- Details
- Category: USA
- Published: Sunday, 22 October 2023 16:17
- Hits: 4258
สหรัฐฯ ปิดท้ายปีงบประมาณด้วยการขาดดุลงบประมาณเกือบ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23%
ECONOMY : Jeff Cox @JEFF.COX.7528 @JEFFCOXCNBCCOM
ประเด็นสำคัญ
รัฐบาลกลางปิดปีงบประมาณในเดือนกันยายน
เมื่อสิ้นปีที่บางคนคิดว่าการขาดแคลนอาจเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ จบลงด้วยความไม่สมดุลที่ 1.695 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 320 พันล้านดอลลาร์
รายงานงบประมาณดังกล่าวมาในสัปดาห์เดียวกัน ไบเดนขอให้สภาคองเกรสจัดสรรเงิน 105,000 ล้านดอลลาร์สำหรับ 'ลำดับความสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ'
Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกามีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกและฟอรัมการลงทุนในนิวยอร์ก วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2023 Seth Wenig/Pool ผ่าน REUTERS
Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เข้าร่วมในฟอรัมโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนระดับโลกในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2023
สระว่ายน้ำ | ผ่านทางรอยเตอร์
รัฐบาลกลางปิดงบปีงบประมาณในเดือนกันยายนด้วยการขาดดุลเพียง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์
เมื่อสิ้นสุดปีที่บางคนคิดว่าการขาดแคลนอาจเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ จบลงด้วยความไม่สมดุลที่ 1.695 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 320 พันล้านดอลลาร์หรือ 23.2% จากปีงบประมาณ 2022
การขาดดุลครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อรายรับลดลง 457 พันล้านดอลลาร์จากปีที่แล้ว และค่าใช้จ่ายลดลงเพียง 137 พันล้านดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายสำหรับปีมีมูลค่ารวม 6.134 ล้านล้านดอลลาร์
การขาดแคลนงบประมาณส่งผลให้หนี้สหรัฐฯ รวมอยู่ที่ 33.6 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ระดับการขาดดุลผ่อนคลายลงบ้างเมื่อศาลฎีกายกเลิก ความพยายาม ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการชำระหนี้เงินกู้นักเรียนหลายพันล้านดอลลาร์
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2020 เมื่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19 กระทบและผลักดันให้รัฐบาลใช้จ่ายอย่างสนุกสนานโดยมีเป้าหมายเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ
จากค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในปีที่แล้ว ประมาณ 659 พันล้านดอลลาร์นำไปใช้เพื่อดอกเบี้ยสุทธิจากหนี้สะสม เพิ่มขึ้นจาก 475 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2022
เจเน็ต เยลเลนรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า ฝ่ายบริหาร ”มุ่งมั่นที่จะจัดการกับความท้าทายต่อแนวโน้มการคลังในระยะยาวของเรา” และชี้ให้เห็นถึงมาตรการต่างๆ ที่เธอกล่าวว่าจะช่วยลดการขาดดุลในทศวรรษหน้า
“เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวได้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญปัญหาต่างๆ ก็ตาม” เยลเลนกล่าว “ความคาดหวังก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐฯ จะตกอยู่ในภาวะถดถอยในช่วงปี 2566 ยังไม่เกิดขึ้น”
การจัดหาเงินทุนเพื่อชำระหนี้มีราคาแพงกว่าอย่างมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สำคัญขึ้น 5.25 จุดเปอร์เซ็นต์ และอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังก็ตอบสนองในลักษณะเดียวกัน ธนบัตรคลัง 10 ปีเจ้าชู้ด้วยอัตราผลตอบแทน 5% น้อยกว่า 1% จนถึงปี 2020
รายงานงบประมาณดังกล่าวมีขึ้นในสัปดาห์เดียวกันไบเดนขอให้สภาคองเกรสจัดสรรเงิน 105,000 ล้านดอลลาร์สำหรับ'ลำดับความสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ'ซึ่งรวมถึง 61,000 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน พร้อมด้วยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในอิสราเอลและฉนวนกาซา
เจเน็ต เยลเลน กล่าวว่าสหรัฐฯ สามารถให้การสนับสนุนทางทหารแก่ทั้งอิสราเอลและยูเครนได้ 'แน่นอน'
เอลเลียต สมิธ @ELLIOTSMITHCNBC
ประเด็นสำคัญ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน โพสต์บน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ย้ำถึง'การสนับสนุนอย่างแน่วแน่' ของวอชิงตันต่ออิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์
รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลินเกน เดินทางกลับอิสราเอลโดยไม่ได้กำหนดไว้เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ 10 ของการทิ้งระเบิดทางอากาศของอิสราเอลที่ฉนวนกาซา
