WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1 ม.หอการค้าไทย

ม.หอการค้าไทย เผยผลโพลเลือกตั้ง 66 ชี้ 3 เรื่องเร่งด่วน ต้องทำ ลดค่าครองชีพ-เพิ่มสวัสดิการ-เพิ่มค่าแรง

ม.หอการค้าไทย เผยผลโพลเลือกตั้งปี 66 ระบุ 3 เรื่องด่วน ลดค่าครองชีพ-เพิ่มสวัสดิการ-เพิ่มค่าแรง ต้องเร่งทำหากเป็นรัฐบาล พร้อมระบุเน้นเลือกนโยบายแต่ละพรรคที่เหมาะกับตนเองไม่เน้นไปพรรคใดพรรคหนึ่ง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในงานสัมมนา โค้งสุดท้าย เลือกตั้ง 66 ดีเบต...นโยบายเศรษฐกิจ กับ 9 พรรคการเมือง โดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่า จากการสำรวจความคิดเห็น ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 เรื่อง ‘ความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมือง’ โดยจากการสุ่มตัวอย่าง 2,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ

โดยจากการสำรวจ พบว่า การลดค่าครองชีพนโยบายที่พรรคการเมืองและรัฐบาลเข้ามาดูแล โดยทุกกลุ่มตัวอย่างเน้นค่าครองชีพ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำประปา ค่ารถไฟฟ้า และค่าก๊าซหุงต้ม โดยเฉพาะกลุ่มที่เลือกตั้งเป็นครั้งแรกให้ความสำคัญกับการลดค่าครองชีพมากที่สุด รวมทั้งทุกช่วงวัยจะให้ความสำคัญกับนโยบายตรวจสุขภาพฟรี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และการสร้างรายได้ รวมถึงการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่เอสเอ็มอี ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างเลือกนโยบายของแต่ละพรรคที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ไม่ได้เน้นไปทางพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง มีความหลากหลายทางความคิดตามช่วงวัย

ทั้งนี้ ในการทำผลโพลครั้งนี้ ผู้จัดทำแบ่งเป็น 8 นโยบาย ดังนี้ 

นโยบายที่ 1 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เช่น เพิ่มเป็น 450-600 บาทต่อวัน 2.ขึ้นอัตราเงินเดือน เช่น วุฒิปริญญาตรีเพิ่มเป็น 25,000 บาทต่อเดือน 3.เพิ่มเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ เช่น 1,000-5,000 บาทต่อเดือน ส่วนโครงการที่ได้ความสนใจ เช่น ให้เงินเลี้ยงดูเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี เช่น 1,200 บาท/เดือน โครงการเราเที่ยวด้วยกันภาค 2 ธนาคารหมู่บ้าน/ธนาคารชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท

นโยบายที่ 2 นโยบายแรงงาน/การจ้างงาน โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.สร้างตำแหน่งงานใหม่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 2.นำผู้ประกอบอาชีพอิสระ เข้าระบบประกันสังคม 3.เบิกเงินผู้ประกันตน 30% มาใช้ก่อนได้

นโยบายที่ 3 นโยบายลดค่าครองชีพ โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.ลดค่าไฟฟ้า 2.ลดราคาน้ำมัน และ 3.ลดราคาแก๊สหุงต้ม ส่วนนโยบายที่ได้รับความสนใจรองลงมา คือ ลดค่าน้ำประปา, เงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี , บัตรเดียวสามารถเติมเงินใช้บริการสาธารณพื้นฐานได้ทั้งหมดเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสาย โดยนโยบายลดค่าครองชีพ ประชาชนมักให้ความสนใจและให้ความสำคัญค่อนข้างมาก

นโยบายที่ 4 นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน จากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท 2.ปลดล็อคให้สมาชิก กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)และสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถนำเงินสมทบส่วนหนึ่ง เช่น ไม่เกิน 30% ออกมาซื้อบ้าน/ลดหนี้บ้านได้ 3.ยกเลิกหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

นโยบายที่ 5 นโยบายสวัสดิการ โดยจากการสำรวจ พบว่า  3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.ตรวจสุขภาพฟรี 2.รักษาฟรีทุกโรค บัตรทอง 30 บาทพลัส 3.ให้เงินอุดหนุนค่าปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุ เช่น ช่วยไม่เกิน 50,000 บาท/หลัง ส่วนนโยบายที่ให้ความสำคัญน้อย 3 อันดับ คือ 1.เรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี 2.บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน เป้าหมาย 5 ล้านคน (หวยบำนาญ) และ 3.ให้เงินรับขวัญเด็กแรกเกิด เช่น 3,000 บาทต่อคน โดยจากการสำรวจทุกกลุ่ม เน้นให้การดูแลในเรื่องสุขภาพ และการลดค่าครองชีพเป็นเรื่องที่สำคัญ

นโยบายที่ 6 นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.จัดสรรเงินสนับสนุนการปรับปรุง/พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 2.จัดสรรเงินสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพชุมชนท่องเที่ยว 3.พัฒนาแพลตฟอร์มท่องเที่ยวสัญชาติไทย ส่วนนโยบายที่ให้ความสำคัญรองลงมา คือ นำธุรกิจสีเทาเข้ามาอยู่ในระบบเศรษฐกิจอย่างถูกกฎหมาย การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยซอฟท์พาวเวอร์ และพัฒนาแพลตฟอร์มขายของออนไลน์สัญชาติไทย

นโยบายที่ 7 นโยบายเกษตร โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.สร้างเกษตรรุ่นใหม่ 2.ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง 3.ให้เงินอุดหนุนกลุ่มเกษตรกร เช่น ปีละ 100,000 บาทต่อกลุ่ม ส่วนนโยบายที่ให้ความสำคัญน้อย คือ ขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ผลักดันราคาสินค้าเกษตร/ตั้งกองทุนพยุงราคาสินค้าเกษตร และเกษตรกรขายคาร์บอนเครดิตได้ ส่วนการพักหนี้เกษตรกรนั้น มีบางกลุ่มให้ความสำคัญ

นโยบายที่ 8 นโยบายช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี โดยจากการสำรวจ พบว่า 3 นโยบายแรก ที่ประชาชนให้ความสำคัญ คือ 1.SME เข้าถึงทุน 2.ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อเดือน ชำระดอกเบี้ยภายใน 6 เดือนถึง 3 ปี 3.หวย SME ซื้อสินค้า SME แถมหวย

นายธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน 3 อันดับแรกที่โดดเด่น คือ 1.ลดค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในระดับเหมาะสม 2.เพิ่มเติมสวัสดิการในด้านต่างๆให้กับประชาชน (โดยเฉพาะสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลและเบี้ยผู้สูงอายุ) 3.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และพัฒนาทักษฝีมือแรงงาน ส่วนนโยบายที่รองลงมา เช่น แก้ไขปัญหาความยากจน-ปัญหาหนี้สิน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ เป็นต้น

ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนอยากถามนักการเมือง คือ นโยบายต่างๆ เอาเงินมาจากไหน หรือ จากภาษีประชาชน หรือ เงินนอกงบประมาณ นโยบายที่พูดออกมานโยบายเร่งด่วน และที่จะทำ นโยบายเร่งด่วน สามนโยบายที่ทำแล้วการได้คืออะไร เศรษฐกิจจะเติบโตแค่ไหน และเสียแค่ไหน หนี้สาธารณะจะเพิ่มหรือไม่

More Articles

 

การสำรวจความคิดเห็น(Poll) ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ปี2566

 

Click Donate Support Web  

MTL 720x100

kasat 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!