WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1a4ABมั่นใจสถานการณ์

สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน มั่นใจ สถานการณ์ใหม่ สัมพันธ์เส้นทางสายไหมยังยั่งยืน

        ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวเปิดงานเสวนาเรื่อง Friends of Silk Road ในสถานการณ์ใหม่วันนี้ เป็นดำเนินการร่วมกันของ Friends of Silk Road Club และสมาคมวัฒนธรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประดิษฐ์ เปรมโยธิน ชั้น 3 อาคารธรรมนิติ ว่า การจัดเสวนาครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองวันชาติจีนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 และเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมเฉลิมฉลองการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครบรอบ 100 ปี ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงเวลาการประชุมเต็มคณะของคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ชุดที่ 19 ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่จีนยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของ GDP ในปี 2020 ที่เศรษฐกิจทั้งโลกชะงักและอยู่ในโซนติดลบได้อย่างน่าพอใจ ทั้งๆที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก กล่าวคือใน ไตรมาสที่ 2 GDP โต 3.2% เมื่อเทียบกับ 6.5% ของปี 2019 และไตรมาสที่ 3 โต 4.9% เมื่อเทียบกับ 6.3% ของปี 2019 นอกจากนั้น จีนกำลังจัดทำแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 14 ซึ่งทั่วโลกจะได้เห็นทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสถานการณ์ใหม่ในเร็วๆนี้อีกด้วย

       “ในนามของประชาชนชาวไทย และสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ขอแสดงความยินดีกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน รัฐบาลจีน และพี่น้องประชาชนจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมมีความเชื่อมั่นว่าเป้าหมายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาคนยากจนให้หมดไปจากประเทศจีนในวาระที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสถาปนาครบ 100 ปี จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”

        นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน สมัยที่ 18 เป็นต้นมา โดยการริเริ่มความคิดหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) ของเสนาธิการใหญ่ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างใหญ่หลวงทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก กระแสการสร้างสรรค์สันติภาพและการพัฒนาได้ยกระดับขึ้น และขยายวงอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ประเทศต่าง ๆ กว่า 120 ประเทศ ได้เข้าร่วมยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน การพัฒนาร่วมกัน และเพื่อความร่วมมือกันอย่างทั่วด้าน โดยเฉพาะในการพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างมวลมนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนสันติภาพ ลดและเลิกความขัดแย้งในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก พัฒนาประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งในทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันด้วยใจสมัครของประเทศต่าง ๆ กระแสสันติภาพและการพัฒนาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันนี้ยิ่งขยายตัวไปมากเท่าใด มวลมนุษย์ทั่วโลกก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกันมากขึ้นเท่านั้น และจะเข้าไปแทนที่ความขัดแย้งและสงครามที่ดำรงอยู่ในหลายภูมิภาคของโลก

       การรวมตัวกันเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือในการสร้างสันติภาพและการพัฒนาค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวและด้านอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนโดยองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ได้ทำให้สถานการณ์ใหม่หลายอย่างเกิดขึ้นในโลก ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวเพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งสถานะเดิมที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ได้เกิดเป็นกระแสต้านขึ้นในหลายปริมณฑลของโลกด้วยเช่นเดียวกัน การกระทบกันของสองกระแสดังกล่าวกำลังส่งผลต่อประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก รวมทั้งประเทศไทย อาเซียน และภูมิภาคเอเชียด้วย

         ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ตั้งอยู่ในภูมิยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นศูนย์กลางสำคัญยิ่งของการคมนาคม การสื่อสาร ทั้งทางบก ทางทะเล อากาศ และอวกาศ เป็นจุดศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมโยงประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลกในระยะทางบินเพียงแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร และยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสองมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่คือมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก โดยผ่านช่องแคบทั้งสาม คือ ช่องแคบมะละกา ซุนดา และแลมบอร์ก ดังนั้นจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่ภูมิภาคนี้จะเป็นที่สนใจของประเทศและกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังช่วงชิงและแสวงหาความร่วมมือกับประเทศอาเซียนและประเทศไทย

       การแสวงหาความร่วมมือนั้นเป็นธรรมชาติที่ต้องมีทั้งการแสวงหาความร่วมมือที่เป็นความปรารถนาร่วมกัน บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน และความร่วมมือที่ไม่ใช่ความปรารถนาร่วมกัน บนพื้นฐานผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน สภาพเช่นนี้จึงก่อเกิดสภาพการณ์ชนิดใหม่ขึ้นในภูมิภาคและประเทศไทย และย่อมแยกไม่ออกจากสถานการณ์ที่มีความปั่นป่วนวุ่นวายทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ตลอดจนความมั่นคงที่ปรากฏให้เห็นในภูมิภาคนี้

       ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักสันติ มุ่งหมายที่จะเป็นมิตรกับทุกประเทศทั่วโลก บนพื้นฐานความเสมอภาค การเคารพซึ่งกันและกัน และบนผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่มีความปรารถนาใดๆ ที่จะตั้งตนเป็นฝักฝ่ายกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเอื้อประโยชน์ หรือยอมรับแรงกดดันอันไม่เป็นประโยชน์ต่อมิตรประเทศ และแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็ก แต่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอาเซียนที่มีประชากรถึง 650 ล้านคน มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น พลังของอาเซียนทั้งทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ในสภาพที่มีสันติและการพัฒนา คือผลประโยชน์ร่วมกันที่ทุกฝ่ายควรให้ความเคารพและร่วมมือกัน

      “ในวาระที่โลกและภูมิภาคกำลังเข้าสู่สถานการณ์ใหม่ ทั้งในด้านการเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว สังคมและวัฒนธรรม และยังมีปัญหาโรคระบาดไว้รัส COVID-19 เผชิญหน้าชาวโลกอยู่ สถานการณ์นี้จึงท้าทายต่อความเข้าใจร่วมกัน ความร่วมมือร่วมใจกันของประเทศทั้งหลายทั่วโลก โดยเฉพาะไทย-จีน ซึ่งเป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีว่าจีน-ไทย ใช่อื่นไกล คือพี่น้องกัน อันเป็นที่มาของจัดเสวนาครั้งนี้”ดร.โภคิน กล่าว

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!