ จากนั้นนาที 5 ไทยโต้คืนบ้างโดยชนาธิปเปิดบอลข้ามแนวรับมาเลเซียให้ชนานันท์ได้ซัดด้วยซ้ายแต่ไม่ตรงกรอบ นาที 15 มาเลเซียเกือบได้ประตู เมื่อสตีเว่น ร็อบแบต กัปตันทีมหลุดเดี่ยวเข้าดวลกับชนินทร์ตัวต่อตัว แต่แนวรับไทยเข้ากดดันส่งผลให้กัปตันทีมเสือเหลืองยิงออกไป 
      จากนั้นนาที 16 ไทยได้ลูกเตะมุม นูรูล เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ ผู้รักษาประตูมาเลเซียออกมาปัดบอลไปเข้าทาง ฐิติพันธ์วิ่งชาร์จเข้ามาแปเต็มๆ ด้วยเท้าขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น นาที 27 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำ นฤบดินทร์โยนบอลจากกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ ฐิติพันธ์ คนเดิมโดดขึ้นโขกโล่งๆ ออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่เหลือไทยครองบอลได้ต่อเนื่องแต่ยังจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0
       เริ่มครึ่งหลังเพียงนาทีเดียว ชนาธิปใช้ความสามารถเฉพาะตัว ลากเลื้อยฝ่ากองหลังมาเลเซียตัดเข้ากลางมาหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งตรงเข้ากรอบ แต่ไปแฉลบกองหลังมาเลเซียออกหลัง นาทีที่ 56 มาเลเซียทำเอากองเชียร์แชมป์เก่าเกือบหัวใจวาย เมื่ออิบราฮิม อัซวารี่ หลุดเข้ามาหน้าเขตโทษก่อนล็อกหลบเข้าในแล้วบรรจงปั่นเน้นๆ ชนินทร์ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้
      นาทีที่ 64 เสือเหลืองได้โอกาสสวนกลับ อิบราฮิม อัซวารี่ พาบอลจี้เข้ามาใกล้เขตโทษก่อนโยกหลอกอาทิตย์ แล้วเปิดด้วยขวาไปหน้าปากประตู ธนบูรณ์ยังยืนทางบอลได้ดีโหม่งสกัดทิ้งไปได้ จังหวะต่อเนื่อง สุริยา สิงห์มุ้ย แบ๊กซ้ายได้รับบาดเจ็บจากจังหวะปะทะกับผู้เล่นมาเลเซีย ลงไปนอนต้องหามออกข้างสนามแต่ยังสามารถลุกกลับขึ้นมาเล่นต่อได้ นาที 68 ธนบูรณ์ได้โอกาสยิงไกลจากกลางสนาม บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาแรก อบู บาการ์ ผู้รักษาประตูเสือเหลืองพุ่งรับแต่บอลกระฉอกไปเข้าทางชนานันท์เข้ามาซัดเต็มข้อแต่บอลติดบล็อกกองหลังออกหลังไป จากนั้นทีมช้างศึกปรับแท็กติก เปลี่ยนตัวผู้เล่นส่ง ตริสตอง โด นักเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ลงเล่นแบ๊กแทนสุริยาที่เจ็บ และส่งเชาว์วัฒน์ วีระชาติ ลงมาแทนฐิติพันธ์
       นาทีที่ 80 กองเชียร์ไทยได้เฮลั่นสนาม จากจังหวะตริสตอง โด จ่ายบอลเข้ากลางให้สารัช อยู่เย็น จับบอลก่อนล็อกหลบแนวรับมาเลเซียหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งหนีมือผู้รักษาประตูมาเลเซียเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ไทยขึ้นนำมาเลเซีย 1-0 ได้สำเร็จ
      หลังทะลวงประตูแรกได้สำเร็จ เกมรุกไทยเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และเกือบได้ประตูที่สองอีกหลายครั้ง นาที 85 นูรูลหลุดเดี่ยวเข้ามาดวลกับอบู บาการ์ ตัวต่อตัว แต่กลับยิงติดตัวนายทวารเสือเหลือง ท้ายเกมแชมป์เก่าเล่นผ่อนลงทำลายเวลาจนหมดเวลา จบเกมไทย ชนะ มาเลเซีย 1-0 ส่งผลให้แชมป์เก่าเก็บ 9 คะแนนเต็ม สถิติชนะรวด 3 นัด ยังไม่เสียประตู ขณะที่มาเลเซีย มีเพียง 3 แต้ม สถิติชนะ 1 แพ้ 2 ต้องลุ้นเหนื่อยให้ลาวพลิกเอาชนะเวียดนามให้ได้สถานเดียว หากเวียดนามชนะ มาเลเซียจะตกรอบแรกทันที
      โปรแกรมนัดต่อไป ไทยจะพบบรูไน วันเสาร์ที่ 6 มิ.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
