WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พีแอนด์จีประกาศร่วมงานกับเกษตรกรรายย่อย หวังยุติการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์ม

         ซินซินเนติ--(บิสิเนส ไวร์)--24 ก.ค. 2557

         เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานชั้นนำของโลกพร้อมร่วมงานกับบรรดาเกษตรกรรายย่อยเพื่อปรับปรุงแนวทางปฏิบัติ

         การแยกแหล่งทรัพยากรที่มีความยั่งยืนออกจากแหล่งที่ไม่มีความยั่งยืนในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มและน้ำมันจากเนื้อในเมล็ดปาล์มนั้น นับเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก แต่พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (NYSE:PG) กำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในขณะนี้ ทางบริษัทกำลังดำเนินการวิจัยภาคสนามเพื่อทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติของเหล่าเกษตรกรรายย่อย ตลอดจนศึกษาว่าจะสามารถปรับปรุงแนวทางปฏิบัติเหล่านั้นเพื่อปกป้องป่าไม้ในพื้นที่ได้อย่างไร ทั้งนี้ พีแอนด์จีร่วมมือกับสถาบันนวัตกรรมห่วงโซ่อุปทานแห่งมาเลเซีย (MISI) เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งจะเติมเต็มพันธสัญญาของบริษัทที่ได้ประกาศไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ ตามเป้าหมายใหม่ในการยุติการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์ม

         “เราต้องการให้เกิดความยั่งยืนในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มและน้ำมันจากเนื้อในเมล็ดปาล์มตั้งแต่ต้นจนจบ อีกทั้งยังสามารถเป็นแหล่งรายได้สำหรับเหล่าเกษตรกรท้องถิ่นที่ต้องพึ่งพาปาล์มเลี้ยงดูครอบครัว” เล็น ซาวเออร์ส รองประธานฝ่ายความยั่งยืนทั่วโลกของพีแอนด์จี กล่าว “โดยปัจจุบันเราได้ร่วมงานกับบรรดาซัพพลายเออร์รายใหญ่อยู่แล้วเพื่อสืบสาวไปถึงต้นทางของห่วงโซ่อุปทาน แต่เกษตรกรรายย่อยในหลายพื้นที่ เช่นมาเลเซียและอินโดนีเซีย คิดเป็นสัดส่วน 35-45% ของการผลิตน้ำมันปาล์ม ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงความต้องการและแนวทางปฏิบัติของพวกเขา เพื่อให้เราสามารถสร้างสรรค์วิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่ๆ เหมือนกับที่เราทำความเข้าใจการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้บริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์”

         มาเฮนเดอร์ ซิงห์ จากสถาบัน MISI ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ กล่าวว่า “นี่เป็นห่วงโซ่อุปทานอันซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรายย่อยหลายพันคนที่มีการทำงานร่วมกันกับภาคส่วนอื่นๆ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ได้จึงมีการส่งผ่านกันหลายมือ ตั้งแต่ผู้ปลูก เทรดเดอร์ โรงงาน ผู้ซื้อ ไปจนถึงบริษัทที่รับซื้อ จนส่งผลให้การแยกแหล่งทรัพยากรที่มีความยั่งยืนออกจากแหล่งที่ไม่มีความยั่งยืน เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เรามีเป้าหมายเพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่า ผ่านการส่งเสริมระบบนิเวศแบบครอบคลุม ที่ช่วยสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในการจัดการกับปัญหาท้าทายต่างๆ”

         เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พีแอนด์จีได้ประกาศเป้าหมายใหม่เพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์มให้เป็น 0% โดยได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มและน้ำมันจากเนื้อในเมล็ดปาล์ม ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และในพื้นที่เพาะปลูกภายในปี 2563 สำหรับการจัดทำงานวิจัยระยะเวลา 6 เดือนที่มีการเปิดตัวในวันนี้ จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว และจะช่วยให้พีแอนด์จีสามารถเข้าใจห่วงโซ่อุปทานเกษตรกรรายย่อย ตลอดจนแนวทางช่วยเหลือบรรดาผู้ปลูกในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจะรายงานผลการศึกษา พร้อมพัฒนาแผนการดำเนินงานภายในสิ้นเดือนกันยายน 2557 ขณะที่สถาบัน MISI จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำการวิจัย และจะทำงานร่วมกับพีแอนด์จีเพื่อพัฒนาแผนการดำเนินงานด้วยเช่นกัน

