WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1AAสื่อไทยควรรู้

เอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรม'มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้' ครั้งที่ 4

     เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร ‘มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้’ ครั้งที่ 4 และกล่าวสุนทรพจน์ โดยกล่าวถึงความสำเร็จด้านการพัฒนาของจีนในยุคใหม่อย่างครอบคลุม มองไปข้างหน้าถึงโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย และแนะนำจุดยืนของจีนในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ฯลฯ โดยมีนายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

      ตลอดจนตัวแทนผู้สื่อข่าวจากสื่อมวลชนไทยและสื่อจีนประจำประเทศไทยหลายสิบท่านเข้าร่วมในพิธีเปิด เช่น เครือข่ายสถานีวิทยุฯ อสมท สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มติชน ผู้จัดการออนไลน์ บางกอกโพสต์ เนชั่น และสื่อมวลชนจีนรวมถึง People's Daily สำนักข่าว Xinhua China Media Group  และสำนักข่าว China News Agency เป็นต้น

      เอกอัครราชทูตหานได้ทบทวนความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้นำพาประชาชนให้เอาชนะความยากลำบากตั้งแต่สถาปนาขึ้นเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า จีนยุคใหม่ เศรษฐกิจกำลังเคลื่อนไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและมีอนาคตที่สดใส จีนยุคใหม่ประชาธิปไตยของประชาชนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พรรคและรัฐบาลได้รับความสนับสนุนและความไว้วางใจจากประชาชนเป็นอย่างดี จีนยุคใหม่ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติและสนับสนุนความร่วมมือแบบ win-win

       ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีท่านสี จิ้นผิงเป็นแกนหลัก ประชาชนชาวจีนมีความมุ่งมั่นและความมั่นใจที่จะยึดมั่นในเส้นทางสังคมนิยมแบบมีอัตลักษณ์จีน เอาชนะความยากลำบากและอุปสรรคทั้งหมด บรรลุการฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนและสร้างคุณูปการต่อการพัฒนาอย่างสันติของโลกและการสร้างอนาคตที่สดใสของมวลมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น

      เอกอัครราชทูต หานกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีของการเปิดตัวแถลงการณ์เซี่ยงไฮ้ จีน-สหรัฐฯ ความร่วมมือจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และการสู้รบจะทำร้ายทั้งสองฝ่าย นี่เป็นประสบการณ์และบทเรียนที่สำคัญที่สุดจากการคบกันระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาครึ่งศตวรรษ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดนอีกครั้งตามนัดหมาย ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวว่าจะดำเนินการในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางการพัฒนาที่มั่นคง

     ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังกล่าวย้ำอย่างจริงจังว่า จะไม่แสวงหาสงครามเย็นใหม่กับจีน ขณะนี้เรามาถึงทางแยกใหม่ เราหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะปฏิบัติตามฉันทามติของผู้นำทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง เดินตามเส้นทางแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติร่วมกับจีน ร่วมกันสร้างคุณูปการต่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก

       เอกอัครราชทูต หานเน้นย้ำว่า เบื้องหลังความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนคือความขัดแย้งทางด้านความมั่นคงของยุโรป ที่สะสมขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน หลังจากสิ้นสุดสงครามเย็น NATO ที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ขยายขอบเขตไปทางตะวันออกอย่างต่อเนื่องและกดดันรัสเซียอย่างสุดขีดจนทำให้รัสเซียต้องตอบโต้กลับและยูเครนตกเป็นเหยื่อ ในประเด็นยูเครน จีนมีจุดยืนแน่วแน่ว่าควรเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ ควรเคารพปณิธานและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ

      ข้อกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของทุกประเทศควรได้รับการให้ความสำคัญอย่างจริงจัง และความพยายามทั้งหมดที่จะเป็นประโยชน์ต่อแก้ไขวิกฤตการณ์อย่างสันติควรได้รับการสนับสนุน จีนได้เสนอแนวคิดริเริ่ม 6 ประการเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครน และเป็นประเทศแรก ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จีนจะยังคงแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์โดยใช้วิธีของตนเองต่อไป

       เอกอัครราชทูต หานกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังดำเนินการสิ่งที่เรียกว่า ‘ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก’ เพื่อสร้าง NATO เวอร์ชันเอเชียโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นจีน ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับการขยายตัวไปยังทางตะวันออกของ NATO ในยุโรปเพื่อกดดันรัสเซียจนนำไปสู่วิกฤติในทุกวันนี้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคอย่างร้ายแรง  จีนจะยึดมั่นในสนับสนุนความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนและการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแน่วแน่ สนับสนุนความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค และทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อปฏิบัติตามฉันทามติซึ่งบรรลุในการประชุมสุดยอดเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์จีน-อาเซียนเมื่อปีที่แล้ว ร่วมสร้างประชาคมร่วมอนาคตจีน-อาเซียนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและบ้านร่วมกันแห่งความสงบสุข สันติ มั่งคั่ง สวยงาม และมิตรภาพ

       เอกอัครราชทูต หานกล่าวเน้นย้ำในตอนท้ายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทยมีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและยาวนานนับพันปี มีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นของการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน และความร่วมมือระหว่างจีน-ไทยนั้นมีศักยภาพอันใหญ่หลวง เมื่อต้องเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 จีนและไทยได้ร่วมมือร่วมใจกันเสมือนลงเรือลำเดียวกันเพื่อเอาชนะความยากลำบากซึ่งเป็นการอธิบายถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งที่ว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ด้วยปฏิบัติการจริง ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรือแห่งมิตรภาพและความร่วมมือจีน-ไทย จะฝ่าคลื่นลมและโลดแล่นไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

