- Details
- Category: USA
- Published: Tuesday, 11 February 2025 07:16
- Hits: 4380
มัสก์ เรียกร้องให้ถอดถอนผู้พิพากษาที่สั่งปิดกั้น DOGE จากการเข้าถึงระบบของกระทรวงการคลัง
CNBC USA Politics : Lora Kolodny @in/lorakolodny/
จุดสำคัญ
อีลอน มัสก์ โจมตีผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับคำสั่งที่จำกัดไม่ให้มหาเศรษฐีและทีม DOGE เข้าถึงระบบการชำระเงินและข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว
อัยการสูงสุดจาก 19 รัฐฟ้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอ้างว่า เขาละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วยการให้มัสก์เข้าถึงกระทรวงการคลังได้โดยแทบไม่มีข้อจำกัด
มัสก์ กล่าวหาผู้พิพากษาเรื่องการคอร์รัปชั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเรียกร้องให้มีการดำเนินการถอดถอนพวกเขาหลังจากมีคำตัดสินหรือคำสั่งที่ไม่เป็นไปตามที่ปรารถนา
วอชิงตัน ดี.ซี. 13 พฤศจิกายน: อีลอน มัสก์รับฟังขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี บนแคปิตอลฮิลล์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 ในวอชิงตัน ดี.ซี. ตามธรรมเนียมของประธานาธิบดีคนใหม่ ทรัมป์จะเดินทางไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อพบกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว รวมถึงพบกับสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันบนแคปิตอลฮิลล์ (ภาพโดย Andrew Harnik/Getty Images)
Elon Musk, pictured in Washington, D.C., on Nov. 13, 2024, has hit out at the British government and Prime Minister Keir Starmer.
Andrew Harnik | Getty Images
อีลอน มัสก์ ในภาพจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โจมตีรัฐบาลอังกฤษและนายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์
แอนดรูว์ ฮาร์นิก | เก็ตตี้ อิมเมจ
อีลอน มัสก์ได้เรียกร้องให้ถอดถอนผู้พิพากษาของศาลรัฐบาลกลางในนิวยอร์ก นายพอล เอนเกิลเมเยอร์ จากคำสั่งที่จำกัดไม่ให้มหาเศรษฐีผู้นี้ และทีม DOGE เข้าถึงระบบการชำระเงินและข้อมูลละเอียดอ่อนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจบน X ซึ่งเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เขาเป็นเจ้าของ โดยเรียกเอนเกลเมเยอร์ว่า 'ผู้พิพากษาที่ทุจริตซึ่งปกป้องการทุจริต'พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่า 'เขาจำเป็นต้องถูกถอดถอนทันที!'นอกจากนี้ เขายังโพสต์คำอธิบายบน X เกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการทำกับกระทรวงการคลัง อีกด้วย
มัสก์ และพนักงานรัฐบาลพิเศษของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DOGE ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้หาวิธีลดงบประมาณของรัฐบาลกลาง ลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางลงอย่างมาก และยกเลิกกฎระเบียบและหน่วยงานของรัฐบาลกลางให้ได้มากที่สุด
จนถึงขณะนี้ ทีม DOGE ของมัสก์ได้กำหนดเป้าหมายไปที่หน่วยงานที่ใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลกลางเพียงเล็กน้อยเป็นหลัก รวมถึงหน่วยงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่างประเทศอย่าง USAID โดย DOGE ได้พยายาม 'เข้าถึงระบบการชำระเงิน ของกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ เพื่อหยุดไม่ให้เงินไหลเข้าสู่หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ'สำนักข่าว Associated Press รายงานไว้ก่อนหน้านี้
Engelmayer ซึ่งเป็นผู้พิพากษาศาลแขวงของสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ออกคำสั่งระงับการเข้าถึงระบบ DOGE เป็นการชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ เพื่อตอบสนองต่อคำร้องเรียนของอัยการสูงสุดของรัฐ 19 รัฐที่ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ กระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ สก็อตต์ เบสเซนต์
ต่อมามัสก์โพสต์บน Xว่า “คำตัดสินนี้มันบ้าสิ้นดี! เราจะหยุดการฉ้อโกงและการใช้เงินภาษีอย่างฟุ่มเฟือยได้อย่างไร โดยไม่ดูว่าเงินถูกใช้ไปอย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลย!ต้องมีบางอย่างที่น่ารังเกียจเพื่อปกป้องพวกหลอกลวง”
เพื่อตอบสนองต่อคำพูดของมัสก์ อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซีย์ แมทธิว แพลตกิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ฟ้องคดี กล่าวกับ CNBC ทางอีเมลว่า 'สิ่งที่น่าสงสัย ก็คือมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีทำผิดกฎหมายเพื่อพยายามขโมยข้อมูลละเอียดอ่อนของชาวอเมริกันหลายล้านคน'
อัยการสูงสุดจาก 19 รัฐโต้แย้งในคำร้องของตนว่าประธานาธิบดีทรัมป์ล้มเหลวในการ'ปฏิบัติตามกฎหมายที่ประกาศใช้โดยรัฐสภาอย่างซื่อสัตย์' โดยให้มัสก์และทีมเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงการคลังและข้อมูลละเอียดอ่อนของผู้เสียภาษีที่จัดเก็บหรือประมวลผลในระบบได้อย่างไม่มีใครทัดเทียม
