การเรียกเก็บเงินจะยกเลิกการแปลงที่เรียกว่า Roth ในบัญชีเกษียณส่วนบุคคลและแผนประเภท 401 (k) สำหรับผู้ที่ทำเงินได้มากกว่า 400,000 เหรียญต่อปี นอกจากนี้ยังจะป้องกันไม่ให้ผู้ออมใช้กลยุทธ์ 'mega-backdoor Roth' โดยไม่คำนึงถึงระดับรายได้

       นอกจากนี้ กฎหมายจะห้ามบัญชีเกษียณส่วนบุคคลจากการถือครองการลงทุนที่กำหนดให้ผู้ซื้อเป็นนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นสถานะที่สงวนไว้โดยทั่วไปสำหรับนักลงทุนที่ร่ำรวย

      ข้อเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นที่กว้างขึ้นในการเพิ่มภาษีให้กับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปีเพื่อช่วยจ่ายค่าเล่าเรียน สภาพภูมิอากาศ การลาพักร้อน การดูแลเด็ก และมาตรการอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ทำให้รหัสภาษีมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

      พวกเขายังติดตามเสียงโวยวายของพรรคเดโมแครตหลังจากรายงานล่าสุดของ ProPublica ว่า Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้งของ PayPal เป็นเจ้าของ Roth IRA ที่เติบโตขึ้นเป็น 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 2,000 ดอลลาร์ในปี 1999

     'IRAs ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การรักษาความปลอดภัยหลังเกษียณแก่ครอบครัวชนชั้นกลาง ไม่อนุญาตให้คนรวยสุด ๆ หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี' Sen. Ron Wyden, D-Ore. ประธานคณะกรรมการการเงินของวุฒิสภากล่าวในเดือนกรกฎาคมหลังจากการเปิดเผยข้อมูลการเจริญเติบโตของ'ล้าน' IRAs

พรรคเดโมแครตมีระยะขอบที่แคบในการผ่านร่างกฎหมาย ซึ่งพวกเขาตั้งเป้าว่าจะใช้เสียงข้างมากอย่างง่ายๆ ผ่านการประนีประนอมด้านงบประมาณ

      พรรครีพับลิกันยังคงต่อต้านอย่างแข็งขัน ตัวแทน Kevin Brady, R-Texas สมาชิกอันดับของคณะกรรมการ Ways and Means กำหนดกรอบการใช้จ่ายว่าเป็น ”การขยายตัวของรัฐสวัสดิการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงชีวิตของเรา” ในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันพฤหัสบดีโดยกล่าวว่า ”เสียเงินภาษีที่หามาได้ยาก ”

กฎหมายปัจจุบันอนุญาตให้ผู้เสียภาษีบริจาคเงิน IRA โดยไม่คำนึงถึงขนาดบัญชี

       อย่างไรก็ตาม กฎหมายจะห้ามมิให้บุคคลบริจาคเงินเพิ่มเติมให้กับ Roth IRA หรือ IRA แบบดั้งเดิม หากมูลค่ารวมของ IRA ที่รวมกันและแผนการบริจาคที่กำหนดไว้เกิน 10 ล้านดอลลาร์ แผนการเงินสมทบที่กำหนดไว้คือแผน 401 (k) หรือแผนการออมทรัพย์ในสถานที่ทำงานอื่นที่คล้ายคลึงกัน

     วัตถุประสงค์ของนโยบายคือ 'เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดหนุนเงินออมเพื่อการเกษียณเมื่อยอดคงเหลือในบัญชีถึงระดับที่สูงมาก'ตามโครงร่างข้อเสนอ

     ขีด จำกัด ดังกล่าวจะนำไปใช้กับผู้เสียภาษีรายเดียวที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีมากกว่า 400,000 เหรียญ เกณฑ์จะอยู่ที่ 450,000 ดอลลาร์สำหรับผู้เสียภาษีที่แต่งงานแล้วร่วมกันและ 425,000 ดอลลาร์สำหรับหัวหน้าครัวเรือน

