WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ม.หอการค้าไทย เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน มิ.ย.ฟื้นต่อเนื่อง หลัง คสช. คุมอำนาจการปกครอง เชื่อ ศก.ไทยฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้

   ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน มิ.ย.ฟื้นตัว ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 8 เดือน หลังผู้บริโภคมั่นใจสถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพ หลัง คสช. คุมอำนาจการปกครอง มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้นี้

   นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 75.1 จาก 70.7 ในเดือน พ.ค. โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความมั่นใจในสถานการณ์การเมืองว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ส่งผลให้ผู้บริโภคเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ในอนาคตอันใกล้ และการที่ชาวนาได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

     ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. ยังมีสาเหตุมาจาการที่ คสช.ให้ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) รวมถึงการขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ามีการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวกลับมาก็ตาม

     ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังรายงานดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ในดือน มิ.ย.ว่า อยู่ที่ระดับ 69.1 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จาก 59.6  ในเดือนพ.ค. และเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 13 เดือน ส่วนดัชนีความคาดหวังต่อสถานการณ์การเมืองใน 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นมาที่ 81.1 ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีที่สุดในรอบ 26 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ค.55 

    พร้อมกันนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังคาดว่า การบริโภคของประชาชนจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี โดยมีปัจจัยหนุนจาก การใช้จ่ายในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น จากการที่ชาวนา ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในครึ่งหลังปีนี้ และ จะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ขยายตัวได้ในระดับ 2-3% และคาดว่า ในปีหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะอยู่ใกล้เคียงระดับ 100 ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติของการสำรวจ หากไม่มีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง

   โดยความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 58 เติบโตได้ในระดับ 5% 

   ทั้งนี้ ได้ให้ข้อสังเกตว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่ฟื้นตัวในเดือนล่าสุด ยังกระจุกตัวอยู่ในสังคมเมือง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งภาคกลางและภาคตะวันออก เป็นหลัก แต่กำลังซื้อของประชาชนในต่างจังหวัด และในชนบท พบว่าค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้มีเม็ดเงินหมุนเวียนมากนัก ซึ่งส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะชาวนานำเงินที่ได้จากการจำนำข้าว ไปชำระหนี้ และการที่คสช.เข้มงวดเรื่องการพนันฟุตบอล ทำให้เงินหมุนเวียน ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่มากนัก 

    รวมทั้งเป็นผลมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะ ข้าวและยางพารา ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดยังไม่ดีขึ้นเหมือนในกรุงเทพฯ และขาดการ หมุนเวียนต่อเนื่อง ดังนั้น สิ่งที่ผู้บริหารประเทศควรเร่งดำเนินการ คือ เร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณนี้(ก.ค.-ก.ย.57) ให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในต่างจังหวัด และเร่งรัดให้เกิดการจ้างงานในต่างจังหวัด โดยการเน้นไปที่ โครงการก่อสร้างของภาครัฐ เพื่อให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!