WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CBธนวรรธน พลวชย copy copyม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคธ.ค.59 อยู่ที่ 73.7 เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 3 เดือน พร้อมคาดจีดีพีปี 60 โต 3.5-4%

     ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 3 เดือนมาอยู่ที่ 73.7 จาก 72.3 ในเดือนพ.ย. รับมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายของรัฐ ช่วงสิ้นปี พร้อมคาดจีดีพีปี 60 โต 3.5-4% จากการลงทุนภาครัฐ-เอกชน มอง ศก.เริ่มขยายตัวแบบโดดเด่นตั้งแต่ Q2/60 เป็นต้นไป

  นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิยาลัยหอการค้าไทย เผยในงานแถลงข่าว 'ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค' เดือนธ.ค.59 ว่า ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 73.7 จากเดือนพ.ย.ที่ 72.3 นับเป็นการปรับตัวดีขึ้นในรอบ 3 เดือนในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 62.5 จากเดือนพ.ย.ที่ 61.2

  โดยปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงปลายปี และจากการส่งออกของไทยในเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้นกว่า 10.19% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายในการดูแลของภาครัฐและจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% และคง GDP ปี 60 ไว้ที่ 3.2% ดัชนี SET Index ที่ปรับตัวขึ้นในเดือน ธ.ค.รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนลงเล็กน้อย

  สำหรับ ปัจจัยลบมาจากระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวขึ้น ราคาพืชผลหลายชนิดยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ, ผู้บริโภคยังวิตกกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่สูง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลลบต่อการส่งออกไทย

   ทั้งนี้ ได้คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 60 จะขยายตัวอยู่ที่ราว 3.5 -4% หรือเฉลี่ยที่ 3.6% ได้หากภาครัฐสามารถเบิกจ่ายงบกลางปีราว 2 แสนล้านบาทได้ในช่วงมี.ค. -เม.ย.60 และงบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 9 แสนล้านได้ในช่วงก.ค. 60 ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมได้

   โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 1/60  และขยายตัวราว 3.2-3.3% จากการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว และการท่องเที่ยวที่เริ่มคึกคักขึ้นจากนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และสถานการณ์ทัวร์ศูนย์เหรียญที่เริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรและค่าแรงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศและเป็นแรงขับเคลื่อนไปยังไตรมาส 2/60 ให้ขยายตัวอย่างโดดเด่นทีราว 3.3-3.7% ด้วย

     "เราเริ่มเห็นผู้ส่งออกของไทยฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากปริมาณตู้ในการส่งออกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน่าจะทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางกลับมาด้วย"นายธนวรรธน์ กล่าว

    นอกจากนี้ คาดว่าหากภาครัฐสามารถเบิกจ่ายงบกลางปีได้ตามเป้าหมาย ราคาสินค้าเกษตรและค่าแรงขั้นต่ำสูงขึ้น จะทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานขยับอยู่ที่ราว 1-1.5% และเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ราว 1.5-2% ซึ่งจะทำให้เอกชนมองว่าราคาสินค้าเริ่มสูงขึ้น และกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกลางไตรมาส 3/60 กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้

   ทั้งนี้ มองว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปี 60 ยังมาจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และการเจรจาของ Brexit ว่ากระทบต่อการค้าโลกหรือไม่ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐว่าจะสามารถผลักดันงบกลางปีออกมาได้ตามเป้าหมายหรือไม่

  "เศรษฐกิจปีหน้าจะไม่มีปัญหาเพราะการส่งออกเริ่มกลับมาฟื้น แต่ต้องจับตาดูนโยบายของทรัมป์ และการเจรจาเบร็กซิทด้วยว่าผลจะออกมาช็อคโลกหรือไม่ นอกจากนี้การเบิกจ่ายงบกลางปีถ้าไม่ออกมาในช่วงมี.ค.-เม.ย. ก็จะทำให้เกิดสุญญากาศ"นายธนวรรธน์ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!