วอชิงตัน – ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางฉีดวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสอย่างสมบูรณ์ภายใน 75 วัน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษทางวินัย เนื่องจากสหรัฐฯ พยายามอย่างหนักที่จะควบคุมตัวแปรเดลต้าที่แพร่ระบาดได้สูงให้อยู่ภายใต้การควบคุม

        “นั่นทำให้ผู้คนมีเวลามากเกินเพียงพอ ในมุมมองของเรา ในการเริ่มและดำเนินการชุดการฉีดวัคซีนให้เสร็จสิ้น” เจน ซาซากิ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี “หากพนักงานรัฐบาลกลางไม่ปฏิบัติตาม พวกเขาจะเข้าสู่กระบวนการมาตรฐานทรัพยากรบุคคล ซึ่งรวมถึงให้คำปรึกษาและเผชิญกับการลงโทษทางวินัยที่ก้าวหน้า”

      คำสั่งผู้บริหารยังจะขยายไปยังผู้รับเหมาที่ทำงานกับที่สหรัฐประมาณ 2,100,000 พลเรือนทำงานให้กับรัฐบาลตามที่สำนักงานบริหารงานบุคคลจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางรวมทั้งกองทัพมีประมาณ 4.2 ล้านคน

      ไบเดน จะประกาศข้อกำหนดการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ รวมถึงมาตรการอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ตามที่อยู่ที่กำหนดไว้สำหรับเวลา 17.00 น. ET ในเย็นวันนี้ ข้อกำหนดในการฉีดวัคซีนใช้ไม่ได้กับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการของรัฐบาลกลาง

       เมื่อต้นปีนี้ Biden ได้สั่งให้พนักงานของรัฐบาลกลางทุกคนพิสูจน์สถานะการฉีดวัคซีน coronavirus ของพวกเขาหรือส่งไปยังชุดของโปรโตคอลความปลอดภัยที่เข้มงวด คำสั่งของวันพฤหัสบดีจะลบตัวเลือกในการทดสอบแทนสำหรับพนักงานส่วนใหญ่ แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบางประการ

“จะมีข้อยกเว้นอย่างจำกัดสำหรับเหตุผลที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย เช่น ความทุพพลภาพหรือการคัดค้านทางศาสนา” Psaki กล่าว

        การตัดสินใจของไบเดนเกิดขึ้นในขณะที่ฝ่ายบริหารของเขาค้นหาวิธีที่จะต่อต้านไวรัสที่กลายพันธุ์ การรณรงค์ของเขาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในฤดูร้อนนั้น ส่วนใหญ่ล้มเหลว เนื่องจากต้องเผชิญกับการต่อต้านการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรที่สำคัญของสหรัฐฯ การติดเชื้อและการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

       ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโควิดรายใหม่เฉลี่ยมากกว่า 151,000 รายต่อวัน ซึ่งสูงกว่า 36,000 รายในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้วก่อนที่จะมีวัคซีน ตามการวิเคราะห์ของ CNBC ของข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ผู้คนเกือบ 1,500 คนเสียชีวิตโดยเฉลี่ยจากโควิดในแต่ละวัน

        โดยรวมแล้ว 62% ของประชากรสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสได้แก่ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะที่ 53% ได้รับวัคซีนครบถ้วน

“เป้าหมายหลักของเราคือการลดจำนวนชาวอเมริกันที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งแน่นอนว่ามีชาวอเมริกันที่ไม่ได้รับวัคซีน 80 ล้านคนในช่วงเวลานี้” Psaki กล่าว “เราต้องการลดจำนวนนั้น ลดการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต และปล่อยให้ลูกๆ ของเราไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย”

       “เห็นได้ชัดว่าพนักงานของรัฐบาลกลางเป็นหนึ่งในแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเราอยากจะเป็นแบบอย่างให้กับสิ่งที่เราคิดว่าธุรกิจและองค์กรอื่น ๆ ควรทำทั่วประเทศ” Psaki กล่าว

Jen Katesผู้อำนวยการด้านนโยบายด้านสุขภาพและเอชไอวีระดับโลกที่ Kaiser Family Foundation กล่าวว่าคำสั่งของรัฐบาลกลางที่ครอบคลุมมากขึ้นอาจมีอิทธิพลต่อรัฐบาลของรัฐให้ปฏิบัติตาม ปัจจุบันประมาณ 20 รัฐมีข้อบังคับเกี่ยวกับวัคซีนบางอย่างสำหรับรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แม้ว่าหลายๆ คนจะเลือกไม่รับคนที่ต้องการส่งเข้ารับการทดสอบเป็นประจำแทน

ในเดือนกรกฎาคม กรมกิจการทหารผ่านศึก ประกาศว่าจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพได้รับการฉีดวัคซีนทำให้เป็นหน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งแรกที่บังคับใช้อาณัติดังกล่าว เดนิส แมคโดเนา รัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึก อธิบายว่ามาตรการใหม่นี้เป็น 'วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยให้ทหารผ่านศึก'

      อีกหนึ่งเดือนต่อมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุมัติวัคซีนโควิด-19ของไฟเซอร์  และไบโอเอ็นเทคอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นรายแรกในสหรัฐฯ ที่ได้รับรางวัลนี้ วัคซีน mRNA ซึ่งจะวางตลาดในชื่อ Comirnaty นั้นวางตลาดในสหรัฐอเมริกาภายใต้การอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินซึ่งได้รับอนุญาตจาก FDA ในเดือนธันวาคม

     การอนุมัติของ FDA คาดว่าจะทำให้ธุรกิจ โรงเรียน และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมีความมั่นใจมากขึ้นในการนำข้อบังคับด้านวัคซีนมาใช้

      วัคซีนไฟเซอร์ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 214 ล้านโดสตามข้อมูลที่รวบรวมโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประมาณ 96 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้รับการฉีดวัคซีนสองโดสของไฟเซอร์อย่างสมบูรณ์

     หลังจากได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของไฟเซอร์ เพนตากอนได้ปรับปรุงคำแนะนำด้านสุขภาพเพื่อกำหนดให้สมาชิกบริการและผู้รับเหมาด้านการป้องกันของสหรัฐฯ ทุกคนต้องได้รับวัคซีนโคโรนาไวรัส

      วัคซีน Moderna และ Johnson & Johnson ยังคงได้รับการจัดการภายใต้การอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

- Kevin Breuninger แห่ง CNBC สนับสนุนรายงานนี้จากนิวยอร์ก