Details

Category: สภาหอการค้าไทย

Published: Tuesday, 13 May 2014 22:06

Hits: 6376

'วิกรม'แนะไทยเร่งดึงเงินลงทุนจีน

      แนวหน้า : นายวิกรม กรมดิษฐ์ รองประธานสภาธุรกิจไทย-จีน และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า  นโยบายเศรษฐกิจล่าสุดของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เป็นนโยบายใหม่ที่ผลักดันให้นักลงทุนจีนไปขยายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น และจีนยังให้ความสำคัญกับกับอาเซียนมาก เนื่องจากเห็นว่าอาเซียนเป็นภูมิภาคที่อยู่ติดกับจีน และเป็นภูมิภาคที่มีพื้นฐานดี ซึ่งจีนต้องการลงมาตอนใต้ของประเทศ เพื่อเปิดประตูสู่โลก โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าและการลงทุน ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การค้าของจีนกับยุโรปและสหรัฐอเมริกาลดลงมาก ในขณะที่การค้าของจีนกับอาเซียนเพิ่มขึ้นกว่า 10%

     “จีนมองเมียนมาร์ไว้เป็นท่าเรือส่งสินค้าไปยังประเทศตะวันตก อินเดีย ซึ่งจีนมองการลงมาทางใต้จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มาก แต่ทางสภาธุรกิจฯก็มองว่าไทยเองก็มีทำเลที่ตั้งที่ดี เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของจีน จึงเห็นว่าเป็นโอกาสสำคัญของไทย แต่อย่างไรก็ตามไทยก็เป็นเพียงจุดเล็กๆของอาเซียน นักธุรกิจไทยจึงต้องหาโอกาสดึงดูดนักลงทุนจากจีนให้ได้”นายวิกรม กล่าว

    ทั้งนี้ ในปี 2556 จีนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 7.6% มากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ 2.5% ในขณะที่มูลค่าการค้ากับโลกของจีนมีมูลค่า 4.16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่า สหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าการค้า 3.91 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จึงแสดงให้เห็นว่าจีนเป็นประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่ และมีกำลังซื้อมาก อีกทั้งจีนยังเป็นประเทศที่เงินทุนสำรองมากที่สุดในโลกถึง 3.9 ล้านล้านเหรียญฯด้วย ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของไทยที่จะดึงเม็ดเงินจากการลงทุนของจีนเข้ามาในประเทศ

     นอกจากนี้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดว่านักธุรกิจจีนพร้อมนำเม็ดเงินมหาศาล จะทยอยออกมาลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาเซียนจะเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุนจีน ดังนั้นนักธุรกิจไทยควรหาวิธีดึงดูดนักลงทุนจีนให้นำเม็ดเงินมาลงทุนในไทยให้ได้ เพราะหากไม่สามารถทำได้ ไทยจะสูญเสียโอกาสในการดึงเม็ดเงินเข้ามา โดยในปี 2563 จีนคาดว่าจะมีเม็ดเงินมาลงทุนในเซียนกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปัจจุบันที่จีนมีการลงทุนในอาเซียน 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี