WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

ฟรีวีซ่าไทย จีน 

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 2/2567

การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย ฟรีวีซ่าไทย-จีน เป็นสัญญานความร่วมมือที่ดี และจะส่งผลต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนดีขึ้น

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า หอการค้าไทย-จีน ได้ทำการสำรวจสรุปดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีนประจำไตรมาสที่สองปี 2567 ระหว่างวันที่ 15 ถึง 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยผู้ตอบการสำรวจประกอบด้วย ประธาน คณะกรรมการกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการบริหาร และกรรมการหอการค้าไทยจีน ผู้บริหารและกรรมการสมาพันธ์หอการค้าไทยจีน และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทยจีนอีก เป็นจำนวนทั้งหมด 476 คน ที่ตอบแบบสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าว

จากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2567 หลายสำนักวิจัยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการเจริญเติบโตอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 2.7 ถึง 3.7  จากการสำรวจที่ได้แบ่งช่วงต่างๆเพื่อการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยพบว่า ร้อยละ 58 ของผู้ถูกสำรวจคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตระหว่างร้อยละ 2.7 ถึง 3.2 และ ร้อยละ 15 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตระหว่างร้อยละ 3.2 ถึง 3.7

ฟรีวีซ่าไทย จีน

ผู้ถูกสำรวจยังมีความเห็นว่าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 นั้นจะถูกขับเคลื่อนด้วยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก และการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในลำดับรองมา ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐจะเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญน้อยที่สุดสำหรับปีนี้

จากการคาดการณ์การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่น่าจะ อยู่ระหว่างร้อยละ 2.7 ถึง 3.7 นั้น ความเสี่ยงที่ควรต้องเฝ้าระวังนั้น ผู้ถูกสำรวจให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงสำคัญที่สุดต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย 

ทั้งนี้ มีอีกสามปัจจัยที่จะมีผลต่อความเสี่ยงของการเจริญเติบโตประกอบด้วย ความขัดแย้งระหว่างประเทศจนก่อให้เกิดภาวะสงคราม ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะมาทำหน้าที่แทนแรงงาน และความคิดที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนต่างวัย ตามลำดับ

ทางด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 45.6 ของผู้ถูกสำรวจคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับลดลงในอีกสามเดือนหน้า ขณะที่ร้อยละ 29.8 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับตัวลดลงภายหลังสามเดือน ซึ่งกล่าวได้ว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เล็งเห็นว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับตัวลดลงในอีกไม่นาน

การสำรวจข้อคิดเห็นในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน มีดังนี้ จากการที่ไทยได้ให้ฟรีวีซ่ากับชาวจีนเมื่อปลายปี 2566 และจีนเองให้ฟรีฟรีซ่ากับชาวไทยตั้งแต่ 1 มีนาคม ในปีนี้ ร้อยละ 67 ของผู้ถูกสำรวจคิดว่าการให้ฟรีวีซ่าเป็นสัญญาณความร่วมมือที่ดีระหว่างประเทศและส่งผลทำให้แนวโน้มการค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนจะดีขึ้น และร้อยละ 28 ของผู้ตอบแบบสำรวจเล็งเห็นว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะทำให้การค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนอยู่ในระดับดีขึ้นมาก

เมื่อได้ถามถึงอุตสาหกรรมใดที่ไทยน่าจะชวนจีนมาร่วมลงทุนในปี 2567 อันดับแรกคืออุตสาหกรรมเครื่องจักรและยานยนต์ ส่วนในลำดับต่อมา คือ อุตสาหกรรมดิจิตอลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ ตามลำดับ

เมื่อสอบถามว่าการชะลอตัวของจีนตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาจะมีผลกระทบทางลบต่อธุรกิจนำเข้าและส่งออกของไทยด้านใด ร้อยละ 30.6 ของผู้ถูกสำรวจ ให้ความเห็นว่าอุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็ก จะได้รับผลกระทบสูงที่สุดขณะที่ร้อยละ 26.2 ลงความเห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

เนื่องด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาพัฒนาไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นโยบายของประเทศไทยจึงมีเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างน้อย ร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในปี 2573 เพื่อให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้เติบโตเข้าเป้าหมาย ร้อยละ 57.3 ของผู้ตอบแบบสำรวจ เห็นว่าเป้าหมายนั้นเป็นไปได้หากอุตสาหกรรมยานยนต์จีนมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ร้อยละ 34 ให้ความเห็นว่าให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นและชาติตะวันตกมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย เป้าหมายดังกล่าวจึงจะบรรลุได้

นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเสริมว่า การที่ประเทศจีนกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 ที่ อัตรา 5% และเพิ่มอัตราการจ้างงานใหม่มากกว่า 12 ล้านคน รวมถึงส่งเสริมการเปิดประเทศซึ่งจะขยายการนำเข้าสินค้าคุณภาพสูงจากต่างประเทศด้วยนั้น

คาดว่าจะเป็นโอกาสสำหรับการขยายการส่งออกสินค้าของไทยไปจีน และหากพิจารณาภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของจีน ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2567) มีทิศทางที่ดี ตามที่ศุลกากรจีนรายงานว่าการค้าระหว่างประเทศของจีนขยายตัว 8.7% มีมูลค่าการค้ารวม 6.61 ล้านล้านหยวน (หรือประมาณ 930.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ส่วนการส่งออกของจีนขยายตัว 10.30% มีมูลค่าการส่งออก 3.75 ล้านล้านหยวน และการนำเข้าขยายตัว 6.7% มีมูลค่ากรนำเข้า 2.86 ล้านล้านหยวน

ส่วนประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของจีนในกลุ่มอาเซียน ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 การค้ารวมระหว่างประเทศจีนและไทย ขยายตัว  5.9% มีมูลค่า 133,210 ล้านหยวน (หรือประมาณ 18,747.1ล้านเหรียญสหรัฐ) การส่งออกของจีนไปยังประเทศไทย ขยายตัว 11.6% มีมูลค่า 88,460 ล้านหยวน ส่วนการนำเข้าของจีนจากไทย หดตัว 3.8% มีมูลค่า 44,750 ล้านหยวน นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

สำนักงานหอการค้าไทย-จีน โทรศัพท์ 02-675 8587; 02-675 8577-88 โทรสาร 02-212 3916-7

 

3280

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C J

MTL 720x100

QIC 720x100

AXA 720 x100aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

gen 720x100

TOA 720x100

 

Click Donate Support Web  

gpf 720x100 66

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100PTG 720x100iconmotor

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!