การปิดล้อมอิสราเอลซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากองค์กรสิทธิมนุษยชน เกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่โหดร้ายและมีขนาดใหญ่ซึ่งกลุ่มฮามาสก่อเหตุเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เข้าร่วมในฟอรัมโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนระดับโลกในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2023
สระว่ายน้ำ | ผ่านทางรอยเตอร์
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าประเทศนี้สามารถสนับสนุนทางการเงินแก่ทั้งอิสราเอลและยูเครนในความพยายามทำสงครามได้ ”อย่างแน่นอน”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนโพสต์บนสื่อเอ็กซ์ (ชื่อเดิมคือ ทวิตเตอร์) ย้ำถึง'การสนับสนุนอย่างแน่วแน่' ของวอชิงตันต่ออิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ และกล่าวว่าเขาได้ให้ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ และ ความพยายามที่จะปกป้องพลเรือนในขณะที่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
แม้ว่า จนถึงขณะนี้ทำเนียบขาวได้ให้การรับรองอย่างเต็มที่ถึงสิ่งที่เรียกว่า'สิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตัวเอง' ไบเดนตั้งข้อสังเกตในการให้สัมภาษณ์กับรายการ '60 นาที'ของซีบีเอสว่า การที่อิสราเอลยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้งจะเป็น'ความผิดพลาดครั้งใหญ่'และนั่น แม้ว่ากลุ่มฮามาสควรถูกกำจัดโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยัง 'ต้องมีเส้นทางสู่รัฐปาเลสไตน์'
รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลินเกน เดินทางกลับอิสราเอลโดยไม่ได้กำหนดไว้เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ 10 ของการทิ้งระเบิดทางอากาศของอิสราเอลที่ฉนวนกาซา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปิดล้อมอย่างเต็มรูปแบบที่ส่งผลให้มีประชาชนราว 2 ล้านคนถูกตัดขาดน้ำ อาหาร และไฟฟ้า .
เมื่อถูกถามในการให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ของอังกฤษเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ จะสามารถให้การสนับสนุนทางทหารแก่อิสราเอลและยูเครนในการทำสงครามที่กำลังดำเนินอยู่กับรัสเซียได้หรือไม่เยลเลนกล่าวว่า'คำตอบคืออย่างแน่นอน'
“อเมริกาสามารถยืนเคียงข้างอิสราเอลและสนับสนุนความต้องการทางทหารของอิสราเอลได้อย่างแน่นอน และเรายังทำได้และต้องสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียด้วย” เยลเลนกล่าว พร้อมเสริมว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังดำเนินไป 'ดีมาก'
“เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงและเป็นกังวลต่อภาคครัวเรือน โดยลดลงอย่างมาก ขณะเดียวกัน เรามีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นในรอบ 50 ปี โดยมีอัตราการว่างงาน 3.8% และในขณะเดียวกัน อเมริกา ฝ่ายบริหารของ Biden ได้ผ่านกฎหมายที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของเราในอีกหลายปีข้างหน้าในระยะกลาง”
เยลเลน กล่าวว่าความจำเป็นในการปล่อยเงินทุนสำหรับพันธมิตรทั้งสองถือเป็น 'ลำดับความสำคัญ'และเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรนั่งเป็นวิทยากรเพื่อให้สามารถผ่านกฎหมายได้ หลังจากการขับไล่อดีตประธานสภาเควิน แม็กคาร์ธี
“เรายืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล อเมริกาก็แสดงความชัดเจนต่ออิสราเอลเช่นกัน เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับอิสราเอล ว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเอง” เยลเลนบอกกับวิลเฟรด ฟรอสต์จาก Sky News
“แต่สิ่งสำคัญคือต้องพยายามไว้ชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
การปิดล้อมอิสราเอลซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากองค์กรสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่โหดร้ายและมีขนาดใหญ่ ซึ่งกลุ่มฮามาสก่อเหตุเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
ยอดผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,400 คนในอิสราเอล และเกือบ 2,700 คนในฉนวนกาซา และกองทัพอิสราเอลได้เรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอพยพออกไปทางใต้ ขณะที่พวกเขาสัญญาว่าจะเพิ่มการโจมตีด้วยระเบิด โดยคำสั่งอพยพดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากฝ่ายมนุษยธรรม หน่วยงานภาคพื้นดิน
เยลเลน กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวน ท่ามกลางความกังวลว่ามหาอำนาจเพื่อนบ้านในภูมิภาค เช่น อิหร่าน อาจถูกดึงเข้าสู่สงครามอิสราเอล-ฮามาส
