- Details
-
Category: ท่องเที่ยว
-
Published: Wednesday, 18 February 2015 16:09
-
Hits: 2687
อย่าลืม!...กดไลน์-แชร์กันด้วยนะครับ
โรงแรมที่สมุย คาดภาคธุรกิจจะได้รับอานิสงค์จากการเดินทางสู่เกาะได้สะดวกมากขึ้น
ภาคการท่องเที่ยวของเกาะสมุยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กรมการบินพลเรือนได้อนุมัติให้สนามบินสมุยสามารถรับเที่ยวบินเข้า-ออกเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ 36 เที่ยวบิน เป็นวันละ 50 เที่ยวบิน คาดว่าธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุยจะได้รับอานิสงค์ เนื่องจากการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นน่าจะช่วยดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะสมุยเพิ่มมากขึ้น ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์)
ปัจจุบันมีสายการบิน 5 สายที่บินตรงสู่เกาะสมุยจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ ฮ่องกง จอร์จทาวน์ กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ และคุนหมิง สายการบินทั้งห้านี้ประกอบด้วยบางกอกแอร์เวย์ส การบินไทย ไฟเออร์ฟลาย ซิลค์แอร์ และลัคกี้แอร์ โดยลัคกี้แอร์เป็นสายการบินล่าสุดที่เปิดเที่ยวบินตรงสู่สมุยจากคุนหมิง โดยให้บริการสามเที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งในปัจจุบันสนามบินสมุยมีเที่ยวบินเข้าและออกเฉลี่ยประมาณ 38 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีสายการบินแอร์เอเชียที่แม้จะไม่บินตรงสู่สมุย แต่มีแพ็คเก็จ all-in-one ซึ่งรวมตั๋วเครื่องบินจากรุงเทพฯ สู่สุราษฎร์ธานีพร้อมบริการรถและเรือไปยังเกาะสมุย
นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหารหน่วยบริการธุรกิจโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่า “การเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของสนามบินสมุย นอกจากจะช่วยเปิดโอกาสให้มีบริการเที่ยวบินตรงสู่สมุยได้มากขึ้น ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสมุยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับภาคธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย เนื่องจากความต้องการใช้บริการห้องพักโรงแรมมีแนวโน้มขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น”
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจโรงแรมของกรุงเทพฯ แทบไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตลาดโรงแรมของสมุย โดยข้อมูลจาก STR Global ระบุว่าในปี 2557 การเข้าใช้บริการห้องพักโรงแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราเฉลี่ย 57.8% ลดลงจากระดับเฉลี่ย 74.3% ในปี 2556 ในขณะที่โรงแรมบนเกาะสมุยยังคงมีอัตราการเข้าใช้บริการห้องพักเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ในระดับที่สูงกว่า 70%
นายแลงดอน กล่าว่า “มีปัจจัยบางประการที่ช่วยพยุงผลประกอบการของภาคธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุยในปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกเหนือจากการไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองแล้ว การมีอุปทานหรือซัพพลายใหม่ไม่มากนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยได้มาก โดยในปีที่ผ่านมา มีโรงแรมเปิดใหม่บนเกาะสมุยเพียง 1 แห่ง คือ โอโซ่ เฉวง สมุย ขนาด 208 ห้องพัก”
โรงแรมที่บริหารโดยเชนโรงแรมใหญ่ของไทยและต่างประเทศที่จะมีกำหนดเปิดใหม่ระหว่างปี 2558 ถึง 2561 บนเกาะสมุย คิดเป็นจำนวนห้องพักอีก 680 ห้อง ซึ่งเจแอลแอลเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าใช้บริการห้องพักโดยรวมของโรงแรมบนเกาะ
“มีแนวโน้มว่าความต้องการใช้บริการห้องพักจะขยายตัวเพิ่มในระดับที่สามารถรองรับซัพพลายที่เพิ่มขึ้นได้ จากการที่การเดินทางสู่สมุยของนักท่องเที่ยวมีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังเกาะสมุยมาจากออสเตรเลียและยุโรป พบว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียเดินทางเข้ามาเที่ยวที่สมุยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการที่มีเที่ยวบินตรงมายังสมุย” นายแลงดอนกล่าว
คาดว่า เกาะสมุยจะยังคงสถานภาพของการเป็นตลาดโรงแรม-รีสอร์ทระดับไฮเอ็นด์ โดยจะยังคงมีเชนบริหารโรงแรมระดับหรูเข้ามามากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากโครงการก่อสร้างโรงแรมใหม่ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสี่ถึงห้าดาว นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า โรงแรมหลายๆ โรงแรมบนเกาะสมุยมีการรีแบรนด์ อาทิ เดอะ พาสเสจ สมุย วิลล่า แอนด์ รีสอร์ท รีแบรนด์ใหม่เป็น โมเวนพิค รีสอร์ท แหลมใหญ่บีช และอิมพีเรียล สมุย บีช รีแบรนด์เป็นเชอราตัน สมุย ซึ่งจะเปิดบริการภายใต้แบรนด์ใหม่ในเดือนเมษายนปีนี้
“ในขณะเดียวกัน จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวเอเชียที่เดินทางมาสมุยมีแนวโน้มขยายตัว จึงมีโอกาสมากขึ้นสำหรับพัฒนาโรงแรมระดับกลางและราคาประหยัด ดังจะเห็นได้จากการประสบความสำเร็จของโอโซ่ เฉวง สมุย ที่เปิดใหม่ในปีที่ผ่านมา” นายแลงดอนสรุป
โรงแรม/รีสอร์ทที่มีกำหนดเปิดใหม่บนเกาะสมุย*
โรงแรม
|
จำนวนห้องพัก
|
พรานา รีสอร์ท นันดารา (1 ก.พ. 2558)
|
60
|
โคซี สมุย เฉวง (2559)
|
154
|
โซฟิเทล โซ เกาะสมุย (2559)
|
120
|
ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส สมุย บ่อผุด (2560)
|
200
|
ฮอลิเดย์ อินน์ สมุย บ่อผุด (2561)
|
150
|
*หมายเหตุ – เฉพาะโรงแรมที่บริหารโดยเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงของไทยและเชนโรงแรมระหว่างประเทศ
ที่มา – หน่วยบริการธุรกิจโรงแรม เจแอลแอล
เกี่ยวกับเจแอลแอล
เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดำเนินธุรกิจบริการและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ใน 80 ประเทศ โดยในประเทศไทย เปิดดำเนินการนับตั้งแต่ปี 2533 และปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ มีพนักงานกว่า 1,400 คน และสำนักงานในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา
ต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดติดต่อ
คุณวินัย – ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เจแอลแอล
02 624 6540 winai.jaiton@ap.jll.com
www.joneslanglasalle.co.th