      บุคคลที่รวม IRA แบบดั้งเดิม, Roth IRA และบัญชีเกษียณอายุที่กำหนดไว้เกิน 10 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปีจะต้องถอนอย่างน้อย 50% ของส่วนที่เกินในปีต่อไป

     ผู้ที่มีบัญชีรวมเกิน 20 ล้านเหรียญจะต้องดึงจาก Roth IRAs และแผน 401 (k) ก่อน

     การแจกแจงขั้นต่ำที่จำเป็นใหม่เหล่านี้สำหรับ mega IRA จะต้องใช้สำหรับผู้ออมที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเกินเกณฑ์เดียวกันที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับขีดจำกัดการบริจาค

     มีข้อ จำกัด ด้านรายได้เพื่อสนับสนุน Roth IRA ในปี 2564 ผู้เสียภาษีรายเดียวจะเพิ่มเงินในบัญชีดังกล่าวไม่ได้หากมีรายได้เกิน 140,000 ดอลลาร์

      แต่กฎหมายปัจจุบันอนุญาตให้มีการบริจาค 'ลับๆ' ให้กับ Roth IRA สามารถทำได้โดยการแปลงบัญชี IRA หรือ Roth 401 (k) แบบดั้งเดิมซึ่งไม่จำกัดรายได้ มีข้อ จำกัด ด้านรายได้ที่กำหนดว่าการบริจาคให้กับ IRA แบบดั้งเดิมนั้นสามารถหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่

     ผู้ออมจ่ายภาษีสำหรับการแปลง แต่การเติบโตของการลงทุนในอนาคตและการกระจายการเกษียณอายุนั้นปลอดภาษี

     กฎหมายจะยุติกลยุทธ์ Roth IRA ลับๆ โดยกำจัด Conversion ของ Roth สำหรับทั้ง IRA และแผนสถานที่ทำงาน เช่น แผน 401 (k)

     นโยบายจะใช้ที่เกณฑ์รายได้เดียวกันกับที่ระบุไว้ข้างต้น จะนับสำหรับการแจกจ่าย การโอน และเงินสมทบในปีที่ต้องเสียภาษีซึ่งเริ่มหลังจากวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2574

      กลยุทธ์ที่เรียกว่า 'mega-backdoor Roth' ใช้หลักการที่คล้ายคลึงกับกลยุทธ์ของ Roth ลับๆ

กลยุทธ์นี้ช่วยให้ผู้มีรายได้สูงสามารถประหยัดเงินได้ถึง 58,000 ดอลลาร์ในแผน 401 (k) ซึ่งมากกว่าวงเงินบริจาคแบบดั้งเดิมที่ 19,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยใช้ถังหลังหักภาษี 401 (k) จากนั้น Savers แปลงเงินออมนั้นเป็นบัญชี Roth และให้ประโยชน์จากการเติบโตของการลงทุนปลอดภาษีอีกครั้ง

กฎหมายของพรรคเดโมแครตจะยุติ Roth ลับๆ ล่อๆ โดยการห้ามไม่ให้เงินสมทบหลังหักภาษีทั้งหมดในแผนสถานที่ทำงาน และห้ามไม่ให้เงินบริจาค IRA หลังหักภาษีถูกแปลงเป็นบัญชี Roth

นโยบายนี้จะนำไปใช้กับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงระดับรายได้

      กฎหมายของพรรคเดโมแครตจะไม่อนุญาตให้มีการลงทุนของ IRA ที่กำหนดให้เจ้าของต้องมีสินทรัพย์หรือรายได้ขั้นต่ำ หรือสำเร็จการศึกษาระดับขั้นต่ำหรือได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองเฉพาะ

สิ่งนี้จะนำไปใช้กับนักลงทุนที่ได้รับการรับรองที่ต้องการซื้อการลงทุนภาคเอกชน

IRA ที่มีการลงทุนเหล่านี้จะสูญเสียสถานะ IRA ซึ่งหมายความว่าจะสูญเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี

กฎเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในปี 2565 แต่จะมีระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงสองปีสำหรับ IRA ที่ถือเงินลงทุนเหล่านี้อยู่แล้ว