WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

หอการค้าฯจี้ลดน้ำมันลงอีก-กดบาทอ่อนช่วยเกษตรกร ข้าว-ยางดิ่งต่ำสุดรอบ 40 ปี

    แนวหน้า : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. ลดลงทุกรายการ ชี้เหตุราคาสินค้าเกษตรซึมสุดรอบ 40 ปี ชี้เป็นโจทย์ยากเหมือนเครื่องยนต์สำคัญๆ ดับหมด แนะลดราคาดีเซล-เบนซิน, กดบาทอ่อน, ลดดอกเบี้ยเงินกู้, แก้สินค้าเกษตรตก, เร่งแจกเงินชาวนา พร้อมกระตุ้นลงทุนฟื้นเศรษฐกิจ

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนพ.ย. 2557 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2557 ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนพ.ย.ปรับลดลงในทุกรายการ ยกเว้นดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย จากระดับ 80.1 มาอยู่ที่ระดับ 79.4 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 68.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ระดับ 73.1 และดัชนีความเชื่อมั่น เกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ลดลงเหลือ 96.3 จากเดือนที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 69.6,73.8 และ 97 ตามลำดับ

   โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่ประชาชนกังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูง รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ, ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ โดยเฉพาะ ข้าว และยางพารา, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2557 เหลือ 1%, ค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย, เศรษฐกิจยังคงซึมตัว ความไม่แน่นอนความฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการที่เม็ดเงินที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยังเข้าไปในระบบไม่มาก

    “ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวลงมากที่สุด พร้อมกันในรอบ 40 ปี ซึ่งราคา สินค้าเกษตรไทยไม่เคยตกต่ำเช่นนี้ โดยเฉพาะราคาข้าว ยางพาราตกต่ำ แม้แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540, วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ ในปี 2551 และมหาอุทกภัยในปี 2554 ไทยก็ไม่เคยเจอสินค้าเกษตรแย่ขนาดนี้นายธนวรรธน์ กล่าว

    โดยราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำยังส่งผลให้การใช้จ่ายตามภูมิภาคไม่คึกคัก เม็ดเงินที่อัดฉีดเข้าในระบบเศรษฐกิจยังมีน้อยและช้า ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนก็ส่งผลให้การใช้จ่ายชะลอตัว ทำให้เม็ดเงินที่จะเข้าหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยมีน้อยลง เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัว ความเชื่อมั่นจึงลดลงด้วย

    พร้อมกันนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังเสนอวิธีแก้ไขเศรษฐกิจไทย และดึงความเชื่อมั่นให้ดีได้เร็วที่สุดขณะนี้ คือ ต้องดึงราคาน้ำมันให้ปรับลดลงมาอีก ซึ่งที่ผ่านมาราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนไปได้ ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน, ค่าเงินบาทต้องอ่อนค่า เพื่อให้เป็นผลดีต่อการส่งออก, ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้อยู่ในระดับต่ำ, เร่งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร, เร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท และต้องเร่งให้การลงทุนที่มีการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ให้มีการเริ่มโครงการโดยเร็ว

   อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2557 จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 1% หรือประมาณ 0.8% และปี 2558 มองว่าหากงบจากมาตรการการลงทุนของรัฐ เริ่มได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า เศรษฐกิจไทยอาจจะโตได้ที่ 4% และหากเศรษฐกิจโลกดีขึ้นด้วย ก็อาจจะโตได้ถึง 5%

   “ปัญหาเศรษฐกิจของไทยตอนนี้เป็นโจทย์ที่ยากสำหรับรัฐบาลในการแก้ปัญหาเนื่องจากเครื่องยนต์สำคัญๆ ดับหมด เช่น การส่งออกในปีนี้ยังไม่ฟื้นตัวเร็วพอ และคาดว่าจะโตเพียง 0% การท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้น ดีขึ้นแต่ฝั่งอันดามัน รวมทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ถ้ารัฐบาลไม่สามารถ อัดฉีดงบกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วพอในเดือนธ.ค. 2557 อาจจะส่งผลให้การใช้จ่ายช่วงปีใหม่ไม่คึกคัก ดังนั้นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธ.ค. จึงตัวบ่งชี้ที่สำคัญ ที่จะทำให้เห็นทิศทางเศรษฐกิจในปีหน้านายธนวรรธน์ กล่าว

    นอกจากนี้ ยังต้องการให้ผู้ประกอบการ มีการทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมต่อไปเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน ซึ่งหากการลงทุนภาครัฐสามารถเบิกจ่ายออกมาได้ในต้นปีหน้า คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นได้ในครึ่งปีหลัง ของปี 2558

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!