WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โรงแรมที่สมุย คาดภาคธุรกิจจะได้รับอานิสงค์จากการเดินทางสู่เกาะได้สะดวกมากขึ้น

        ภาคการท่องเที่ยวของเกาะสมุยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กรมการบินพลเรือนได้อนุมัติให้สนามบินสมุยสามารถรับเที่ยวบินเข้า-ออกเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ 36 เที่ยวบิน เป็นวันละ 50 เที่ยวบิน คาดว่าธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุยจะได้รับอานิสงค์ เนื่องจากการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นน่าจะช่วยดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะสมุยเพิ่มมากขึ้น ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์)

    ปัจจุบันมีสายการบิน 5 สายที่บินตรงสู่เกาะสมุยจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ ฮ่องกง จอร์จทาวน์ กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ และคุนหมิง สายการบินทั้งห้านี้ประกอบด้วยบางกอกแอร์เวย์ส การบินไทย ไฟเออร์ฟลาย ซิลค์แอร์ และลัคกี้แอร์ โดยลัคกี้แอร์เป็นสายการบินล่าสุดที่เปิดเที่ยวบินตรงสู่สมุยจากคุนหมิง โดยให้บริการสามเที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งในปัจจุบันสนามบินสมุยมีเที่ยวบินเข้าและออกเฉลี่ยประมาณ 38 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีสายการบินแอร์เอเชียที่แม้จะไม่บินตรงสู่สมุย แต่มีแพ็คเก็จ all-in-one ซึ่งรวมตั๋วเครื่องบินจากรุงเทพฯ สู่สุราษฎร์ธานีพร้อมบริการรถและเรือไปยังเกาะสมุย

      นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหารหน่วยบริการธุรกิจโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่า “การเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของสนามบินสมุย นอกจากจะช่วยเปิดโอกาสให้มีบริการเที่ยวบินตรงสู่สมุยได้มากขึ้น ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสมุยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับภาคธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย เนื่องจากความต้องการใช้บริการห้องพักโรงแรมมีแนวโน้มขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น”

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจโรงแรมของกรุงเทพฯ แทบไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตลาดโรงแรมของสมุย โดยข้อมูลจาก  STR Global ระบุว่าในปี 2557 การเข้าใช้บริการห้องพักโรงแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราเฉลี่ย 57.8% ลดลงจากระดับเฉลี่ย 74.3% ในปี 2556 ในขณะที่โรงแรมบนเกาะสมุยยังคงมีอัตราการเข้าใช้บริการห้องพักเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ในระดับที่สูงกว่า 70%

    นายแลงดอน กล่าว่า “มีปัจจัยบางประการที่ช่วยพยุงผลประกอบการของภาคธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุยในปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกเหนือจากการไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองแล้ว การมีอุปทานหรือซัพพลายใหม่ไม่มากนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยได้มาก โดยในปีที่ผ่านมา มีโรงแรมเปิดใหม่บนเกาะสมุยเพียง 1 แห่ง คือ โอโซ่ เฉวง สมุย ขนาด 208 ห้องพัก”

     โรงแรมที่บริหารโดยเชนโรงแรมใหญ่ของไทยและต่างประเทศที่จะมีกำหนดเปิดใหม่ระหว่างปี 2558 ถึง 2561 บนเกาะสมุย คิดเป็นจำนวนห้องพักอีก 680 ห้อง ซึ่งเจแอลแอลเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าใช้บริการห้องพักโดยรวมของโรงแรมบนเกาะ

     “มีแนวโน้มว่าความต้องการใช้บริการห้องพักจะขยายตัวเพิ่มในระดับที่สามารถรองรับซัพพลายที่เพิ่มขึ้นได้ จากการที่การเดินทางสู่สมุยของนักท่องเที่ยวมีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังเกาะสมุยมาจากออสเตรเลียและยุโรป พบว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียเดินทางเข้ามาเที่ยวที่สมุยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการที่มีเที่ยวบินตรงมายังสมุย” นายแลงดอนกล่าว

    คาดว่า เกาะสมุยจะยังคงสถานภาพของการเป็นตลาดโรงแรม-รีสอร์ทระดับไฮเอ็นด์ โดยจะยังคงมีเชนบริหารโรงแรมระดับหรูเข้ามามากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากโครงการก่อสร้างโรงแรมใหม่ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสี่ถึงห้าดาว นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า โรงแรมหลายๆ โรงแรมบนเกาะสมุยมีการรีแบรนด์ อาทิ เดอะ พาสเสจ สมุย วิลล่า แอนด์ รีสอร์ท รีแบรนด์ใหม่เป็น โมเวนพิค รีสอร์ท แหลมใหญ่บีช และอิมพีเรียล สมุย บีช รีแบรนด์เป็นเชอราตัน สมุย ซึ่งจะเปิดบริการภายใต้แบรนด์ใหม่ในเดือนเมษายนปีนี้

“ในขณะเดียวกัน จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวเอเชียที่เดินทางมาสมุยมีแนวโน้มขยายตัว จึงมีโอกาสมากขึ้นสำหรับพัฒนาโรงแรมระดับกลางและราคาประหยัด ดังจะเห็นได้จากการประสบความสำเร็จของโอโซ่ เฉวง สมุย ที่เปิดใหม่ในปีที่ผ่านมา” นายแลงดอนสรุป

 

โรงแรม/รีสอร์ทที่มีกำหนดเปิดใหม่บนเกาะสมุย*

โรงแรม

จำนวนห้องพัก

พรานา รีสอร์ท นันดารา (1 ก.พ. 2558)

60

โคซี สมุย เฉวง (2559)

154

โซฟิเทล โซ เกาะสมุย (2559)

120

ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส สมุย บ่อผุด (2560)

200

ฮอลิเดย์ อินน์ สมุย บ่อผุด (2561)

150

*หมายเหตุ – เฉพาะโรงแรมที่บริหารโดยเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงของไทยและเชนโรงแรมระหว่างประเทศ

ที่มา – หน่วยบริการธุรกิจโรงแรม เจแอลแอล

 

เกี่ยวกับเจแอลแอล

เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดำเนินธุรกิจบริการและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ใน 80 ประเทศ โดยในประเทศไทย เปิดดำเนินการนับตั้งแต่ปี 2533 และปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ มีพนักงานกว่า 1,400 คน และสำนักงานในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา

ต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดติดต่อ

คุณวินัย – ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เจแอลแอล

02 624 6540 winai.jaiton@ap.jll.com

www.joneslanglasalle.co.th

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!