WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเม.ย.ที่ 84 จาก 84.7 ในมี.ค.57

    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนเม.ย.57 อยู่ที่ระดับ 84.0 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 84.7 ในเดือนมี.ค.57

   ทั้งนี้ ค่าดัชนีฯ ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 58 เดือน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 โดยค่าดัชนีฯ ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม, ยอดขายโดยรวม, ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ

   สำหรับ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเดือนเม.ย. ได้แก่ ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศจากการที่ไม่มีมีรัฐบาลที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการแก้ปัญหาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยผู้ประกอบการต้องการเรียกร้องให้ยุติปัญหาการเมืองในประเทศโดยเร็ว เพื่อให้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุน

     นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างวัตถุดิบและพลังงาน รวมทั้งการขาดสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจากความกังวลดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ จะเห็นได้จากค่าดัชนียอดคำสั่งซื้อ และยอดขายในประเทศที่ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันในเดือนเม.ย.มีวันทำงานน้อยกว่าเดือนอื่นๆ จากเทศกาลสงกรานต์ จึงทำให้การใช้กำลังการผลิตลดลงด้วย

      สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 98.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 99.1 ในเดือนมี.ค.โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม, ยอดขายโดยรวม, ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ

     ประธาน ส.อ.ท.ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนเม.ย.นี้ คือ ต้องการให้เร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้ยุติโดยเร็วโดย ขอให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากัน และต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่อง โดยต้องการให้สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเร่งหามาตรการกระตุ้นการส่งออก และต้องมีนโยบายสนับสนุนการค้าชายแดนให้สะดวกคล่องตัวมากขึ้น

     อินโฟเควสท์

ส.อ.ท. หวังที่ประชุมหาทางออกประเทศวันนี้มีข้อสรุปโดยเร็ว หากช้า GDP อาจโตไม่ถึง 1%

  นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) มองว่าการประกาศกฎอัยการศึกเป็นแค่ยาชา เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม และมองว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ผอ.รส.) เชิญคู่ขัดแย้ง 7 ฝ่ายมาหารือหาทางออกประเทศ ซึ่งหวังว่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้

   โดยเห็นว่าควรจะมี time frame ที่ชัดเจนว่าจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือจะเลือกตั้งก่อนปฏิรูป เพราะตอนนี้ทุกอย่างติดขัดไปหมดหลังจากไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหา ส่งผลให้การอนุมัติงบประมาณต่างๆ สะดุดลง

  "ถ้าไม่จบปัญหา อาจจะมีอีกหลายประเด็นตามมาและลากยาวต่อไปอีก GDP อาจจะต่ำกว่า 1% หรืออาจจะติดลบ ส่วนเป้าส่งออก 4-5% มองว่ายังมีความเป็นไปได้หากการผลิตการส่งออกยังทำได้และไม่มีอะไรออกตามมานอกเหนือจากกฎอัยการศึก"นายสุพันธุ์ กล่าว

    พร้อมกับมองว่า กฎอัยการศึกไม่ควรจะประกาศใช้เป็นเวลานาน ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายต่าง wait and see ประเทศไทยอยู่

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!