         นอกจากนี้ เป้าหมายดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้พีแอนด์จีขยายขอบเขตการดำเนินงานร่วมกับซัพพลายเออร์ องค์กรอื่นๆในอุตสาหรรม เอ็นจีโอ นักวิชาการ และผู้ถือผลประโยชน์ร่วมรายอื่นๆ เพื่อส่งเสริมมาตรฐานของอุตสาหกรรม และแนวทางปฏิบัติเพื่อการจัดซื้อน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน

         ดร.ซาวเออร์ส กล่าวว่า "เรากำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ซัพพลายเออร์รายใหญ่ และเกษตรกรรายย่อย เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สำคัญและยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นของเรา เราจะพัฒนาเครื่องมือและแนวปฏิบัติที่ดี ซึ่งเราสามารถแบ่งปันร่วมกับบริษัทอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับโอกาสต่างๆเหมือนกันกับเราในการจัดตั้งระบบตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่เกษตรกรจนถึงผู้ซื้อ”

         เกี่ยวกับ MISI

         สถาบัน MISI ในชาห์อลาม ประเทศมาเลเซีย เป็นศูนย์ลำดับที่สี่ในเครือข่ายความเป็นเลิศด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ MIT Global SCALE (Supply Chain and Logistics Excellence) สถาบันได้รับการก่อตั้งในฐานะที่เป็นโครงการร่วมระหว่างสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และรัฐบาลมาเลเซีย และเป็นพันธมิตรนานาชาติขององค์กรวิจัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งอุทิศตนเพื่อการพัฒนาและเผยแพร่นวัตกรรมระดับโลกในด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์

         เกี่ยวกับพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล

         พีแอนด์จี อยู่เบื้องหลังหลากหลายผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ผู้บริโภค 4.8 พันล้านคนทั่วโลกให้ความไว้วางใจ แบรนด์ชั้นนำของบริษัทประกอบด้วย Always(R), Ambi Pur(R), Ariel(R), Bounty(R), Charmin(R), Crest(R), Dawn(R), Downy(R), Duracell(R), Fairy(R), Febreze(R), Gain(R), Gillette(R), Head & Shoulders(R), Lenor(R), Olay(R), Oral-B(R), Pampers(R), Pantene(R), SK-II(R), Tide(R), Vicks(R), Wella(R) และ Whisper(R) ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.pg.comเพื่อติดตามข่าวสารล่าสุด และรับชมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพีแอนด์จีและแบรนด์ต่างๆในเครื

         สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธสัญญาด้านน้ำมันปาล์มของพีแอนด์จี สามารถรับชมได้ที่: P&G Sustainability/Palm Oil [http://www.pg.com/en_US/sustainability/policies_practices/palmoil.shtml ]

         ติดต่อ: 
         สื่อมวลชนสามารถติดต่อพีแอนด์จีได้ที่
         พอล ฟ็อกซ์ (Paul Fox)
         โทร. 513-983-3465
         อีเมล: fox.pd@pg.com

 
หมายเหตุ:

ไทย บิสิเนส นิวส์ คือผู้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ซึ่งส่งจากบริษัทและองค์กรหลายพันแห่งทั่วโลกไปยัง สื่อมวลชน ตลาดการเงิน นักลงทุน เว็บไซต์สำหรับให้บริการข้อมูล ฐานข้อมูล ฯลฯ 

ไทย บิสิเนส นิวส์ เป็นธุรกิจในเครือบริษัท สตูดิโอ มาเจนตา ลิมิเต็ด (Studio Magenta Limited) จัดตั้ง ขึ้นในปีพ.ศ. 2547 เพื่อแปลและเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ โดยท่านสามารถนำข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อในบริการและสื่อของท่านได้ 

หากท่านสนใจลงทะเบียนรับข่าวของไทย บิสิเนส ไวร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือต้องการดูข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.thaibusinessnews.com/

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!