WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ทัวร์จีน เข้าใจเขา เข้าใจเรา

     ไทยโพสต์ : แม้ว่า ที่ผ่านมา ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จะทำให้เม็ดเงินไหลเข้าประเทศจำนวนมหาศาล...

    แต่ก็อาจสร้างความ "เอือมระอา" ตรง "พฤติกรรม" ที่พี่จีนสร้างวีรกรรมไว้มากมาย สาธยายไว้ไม่หมด อาทิ อาบน้ำที่น้ำพุ ถ่ายลงคูคลอง ทิ้งขว้างขยะลงพื้นที่ต่างๆ ไม่เคารพกฎระเบียบของสถานที่ ฯลฯ ซึ่งวีรกรรมต่างๆ เหล่านี้ ใช่ว่าจะเกิดที่เชียงใหม่อย่างเดียว ขนาด อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เจ้าของวัดร่องขุ่น ก็เคยประกาศแบนนักท่องเที่ยวจีนครึ่งวันมาแล้ว เพราะทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังน้ำ โดยมีอุจจาระเปรอะเปื้อนส้วมทองเต็มไปหมด นอกจากนี้ ล่าสุดที่บ้านดำ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ นักท่องเที่ยวจีนยังทำประติมากรรมเสียหายอีกด้วย

     ตอกย้ำปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างต่อเนื่อง แน่นอน เป็นที่รับรู้กันดีถึงปัญหาทัวร์จีนที่ยังแก้ไม่ตกเสียที ทว่าทางประเทศจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นที่เกิดขึ้น พยายามปรับภาพลักษณ์ เปลี่ยนทัศนคติลบที่เจ้าบ้านมองทัวร์จีน

     ภาพลักษณ์ดังกล่าวนั้นมักจะถูกโพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนกลายเป็นข่าวครึกโครม และทำให้ สื่อจีนตีข่าว กรณี อ.เฉลิมชัยติดป้ายห้ามทัวร์จีนเข้าวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ครึ่งวัน หลังสร้างวีรกรรมเหลืองอร่าม

     นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่ถูกตีแผ่ ทั้งในสื่อและการโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในลักษณะของการด่าเหยียดหยามประณามนักท่องเที่ยวจีนอย่างรุนแรง ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นได้เริ่มมีกระแสตอบกลับจากสื่อมวลชนจีน พร้อมตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนจีนและคนไทย ในลักษณะการให้เกียรติทางชาติพันธุ์และศักดิ์ศรีของประเทศ การแสดงความผิดหวังกับคนไทย และทำให้ขณะนี้เริ่มกลายเป็นกระแสต่อต้านประเทศไทยและคนไทยขึ้นในประเทศจีน รวมถึงเริ่มนำเสนอมุมมองในด้านไม่ดีของประเทศไทยมาเผยแพร่ทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ

    อย่างไรก็ตาม นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ ทางด้านนายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน ได้กล่าวว่า ในปี 2558 นี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนสูงถึง 6 ล้านคน หรือไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านคนแน่นอน โดยเฉลี่ยแล้วจะมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเข้ามาไม่ต่ำกว่า 400,000 คนต่อเดือน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 550,000 คน จึงไม่น่ากังวลกับการเติบโตเชิงปริมาณ แต่ปัญหาหลักของทัวร์จีนคือ การแข่งขันชิงตลาดที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการขายทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ยังมีผู้ประกอบการจากกลุ่มทัวร์ซึ่งทำตลาดขาเข้าจากจีน ยังคงใช้เหล่านี้เป็นกลยุทธ์ดึงลูกค้า และลุกลามไปถึงการทำทัวร์ติดลบหรือเคบี โดยบริษัทนำเที่ยวไทยยอมจ่ายค่าหัวให้บริษัททัวร์ในจีนเพื่อให้ส่งต่อลูกค้าจีนเข้ามาให้ และบริษัทนำเที่ยวจะหารายได้ด้วยการบังคับขายแพ็กเกจเสริมราคาสูงเพื่อถอนทุนคืน

     แนวทางการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญควรทำอย่างไร

   เพื่อเป็นการแก้ปัญหา ทางสมาคมได้ออกหนังสือเวียนให้บริษัทนำเที่ยวร่วมกำหนดราคาทัวร์เสริม ไม่ให้เกิน 600 หยวนต่อรายการ หรือ 2,500 หยวน หรือประมาณ 13,000 บาท สำหรับโปรแกรม 4 วัน รวมถึงขอความร่วมมือกับแหล่งท่องเที่ยวเอกชน ให้ประกาศราคาโปรแกรมนำเที่ยวให้นักท่องเที่ยวทราบ เพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวง และสิ่งที่น่าห่วงคือ ภาพลักษณ์ทัวร์เคบี หากปล่อยให้ปัญหาลุกลาม จะทำให้อีก 2 ปี ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยในสายตาคนจีนจะเสียไปด้วย ส่งผลให้เราสูญเสียโอกาสตลาดในระยะยาว

