Details

Category: หอการค้า

Published: Thursday, 25 December 2014 18:53

Hits: 4318

10 อันดับธุรกิจเด่น-ดับปี 58 เสริมความงามรุ่ง-หัตถกรรมร่วง

    แนวหน้า : นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยธุรกิจเด่น-ธุรกิจที่ไม่โดดเด่น ปี 2558 ว่า ธุรกิจที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จทั้งด้านความต้องการของตลาดและกำไรในปีหน้า 10 อันดับ ดังนี้

      อันดับ 1 ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม เพราะจากกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามมีความขึ้น อีกทั้งการบริการทางการแพทย์และความงามของไทยมีคุณภาพดี ราคาไม่แพงในสายตาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านยังเชื่อมั่นในเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความทันสมัย

      อันดับ 2 ธุรกิจเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิว เพราะพฤติกรรมการดูแลเรื่องผิวพรรณมีมากขึ้น

      อันดับ 3 ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารและอุปกรณ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากความต้องการใช้ระบบสื่อสารมีมากขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของคนไทย รวมถึงการเข้าสู่ยุค 4G ในปีหน้า การพัฒนาเครือข่ายความเร็วสูง และราคาอุปกรณ์ถูกลง

      อันดับ 4 คือธุรกิจการศึกษา และธุรกิจท่องเที่ยว จากกระแสความต้องการเรียนรู้มีมากขึ้นในสังคมแห่งการเรียนรู้ การเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนมากขึ้น และมีการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยบวกต่อการท่องเที่ยว รวมถึงไทยมีการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

      อันดับ 5 คือธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการหักลดหย่อนภาษีที่ยังมีต่อเนื่อง ระดับรายได้ของประชาชนมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นและประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการออมในระยะยาวมากขึ้น

     อันดับ 6 คือธุรกิจเครื่องดื่ม เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการด้านนี้มากขึ้น และพฤติกรรมของคนไทยที่ชอบการสังสรรค์

     อันดับ 7 มีธุรกิจถุงมือยางถุงมือตรวจ และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น มีความต้องการสินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

    อันดับ 8 คือธุรกิจสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ รองรับกับสังคมไทยที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น

    อันดับ 9 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์(แนวดิ่ง) ซึ่งจะขยายตัวตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ส่วนธุรกิจร้านกาแฟอยู่ในอันดับเดียวกัน โดยมีปัจจัยหนุนมาจากแนวโน้มของการบริโภคกาแฟของประเทศสูงขึ้น

      อันดับ 10 ธุรกิจประมงน้ำจืด เป็นธุรกิจที่โดดเด่นเนื่องจากคนไทยใส่ใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและย่อยง่าย สุดท้ายธุรกิจร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์และอุปกรณ์ อยู่ในอันดับ 10 เช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันพบว่าความนิยมในบิ๊กไบค์มีเพิ่มมากขึ้น

    ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจที่เป็นดาวร่วงในปี 2558 ได้แก่ ดอกไม้ประดิษฐ์ หัตถกรรมทั่วไป ผักและผลไม้อบแห้ง สิ่งทอผ้าผืนที่ไม่เน้นฝีมือ ร้านค้าดั้งเดิม ยางพารา โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา ข้าว ส้วมนั่งยอง และมอเตอร์ไซด์(ธรรมดา) โดยสาเหตุที่ยางพารา และข้าว ถูกจัดอยู่ในธุรกิจดาวร่วงเนื่องจากมองว่าปีหน้าราคาสินค้าเกษตรทั้งสองชนิดยังตกต่ำจากแนวโน้มราคาจากตลาดโลกลดลง ขณะเดียวกันมีสต็อกของรัฐอยู่ในปริมาณมาก โดยส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจมอเตอร์ไซด์ด้วย จะเห็นได้จากปีนี้ยอดขายรถมอเตอร์ไซด์ตกลงค่อนข้างมาก

    นายธนวรรธ์ พลวิชัย ผู้อำนวนการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ธุรกิจดาวรุ่งในปีหน้าพบว่าเกิดจากการปรับตัวตามธรรมชาติของภาคธุรกิจเองตามปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งจากการรองรับการเข้าสู่เออีซี การเป็นสังคมผู้สูงอายุ และใส่ใจเรื่องการประกันมากขึ้น รวมทั้งการเป็นสังคมเมืองที่ชีวิตคนไทยเป็นชีวิตแบบดิจิทัล อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีความโดดเด่น นโยบายดิจิทัล อีโคโนมี และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ที่สนับสนุนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง คอนโดมิเนียม และการค้าชายแดนให้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

     สำหรับ เศรษฐกิจไทยในปีหน้ามองว่าจะเป็นช่วงขาขึ้น โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 4% การส่งออกขยายตัวอยู่ในระดับ 4.1% การบริโภคภายในประเทศขยายตัว  2.7% การลงทุนขยายตัว 6.9% อุตสาหกรรมขยายตัว 4.5% ภาคเกษตรขยายตัว 1.6% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.3% โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะเริ่มเห็นในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ซึ่งจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นได้ตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 หลังจากที่รัฐบาลมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะทำให้เศรษฐกิจเริ่มขับเคลื่อนได้ดีขึ้น รวมถึงจะทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามมาด้วย

     นายธนวรรธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานมหกรรมของขวัญลดราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 24-30 ธ.ค.นี้ คาดว่าน่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 50,000 ล้านบาทเพราะประชาชนทั่วไปจะวางแผนการใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่จำนวนดังกล่าวจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนที่ไม่ได้วางแผนในการซื้อสินค้าล่วงหน้าแล้วหันมาซื้อสินค้าประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท และจะช่วยเพิ่มการขยายตัวเศรษฐกิจได้ 0.05%  และหากรวมกิจกรรมอื่นๆ เข้าไปก็คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ น่าจะช่วยเพิ่มจีดีพีได้ 0.3-0.4% ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ถึง 1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.8%