      หลังเกม "โค้ชโชค"โชคทวี พรหมรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึก กล่าวว่า เกมนี้ไทยเก็บ 3 แต้มสำคัญได้ ซึ่งสภาพอากาศร้อนจัดแบบนี้มีผลกับทั้งสองทีม อยู่ที่ใครจะมีสภาพร่างกายดีกว่ากัน ไทยทำได้ดีกว่าในจุดนี้ ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บมีกังวลที่ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองหลังตัวหลักที่ปะทะช่วงท้ายเกมบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนสุริยาเป็นตะคริวแค่นั้น การที่ชนะในเกมนี้ทำให้นัดต่อไปกับบรูไน เราสามารถพักผู้เล่นบางคนได้
      กุนซือดีกรีอดีตกองหลังทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า เกมนี้ผิดแผนจากทีแรกที่คิดว่ามาเลเซียจะมาเปิดเกมบุก แต่กลับใช้เกมสวนกลับแทน ทำให้ไทยต้องเปลี่ยนแนวการเล่น แต่ก็ให้เดินเกมตามปกติ แค่ระวังหลังเท่านั้น ถือว่านักเตะทำผลงานได้น่าพอใจ เพราะมองไว้ว่าสักนาทีที่ 70-80 นักเตะมาเลเซียจะออกอาการ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
     "ตอนนี้ยังไม่มองถึงการคว้าแชมป์ ขอมองไปทีละเกมๆ ดีกว่า ส่วนเกมรุกที่ดูอาจจะมีการเข้าทำน้อย ก็คงต้องเพิ่มการเข้าทำให้มากกว่านี้" โค้ชโชคกล่าวปิดท้าย
      ด้าน "บังยี"นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มาให้กำลังใจนักเตะถึงขอบสนาม กล่าวว่า นักเตะเราทำผลงานได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าจะเจอสภาพอากาศที่ร้อน ขอชมนักเตะว่าเล่นกันได้ดี มีโอกาสทำประตูมาก ถึงได้เพียงประตูเดียวก็ไม่เสียหาย ตอนนี้โอกาสเข้ารอบเกือบ 100% แล้ว จากนี้ต้องไปตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่มกับเวียดนามในนัดสุดท้าย ชัยชนะนัดนี้ตนมีเงินอัดฉีดให้ 1 ล้านบาท ตามที่ได้สัญญาไว้ ถ้าหากคว้าแชมป์ได้ก็จะมีอัดฉีดให้อีก 10 ล้านบาท
     "เสี่ยเปี๊ยก"สมศักดิ์ ศิริธรรม กล่าวว่า พอใจมากกับผลการแข่งขัน ต้องชมความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้เล่นทุกคนที่ช่วยกันเล่นจนเอาชัยชนะได้ตามเป้าหมาย เกมนี้มาเลเซียเล่นได้ดีแพ็กแน่นและโต้กลับได้ดี ที่สำคัญแรงไม่มีหมดทำให้เราต้องใช้เวลานานกว่าจะยิงประตูได้ ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศหากเป็นไปได้อยากเจอกับพม่ามากกว่า เพราะการเจอกับสิงคโปร์ เจ้าภาพน่าจะเล่นยากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องเป็นสิงคโปร์เองว่าจะเลือกเจอไทยหรือว่าเจอทีมอื่น
      ส่วน "ตัง"สารัช อยู่เย็น กัปตันทีม ผู้ยิงประตูชัย กล่าวว่า พอใจกับตัวเองที่ยิงประตูได้ และพาทีมเก็บชัยชนะ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ตนเคยแพ้มาเลเซียและตกรอบแรก ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาเชียร์ในสนาม และที่ติดตามทางการถ่ายทอดสดอยู่ที่เมืองไทย ตนและเพื่อนร่วมทีมจะรักษามาตรฐานพร้อมทั้งยกระดับตัวเองขึ้นไปอีก
      ขณะที่ อ่อง คิม สวี โค้ชมาเลเซีย กล่าวอย่างผิดหวังว่า มาเลเซียโชคไม่ดีที่ต้องมาเจอทีมอย่างไทยและเวียดนามในกลุ่มเดียวกัน และยิ่งแพ้เวียดนามมาทำให้อยู่ในสถานการณ์ลำบาก ครั้งนี้มีเวลาเตรียมทีมแค่ 3 สัปดาห์ ต่างจากตอนได้แชมป์ที่มีเวลาเตรียมทีมกว่า 2 ปี ขณะที่นักเตะไทยส่วนหนึ่งมาจากชุดแชมป์ซูซูกิ คัพ ทำให้มีความสัมพันธ์ในทีมที่ดีกว่าเรามาก หลังจากนี้ขอดูผล 2 นัดที่เหลือ ถ้าหากทำได้ไม่ดีตนอาจจะพิจารณาตัวเองลาออกจากตำแหน่ง