หลังจากมีคำสั่งดังกล่าว มัสก์ ก็ได้แชร์โพสต์จากผู้ติดตามบน X ซึ่งเสนอว่า DOGE ควรฝ่าฝืนคำสั่งของศาล
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ ซึ่งเป็นทนายความที่จบจากมหาวิทยาลัยเยล โพสต์ข้อความบน X ว่า ในความเห็นของเขา 'หากผู้พิพากษาพยายามบอกนายพลว่าควรดำเนินการทางทหารอย่างไร นั่นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากผู้พิพากษาพยายามสั่งอัยการสูงสุดว่า จะใช้ดุลพินิจในฐานะอัยการอย่างไร นั่นก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน ผู้พิพากษาไม่มีสิทธิควบคุมอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายของฝ่ายบริหาร”
อัยการสูงสุดของรัฐนิวเจอร์ซีย์ แพลตคิน กล่าวผ่านแถลงการณ์ทางอีเมลว่า “เราคาดหวังอย่างยิ่งว่าจำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งที่ศาลออกให้โดยคำนึงถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงที่เป็นประเด็นนี้และความเสี่ยงมหาศาลที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความเป็นส่วนตัว ประเทศของเราสร้างขึ้นบนหลักนิติธรรม และเราตั้งใจที่จะปฏิบัติตามหลักนิติธรรมให้มากที่สุดเพื่อปกป้องประชาชนของเรา”
ตามที่นักวิชาการด้านกฎหมายกล่าวไว้ ในประวัติศาสตร์ ระบบตุลาการ สามารถยับยั้งฝ่ายบริหารไม่ให้ละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ได้
Joyce White Vance ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากคณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามาและนักวิเคราะห์กฎหมายของ NBC News เขียนในอีเมลเมื่อวันอาทิตย์ว่า “รัฐธรรมนูญและประเพณีหลักนิติธรรมของเราถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้ศาลมีอำนาจพิจารณาขอบเขตอำนาจที่ฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี) มีอยู่เมื่อการกระทำของเขาถูกท้าทาย
นั่นคือ เหตุผลที่เราได้เห็นอัยการสูงสุดของรัฐจำนวนหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อท้าทายว่า ทรัมป์มีอำนาจทางกฎหมายในการดำเนินการต่างๆ เช่น การยกเลิกสัญชาติโดยกำเนิด การระงับการใช้จ่ายที่รัฐสภาอนุมัติ และส่ง DOGE ไปยังหน่วยงานของรัฐบาลกลางหรือไม่”
เธอสังเกตว่า 'มีบรรทัดฐานมาหลายศตวรรษในการสร้างบทบาทของศาลในการตรวจสอบการใช้อำนาจเกินขอบเขตของฝ่ายบริหาร' รวมถึงคดีเช่น Youngstown Sheet & Tubing Company v. Sawyerซึ่งศาลฎีกาสหรัฐฯ ปฏิเสธไม่ให้ประธานาธิบดี Harry S.Truman เข้าควบคุมโรงงานเหล็กของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเกาหลี
Marin K. Levy ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจาก Duke Law School กล่าวกับ CNBC ทางอีเมลเมื่อวันอาทิตย์ว่า 'อัยการสูงสุดของรัฐและผู้พิพากษาในคดีนี้ต่างก็ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างดี สิ่งที่เราเห็น คือระบบตุลาการทำงานอย่างที่ควรจะเป็น'
นอกจากนี้ เธอยังเน้นย้ำว่าคำ ตัดสินของศาลเมื่อวานนี้ ไม่ใช่คำตัดสินขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของคดี แต่ศาลได้อนุมัติคำร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (เรียกอีกอย่างว่า TRO หรือ คำสั่งห้ามชั่วคราว) จากอัยการสูงสุด ศาสตราจารย์อธิบายว่า “คำสั่งนี้ จะดำเนินการในกรณีที่มีข้อกังวลว่า จะมีความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้เกิดขึ้นก่อนที่ศาลจะตัดสินข้อเท็จจริงของคดีได้ และตอนนี้ ผู้พิพากษาอีกคนจะเป็นผู้ตัดสินข้อเท็จจริง”
มัสก์ กล่าวหา ผู้พิพากษาหลายครั้งว่า มีการทุจริต มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังจากที่เขาไม่พอใจกับคำสั่ง หรือความคิดเห็นของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น เขาโจมตีนายกรัฐมนตรีแคธลีน แมคคอร์มิค ในศาลฎีกาเดลาแวร์ หลังจากที่เธอพบรถยนต์เทสลา รุ่นปี 2018 ของมัสก์ แพ็คเกจค่าตอบแทน CEO มูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ได้รับการอนุมัติอย่างผิดกฎหมาย และต้องถูกยกเลิก
นอกจากนี้ เขายังโจมตี ผู้พิพากษาอเล็กซานเดร เด โมราเอส แห่งศาลฎีกาบราซิล ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า โดยที่ประเทศนี้กดดันให้ X (เดิมชื่อ Twitter) ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับโซเชียลมีเดีย หลังจากต่อสู้คดีกันมาหลายเดือน และโพสต์ข้อความดูหมิ่นเดอ โมราเอสบน X มัสก์ ก็ยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของศาล จ่ายค่าปรับ และปฏิบัติตามกฎหมายของบราซิล
คดีที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงข้อมูลคลังและระบบคอมพิวเตอร์ของมัสก์คือ คดี State of New York, et al v.Donald Trump, et alในเขตทางใต้ของนิวยอร์ก (คดี 1:25-cv-01144-JAV) อ่านคำสั่งของผู้พิพากษาได้ที่นี่