หอการค้าไทย มองปี 58 ธุรกิจการแพทย์-ความงามยังเป็นดาวเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

        นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ 10 อันดับธุรกิจที่มีความโดดเด่นที่สุดในปี 58 พบว่า ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม ยังคงเป็นธุรกิจดาวเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่สาม โดยมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างธุรกิจเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ตามมาเป็นอันดับ 2

      ในขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร และอุปกรณ์ อยู่ในอันดับสามของธุรกิจดาวเด่นของปีหน้า โดยมีปัจจัยบวกจากความต้องการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นภายใต้นโยบาย Digital Economy รวมถึงราคาอุปกรณ์สื่อสารที่ลดต่ำลง

     สำหรับ ธุรกิจดาวเด่นในส่วนที่เหลือคือ อันดับที่ 4 ธุรกิจการศึกษาและธุรกิจท่องเที่ยว อันดับ 5 ธุรกิจประกันชีวิต อันดับ 6 ธุรกิจเครื่องดื่มอันดับ 7 ธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือตรวจ และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อันดับที่ 8 ธุรกิจจำหน่ายและผลิตสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ อันดับ 9 มี 2 ธุรกิจ ประกอบด้วธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เข้ามาใหม่ในปีนี้ อย่างธุรกิจร้านกาแฟ ซึ่งโดดเด่นจากความนิยมบริโภคกาแฟที่เพิ่มสูงขึ้น และอันดับ 10 เป็น 2 ธุรกิจที่เข้ามาใหม่ คือธุรกิจประมงน้ำจืด และธุรกิจจำหน่ายบิ้กไบค์ ที่โดดเด่นจากรสนิยมและความต้องการขับขี่มอเตอร์ไซด์ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น

     ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วงสำหรับปีหน้า ประกอบด้วย ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ หัตถกรรมทั่วไป ผักและผลไม้อบแห้ง สิ่งทอผ้าผืน ร้านค้าดั้งเดิม ยางพารา โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา ข้าว ส้วมนั่งยอง และมอเตอร์ไซด์

     นายธนวรรธน์ กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 4% ตามการขยายตัวของตัวเลขเศรษฐกิจด้านต่างๆ การส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.1% การบริโภคขยายตัวได้ 2.7% การลงทุนขยายตัว 6.9% อุตสาหกรรมขยายตัว 4.5% ภาคการเกษรตรขยายตัว 1.6% และอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้น 2.3%

    ส่วนปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจด้านต่างๆคือ เศรษฐกิจโลกที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวรวมไปถึงเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันภาครัฐฯมีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายทางด้านการเงินและการคลัง รวมไปถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ นอกจากนี้ในปี 58 ยังเป็นปีที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตด้วย

       อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยคือ สถานการณ์ทางด้านการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมไปถึงความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งยังต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง

                อินโฟเควสท์

เปิดโผธุรกิจดาวเด่น 58 การแพทย์-ความงามที่1

   ไทยโพสต์ : ราชบพิธ * เปิดโผ 10 ธุรกิจดาวเด่น "การแพทย์-ความงาม"  รั้งแชมป์ 3 ปีซ้อน ตามด้วยเครื่องสำอาง เทคโนโลยีสื่อสาร ขณะที่ดอกไม้ประดิษฐ์ไร้อนาคต

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้ อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐ กิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการ ค้าไทย เปิดเผยว่า  10 อันดับธุรกิจ ดาวเด่น-ร่วงในปี 2558 ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ยังคงมีความโดดเด่นเป็นอันดับหนึ่ง  และเป็นธุรกิจที่ครองแชมป์มานานติดต่อกัน 3 ปี รองลงมา คือ ธุรกิจเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ซึ่งทั้งสองธุรกิจมีความโดดเด่นทั้งยอดขายและกำไร เนื่องจากพฤติกรรมในการดูแลเรื่องผิวพรรณมีมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจเทค โนโลยีสื่อสารอยู่อันดับ 3 เพราะมีความต้องการใช้มากขึ้น อีกทั้งการเข้าสู่ยุค 4 จี ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่มีการแข่งขันด้านราคาสูง

   อันดับ 4 ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจท่องเที่ยว อันดับ 5 ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต อันดับ 6 ธุรกิจเครื่องดื่ม อันดับ 7 ธุรกิจถุงมือยาง ถุงมือตรวจโรค และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อันดับ 8 ธุรกิจสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ อันดับ 9 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (แนวดิ่ง) และธุรกิจร้านกาแฟ และอันดับ 10 ธุรกิจประมงน้ำจืดและธุรกิจจำหน่ายบิ๊กไบค์

    สำหรับ ธุรกิจดาวร่วงปีหน้า อันดับหนึ่ง คือ ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ รองลงมา คือ ธุรกิจหัตถกรรมทั่วไป ผัก-ผลไม้อบแห้ง สิ่งทอผ้าผืน (งานไม่เน้นฝีมือ) ร้านค้าดั้งเดิม (โชว์ห่วย) ยางพารา โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา (จอตู้) ข้าว ส้วมนั่งยอง และรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) โดยมอเตอร์ไซค์จะเห็นธุรกิจที่เห็นชัดถึงการเปลี่ยนของสังคมเมือง เพราะผู้บริโภคก็จะหันไปซื้อรถยนต์นั่ง (รถเก๋งขนาดเล็ก) หรือไม่ก็บิ๊ก ไบค์แทนมากขึ้น.