- Details
- Category: CHINA
- Published: Sunday, 10 March 2024 19:19
- Hits: 10417
ชาวไทยจองเที่ยวจีนพุ่งสูง หลังเปิดศักราช 'ยุคฟรีวีซ่า' ระหว่างกัน
ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนและไทยสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (1 มี.ค.) ที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดศักราช ‘ยุคปลอดวีซ่า’ ระหว่างจีนและไทย
ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญของกันและกัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวไทยก็เดินทางไปเที่ยวยังประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ในวันแรกของการดำเนินข้อตกลงยกเว้นวีซ่า ด่านตรวจคนเข้าเมืองหลายแห่งในจีนมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าประเทศแตะจุดสูงสุด โดยเมื่อวันศุกร์ (1 มี.ค.) เที่ยวบิน ดีดี3110 (DD3110) ซึ่งให้บริการโดยสายการบินนกแอร์ บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่นครหนานหนิง ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติหนานหนิง อู๋ซวี ในนครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีนอย่างราบรื่นในช่วงเที่ยง โดยในเที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารชาวไทย 56 รายที่ใช้สิทธิ์นโยบายฟรีวีซ่าได้สำเร็จในขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและเริ่มการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีน
นักเดินทางชาวไทยคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่าการเดินทางเข้าประเทศจีนจะสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากการยกเว้นวีซ่าดังกล่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางระหว่างจีนและไทยในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวของจีน พบว่าปัจจุบันมีเที่ยวบินระหว่างจีนและไทยที่ด่านหนานหนิงราว 46 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจำนวนผู้โดยสารชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์กลางการบินของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่จำนวนผู้โดยสารชาวไทยทั้งขาเข้าและขาออกผ่านด่านหนานหนิงคิดเป็น 2 ใน 5 ของจำนวนผู้โดยสารชาวต่างชาติทั้งหมดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเหตุผลหลักในการเดินทางเข้าออกประเทศจีนคือการท่องเที่ยว การเยี่ยมครอบครัว และการเดินทางเพื่อธุรกิจ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ซีทริป (www.ctrip.com) ระบุว่าในวันที่ 1 มี.ค. ยอดจองผลิตภัณฑ์ของนักเดินทางชาวไทยไปยังจีนเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 160 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 โดยเมืองระดับหนึ่งของจีนที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางชาวไทย ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว
ขณะเดียวกัน การค้นหาและพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเมืองต่างๆ อย่างฉงชิ่งและซีอัน ของคนไทยรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมจีนสมัยนิยม อาทิ ภาพยนตร์และซีรีส์จีนในเว็บไซต์ฯ ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ จีนยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวน้ำแข็งและหิมะที่ใกล้ที่สุดของไทย
โดยตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว การท่องเที่ยวธีมน้ำแข็งและหิมะในกว่างซี อวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ฮาร์บิน และภูมิภาคอื่นๆ ต่างได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่นไทย เป็นอย่างมาก
อ้ายหนิง ชาวไทยที่ศึกษาและทำงานในหนานหนิงมานานหลายปี ระบุว่าหลายปีที่ผ่านมาเธอได้เห็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็วของจีน รวมถึงความสำเร็จในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยหลังจากการดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่าร่วมกัน
เธอตั้งตารอที่จะเห็นเพื่อนชาวไทยเดินทางมายังจีนและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในจีนมากขึ้น โดยเธอระบุว่าชาวไทยที่เดินทางมายังจีน จะได้สัมผัสกับความงดงามของภูมิประเทศทางธรรมชาติของจีน และรับรู้ถึงการพัฒนาทางเทคโนโลยีของจีน อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและพลังงานใหม่ อีกทั้งจะได้ลิ้มรสชาติอาหารอร่อยๆ มากมายด้วย
อ้ายหนิง ระบุว่า พื้นที่ชมวิวและจุดให้บริการหลายแห่งในจีนได้ติดตั้งป้ายภาษาไทย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวไทย เธอแนะนำให้เพื่อนชาวไทยที่เดินทางมาจีนทำความเข้าใจในนโยบายฟรีวีซ่าและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวิธีการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มบนโทรศัพท์มือถือของจีน รวมถึงศึกษาแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ เหม่ยถวน เสี่ยวหงซู เพื่อเป็นคู่มือในการเดินทาง
เหยาหัว ผู้อำนวยการสถาบันสังคมวิทยา สังกัดสถาบันสังคมศาสตร์กว่างซี ระบุว่าการยกเว้นวีซ่าร่วมกันระหว่างจีนและไทยจะช่วยเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองด้านการท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้คนจากทั้งสองประเทศดำเนินการเจรจาทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น อันเป็นการกระชับความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรระหว่างจีนและไทย