    อย่างไรก็ตาม สมาคมมีแนวคิดเสนอให้กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาออกกฎกระทรวงบังคับบริษัทนำเที่ยว ห้ามจำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ต่ำกว่าต้นทุนจริง เพื่อยกระดับคุณภาพทัวร์ของประเทศไทยให้เป็นทัวร์ที่มีคุณภาพ รวมถึงป้องกันปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว การระบาดของทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเฉพาะทัวร์จากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันทัวร์ประเภทนี้ได้ลุกลามไปยังตลาดอื่น เช่น เกาหลี รัสเซีย เวียดนาม เป็นต้น

   ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอาจนำร่องผู้ประกอบการจีนร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันถึงแนวทางการยกระดับทัวร์จีนให้ได้มาตรฐาน เพราะที่ผ่านมาภาครัฐและเอกชนได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันทัวร์ศูนย์เหรียญจีนเริ่มกลับมาระบาดหนักอีกครั้ง หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในระยะยาว

   นอกจากนี้ สมาคมเตรียมหารือร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (CNTO) เพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญร่วมกันตั้งแต่ต้นทาง โดยให้ CNTO ตรวจสอบบริษัททัวร์ของประเทศจีนที่ขายทัวร์มาประเทศไทยถูกเกินจริง

   ปัญหานักท่องเที่ยวจีนจะแก้ไขอย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้นจากทัวร์จีนนั้น เพราะ ทัวร์จีนเข้ามามากจนล้น ปัญหาใหม่ๆ จึงเกิด มารยาทไม่ดี เสียงดัง สกปรก ทุกปัญหามุ่งตรงไปที่นักท่องเที่ยวจีน แต่!!! คนไทยคงลืมไปว่าเราคือเมืองท่องเที่ยว คือสยามเมืองยิ้ม แทนที่จะพยายามทำความเข้าใจกับท้องถิ่น ชุมชน คนท่องเที่ยว ให้เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง ให้กล้าที่จะเดินไปบอกนักท่องเที่ยวว่าอันไหนทำผิด หรือทำถูก และที่สำคัญอย่าลืมว่าคนจีนดีๆ ก็มีเยอะ แต่เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ชอบที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย ที่เข้ามามากเกินไปทำให้ดูเหมือนว่าสร้างปัญหามากกว่าประเทศอื่นเท่านั้นเอง แค่เดินไปสะกิดหรือบอกกล่าวเขาก็จะรู้ทันที

    ทั้งนี้ ขอให้คนไทยเข้าใจ กรณีที่มีนักท่องเที่ยวจีนบางคน อาจทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะมีเป็นเพียงส่วนน้อย แต่เป็นข่าวแล้วดัง แต่ส่วนใหญ่ที่มาเป็นหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ ไม่ค่อยพบปัญหา เนื่องจากจะมีมัคคุเทศก์แจ้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ แต่ที่มีปัญหาคือ เข้ามาเที่ยวเอง พบมากคือเข้ามาทางภาคเหนือ หลังจากภาพยนตร์จีนลอสต์อินไทยแลนด์โด่งดังมาก ทำให้นักท่องเที่ยวขับรถมาเที่ยวเพื่อตามรอยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว

   และปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น รัฐบาลจีนเองก็ตระหนักเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามสอนคนของเขาก่อนออกนอกประเทศเหมือนกัน นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ก็มีปัญหา เพียงแต่สัดส่วนของนักท่องเที่ยวจีนมีมากกว่าเท่านั้นเอง  และต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของคนจีนที่ใช้ในประเทศไทยนั้น ใช้จ่ายเงินมากกว่าแบ็กแพ็กเกอร์หลายๆ ประเทศในถนนข้าวสารเสียอีก

   อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่า จริงๆ แล้วภาพลักษณ์คนไทยในสายตาคนจีนก็มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันไม่มีคนชาติไหนที่ดีเพอร์เฟ็กต์ไปหมดทุกเรื่องอยู่แล้ว และไม่ใช่แค่คนจีน แม้แต่ฝรั่งก็ยังมีมุมมองในด้านลบต่อคนไทยในบางเรื่อง ซึ่งก็ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติ เอาเป็นว่า เราพูดถึงแต่ด้านบวกก็แล้วกัน ภาพลักษณ์คนไทยในสายตาคนจีนที่โดดเด่นก็คือ เรื่องความอ่อนน้อม สุภาพ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อชอบช่วยเหลือคนต่างชาติ อารมณ์ดีไม่เครียด ยิ้ม หัวเราะเก่ง อะไรพวกนี้ ซึ่งก็เป็นภาพลักษณ์ของสยามเมืองยิ้มของเราที่รู้จักกันดีในสายตาชาวโลกนั่นเอง.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!