WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CBธนวรรธน พลวชย copy copyม.หอการค้าไทย คาดศก.ไทยปี 61 โต 4.2% จากปีนี้คาดโต 3.9% หวัง ศก.ก่อนเลือกตั้งคึก-ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการหนุน

      ม.หอการค้าไทย คาดเศรษฐกิจไทยปี 61 เติบโต 4.2% รับการฟื้นตัวต่อเนื่อง มองปี 64 แตะ 5.1% ส่วน SME index ไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 41.1 ลดลงจากไตรมาส 2/60 ที่อยู่ 41.3 เหตุยอดขายฟื้นแต่ผลการดำเนินงานยังทรงตัว ยอมรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยังกังวลเศรษฐกิจโลกช่วงไตรมาส 4/60 หวั่นกระทบส่งออก-ท่องเที่ยว

        นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในงานแถลงข่าว ‘ประเมินสถานการณ์ SME ไทยปี 60 และ ปี 61’ ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังขยายตัวได้ 3.9% ในขณะที่ปี 61 จะขยายตัว 4.2% ส่วนปี 64 จะขยาตัวได้ถึง 5.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากกว่า 4% ในรอบ 4 ปี โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นหลัก

      โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะคึกคักในช่วงก่อนการเลือกตั้ง การจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรสวัสดิการคนจนที่คาดจะมีเม็ดเงินใช้จ่าย 5 หมื่นล้านบาทต่อปี หากรวมแล้วเม็ดเงินลงทุนปี 61 จะสูงถึง 2-3 แสนล้านบาท เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยได้ในปีหน้า และ ปีถัดไป โดยคาดว่าภาครัฐจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่ไตรมาส 1/61 จะช่วยให้ภาคเอกชนลงทุนตามในไตรมาส 2/61 ก่อนที่ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีจะลงทุนตามภาครัฐมากขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/61 จนเด่นชัดที่สุดในปี 62

        “หากทุกอย่างเดินไปตามโรดแม็ปที่รัฐบาลวางไว้จะส่งผลให้มีเงินสะพัด และ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจนมีผลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นอีก 0.5-1% ซึ่งส่งผลดีไปยังเอสเอ็มอีด้วย โดยจะมีผลต่อจีดีพีเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 0.7-1.2% ซึ่งปกติภาวะเศรษฐกิจของเอสเอ็มอีจะล้อไปตามจีดีพีประเทศ โดยหากปีนี้จีดีพีไทยขยายตัวได้ 3.9% จีดีพีของเอสเอ็มอีก็จะขยายตัวได้ 4.5% และ จีดีพีไทยปีหน้าขยายตัวได้ 4.2% จีดีพีเอสเอ็มอีก็จะขยายตัวได้ 4.4%”นายธนวรรธน์ กล่าว

        ขณะที่ส่งออกในปีนี้ยังคงประมาณการขยายตัวที่ 7.5% แม้กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขส่งออก 9 เดือน ขยายตัวแล้ว 9.3% ก็ตาม เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้การส่งออกฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับ ระดับราคาสินค้าเกษตร และกำลังซื้อของเกษตรกรปรับตัวดีขึ้น แต่ยังพบว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น นโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มระดับความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลก ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.6% โดยมีความเชื่อมั่นอยู่ในช่วง 0.5-0.7%

                สำหรับ สถานการณ์ของธุรกิจเอสเอ็มอีไทย หรือ SME index ในไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 41.1 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 ที่อยู่ 41.3 เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ด้านยอดขายเริ่มฟื้นตัว และ ผลการดำเนินงานอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าในไตรมาส 4/60 สถานการณ์จะดีขึ้น โดยดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 41.2 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลต่อการส่งออก และ การท่องเที่ยว และ รองลงมา คือ ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงทางธุรกิจทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ และกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังคงซบเซา

        ส่วนดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 50.3 ลดลงจากไตรมาส 2/60 ที่อยู่ 50.5 เนื่องจากธุรกิจยังเห็นว่าต้นทุนในการประกอบการยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง และ ยอดขายที่ยังเพิ่มไม่สูงทำให้กำไรของธุรกิจยังคงทรงตัว อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเอสเอ็มอีคาดว่าความสามารถในการทำธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/60 โดยดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 50.4

        ทางด้านดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 51.7 ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/60 ที่อยู่ 51.8 ซึ่งอยู่ระดับที่สูงเกินกว่าปกติที่ระดับ 50 โดยแสดงว่าเอสเอ็มอีเห็นว่าธุรกิจปรับตัวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเมื่อนำดัชนีทุกตัวมาคำนวณเป็นดัชนีวัดความสามารถในการแข่งขันไตรมาส 3/60 อยู่ที่ระดับ 47.7 ลดลงจากไตรมาส 2/60 ที่อยู่ 47.9 ซึ่งดัชนีนี้ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ สำหรับไตรมาส 4/60 จะปรับตัวดีขึ้นเป็น 47.8 โดยเอสเอ็มอีต้องมีการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มเติมในอนาคต

        “การขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจเอสเอ็มอีไทยปีนี้จะอยู่ที่ 4.5% ส่วนปี 61 จะอยู่ที่ 4.4% และ ปี 64 จะสูงถึง 5.4% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเอสเอ็มอีไทยจะมีภาวะธุรกิจที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต”นายธนวรรธน์ กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!