สุนทรพจน์ฉบับเต็มตามลิงก์ต่อไปนี้

            http://www.chinaembassy.or.th/.../t20220322_10654053.htm

 

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงบางประเทศได้ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 แต่จิตใจของพวกเขายังคงอยู่ในยุคสงครามเย็น

        เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร ‘มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้’ และกล่าวถึงสถานการณ์ระหว่างประเทศระบุว่า เมื่อประวัติศาสตร์ก้าวเข้ามาถึงทศวรรษที่สองของศตวรรษที่ 21 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและตลาดโลกมีการบูรณาการอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    ยุคนี้ น่าจะเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษยชาติที่จะบรรลุการพัฒนา ความก้าวหน้า และความเจริญรุ่งเรือง แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ สำหรับ บางประเทศ ร่างกายได้เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 แต่จิตใจของพวกเขายังคงอยู่ในยุคสงครามเย็น เมื่อเผชิญกับปัญหาการบริหารภายในประเทศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เพิ่มขึ้น และการแบ่งขั้วทางการเมือง พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่กลับดำเนินกลยุทธ์สกัดกั้นการพัฒนาของประเทศอื่น ยุยงให้ประเทศมหาอำนาจเกิดการเผชิญหน้ากัน รังแกประเทศขนาดกลางและขนาดเล็ก สร้างความวุ่นวายปั่นป่วนไปทั่วโลก

       หลังสิ้นสุดสงครามเย็น แท้ที่จริงแล้วยุโรปมีโอกาสสร้างกลไกความมั่นคงที่สมดุล มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน การที่สถานการณ์พัฒนามาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นผลมาจากตรรกะและความคิดแห่งอำนาจบาตรใหญ่ เช่น ‘ผู้ชนะกินรวบ’ และ ‘อำนาจคือความยุติธรรม’ เป็นต้น พวกเราชาวตะวันออกสนับสนุนการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี เน้นการเคารพซึ่งกันและกันและยอมรับความแตกต่าง และมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการสื่อสารและการหารือกันเมื่อเกิดความขัดแย้ง ถ้าแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยแนวคิดแบบสงครามเย็นและภูมิปัญญาของตะวันออก สถานการณ์อาจจะแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง:จีนยุคใหม่ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติและสนับสนุนความร่วมมือแบบ win-win

            เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร ‘มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้’ และกล่าวถึงนโยบายต่างประเทศของจีนระบุว่า จีนยุคใหม่ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติและสนับสนุนความร่วมมือแบบ win-win จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของ130 กว่า ประเทศและเขตแคว้น อีกทั้งได้ร่วมมือกับหุ้นส่วน 148 ประเทศในการสร้าง ‘สายแถบและเส้นทาง’ ประเทศจีนปฏิบัติตามความรับผิดชอบและพันธกรณีของตนในกิจการระหว่างประเทศ เป็นผู้ชูธงลัทธิพหุภาคีอย่างแท้จริง

        และยืนหยัดปกป้องระบบระหว่างประเทศโดยมีสหประชาชาติเป็นแกนหลักและพิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศอันมีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐาน ประเทศจีนสนับสนุนค่านิยมร่วมกันของมวลมนุษยชาติในสันติภาพ การพัฒนา ความเป็นธรรม ความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในธรรมาภิบาลระดับโลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เสนอข้อริเริ่มในการพัฒนาระดับโลก(GDI) เพื่อส่งเสริมการสร้างประชาคมร่วมอนาคตของมวลมนุษยชาติ

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงจีนหวังที่จะเดินบนเส้นทางแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับสหรัฐฯ

     เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร "มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้" และกล่าวถึงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกระบุว่า เมื่อยืนอยู่บนทางแยกใหม่ เราหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะปฏิบัติตามฉันทามติของผู้นำทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง เดินตามเส้นทางแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติร่วมกับจีน ร่วมกันสร้างคุณูปการต่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก

      สหรัฐฯ กำลังดำเนินการสิ่งที่เรียกว่า “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” เพื่อสร้าง NATO เวอร์ชันเอเชียโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นจีน ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับการขยายตัวไปยังทางตะวันออกของ NATO ในยุโรปเพื่อกดดันรัสเซียจนนำไปสู่วิกฤติในทุกวันนี้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคอย่างร้ายแรง

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง:ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรือแห่งมิตรภาพและความร่วมมือจีน-ไทย จะฝ่าคลื่นลมและโลดแล่นไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

      เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เข้าร่วมพิธีเปิดหลักสูตรอบรม ‘มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้’ และกล่าวถึงความสัมพันธ์จีน-ไทยโดยเน้นย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทยมีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและยาวนานนับพันปี มีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นของการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน และความร่วมมือระหว่างจีน-ไทยนั้นมีศักยภาพอันใหญ่หลวง ผมเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรือแห่งมิตรภาพและความร่วมมือจีน-ไทย จะฝ่าคลื่นลมและโลดแล่นไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

 

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C JGC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

วิริยะ 720x100

hino2021

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!