WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คาดก.ค.ท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว Q2 ต่างชาติเข้าไทย 5.5 ล.คน

      แนวหน้า : นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป หลังไทยมีการยกเลิกประกาศการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ทั่วประเทศเมื่อกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหากภาครัฐดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการสร้างความเชื่อมั่น จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อยู่ที่ 26.84 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.09% จาก 26.55 ล้านคน ในปี 2556 และคิดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยว ราว 1.26 ล้านล้านบาท

    โดยในวันที่ 24 มิ.ย. สทท.รายงานผลสำรวจจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาส 2/57 ว่า มีจำนวน 5.55 ล้านคน ลดลง 8.42 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ คาดว่าในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวน 6.84 ล้านคน และ 7.85 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 5.23% และ 12.46% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

    ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรป(อียู) จะระงับการเจรจาทางการค้ากับไทย นายปิยะมาน กล่าวว่า จะไม่กระทบกับสถานการณ์การท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากประเด็นที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือคำเตือนเรื่องความปลอดภัย ของแต่ละประเทศเป็นหลัก

    นอกจากนี้ การดำเนินการของ คสช.ในการปราบปรามอิทธิพลเถื่อน โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต และสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รู้สึกมีความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สทท.ได้เรียกร้องภาครัฐ ทำความเข้าใจกับเอกอัครราชทูต สหภาพยุโรป เพื่อชี้แจงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวยุโรป เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ เดือนก.ค.เป็นต้นไป จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวยุโรป ขณะเดียวกัน ยังเสนอข้อเรียกร้องไปยังภาครัฐ ให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียม วีซ่านักท่องเที่ยวจีนและไต้หวัน เป็นเวลา 6-12 เดือน เพราะเชื่อว่าเป็นตลาดที่สามารถกระตุ้นได้ทันที และมีข้อพิสูจน์แล้วว่า เป็นมาตรการที่จะเห็นผลอย่างรวดเร็ว

     ด้านนางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธาน สทท. กล่าวว่า ตัวเลขการเข้าพักของโรงแรมในกรุงเทพฯ ภายหลังการยกเลิกเคอร์ฟิว อยู่ที่ 50-55% โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีซึ่งอยู่ที่ราว 40% แต่ระดับดังกล่าวก็ยังต่ำกว่าระดับปกติ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 60% ขณะที่นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป พบว่ามีการจองล่วงหน้ามากขึ้น หลังการยกเลิกเคอร์ฟิว โดยนักท่องเที่ยวจากยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 17% ของนักท่องเที่ยว ต่างชาติทั้งหมดในไทย

จี้คสช.ปลุก'ท่องเที่ยว' หนุนเว้นธรรมเนียมวีซ่า

     ไทยโพสต์ : ลาดพร้าว * ส.อุตสาหกรรมท่องเที่ยวชมเปาะ คสช.สร้างความสงบกู้ท่องเที่ยว แนะ 6 มาตรการ พร้อมวอนยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าคนจีน กระตุ้นภาพรวมครึ่งปีหลัง

     นางปิยะมาน เตชะไพ บูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ส่งผลให้ประเทศเกิดความสงบและเรียบ ร้อยเป็นอย่างมาก โดยจากในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ในระดับ 87 ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุด เมื่อเทียบกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าความกังวลของผู้ประกอบการยังมีอยู่ แต่คาดการณ์ว่านับจากเดือน มิ.ย. คาดว่าจะเป็นเดือนสุดท้ายที่ภาพรวมท่องเที่ยวจะเกิดปัญหา

      "ทางสภาอุตฯ เห็นว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ในส่วนของทาง ภาครัฐจำเป็นต้องเร่งผลักดันมาตรการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวที่จะสามารถเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวได้ให้ทัน ช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ทางสภาอุตฯ จึง อยากเสนอมาตรการที่จะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงไตร มาสที่ 2 กลับมาเป็นบวกได้ที่ 5.23% หรือมีจำนวน 6.84 ล้านคน และช่วงไตรมาส 4 จะขยายตัวได้อีกที่ 12.46% หรืออยู่ที่ 7.85 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 26.84 ล้านคน จากปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว 26.6 ล้านคน แต่ทั้งนี้หากทางภาครัฐไม่มีมาตรการอะไรออกมากระตุ้นเลย ก็อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหายไป 1.25 ล้านคน และสูญเม็ดเงินกว่า 5.84 หมื่นล้านบาท"นางปิยะมานกล่าว

     สำหรับ การจัดกิจกรรมนับจากนี้ควรเน้นส่งเสริมกิจ กรรมที่มีลักษณะที่มีขนาดใหญ่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี รวมถึงการจัดโรดโชว์ต่างประเทศน่าจะได้ผลกว่าการทำโฆษณาผ่านช่องทางอื่น และยังต้องเร่ง ฟื้นตลาดเอเชียก่อน โดยเฉพาะ 5 ประเทศหลักอย่าง จีน เกาหลี ญี่ป่น อินเดีย มาเลเซีย ที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวรวมกันถึง 43% โดยเฉพาะตลาดจีนและไต้หวันน่าจะกลับมาได้เร็วที่สุด จึงอยากให้มีการยกเว้นค่าธรรม เนียมวีซ่าในระยะสั้นเป็นเวลา 6-12 เดือน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สามารถกระตุ้นตลาดได้ทันที และการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้สูญเสียรายได้มากนัก

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!