WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8799 ข่าวสดรายวัน


บช.ก.เด้งอีก 3 ตร.
เซ่นเก็บส่วยผับ ส่งอัยการแล้ว 7 สำนวนบิ๊กกิ๊ก
      บช.ก.เด้งอีก 3 ตร. ระดับผกก.-สว. สังกัดบก.ปคม. เหตุรีดไถ-เก็บส่วยสถานบันเทิงหลายจังหวัด ขณะที่ความคืบหน้าคดีบิ๊กกิ๊ก ตร.สรุปสำนวน 7 คดี ส่งให้อัยการพิจารณาแล้ว ทั้งคดีซื้อขายตำแหน่งตร. คดีเปิดบ่อน คดีทุจริตน้ำมันเถื่อน คดีรับทวงหนี้-บังคับลดหนี้ คดีแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อขอเวลาเรียนที่นิด้า คดีประมูลเครื่องเสวย

      เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าสำนวนคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. พร้อมเครือข่ายว่า ขณะนี้ได้รับรายงานแล้วว่าพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องแล้วทั้งหมด 7 สำนวน โดยมี 5 สำนวนที่ส่งให้พนักงานอัยการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ คดีการซื้อขายตำแหน่ง คดีแอบอ้างเบื้องสูงเปิดบ่อนการพนันภายในสถานบริการย่านรัชดาฯ คดีหมิ่นเบื้องสูง ทุจริตน้ำมันเถื่อน สำนวนคดีบังคับให้ผู้เสียหายลดหนี้จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท ของสน.วัดพระยาไกร สำนวนคดีแอบอ้างเบื้องสูง ในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ ได้ประมูลขายน้ำพริกประเภทต่างๆ โดยนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงได้ประมูลเครื่องเสวย ในนามคณะบุคคล ปณสุ ขายผักสดและผักต้ม สน.สามเสน
      พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ส่วนอีก 2 สำนวนส่งให้พนักงานอัยการแล้ววันนี้ สาเหตุเพราะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงนำตัวผู้ต้องหาฝากขังก่อน จึงค่อยนำสำนวนส่งพนักงานอัยการอีกครั้ง ทำให้นำสำนวนดังกล่าวส่งไปในวันนี้ ได้แก่ สำนวนคดีกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท ของสน.พระโขนง และคดีแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อให้เข้าสอบที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ของสน.ลาดพร้าว ส่วนสำนวนคดีทุจริตการพนันฟุตบอลออนไลน์อาบูบาก้า สน.พหลโยธิน เรียกรับสินบนนั้น อาจขออนุมัติหมายจับ เพิ่มเติม 
       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และรรท.ผบช.ก. มีคำสั่งที่ 0026 (ก1)/9633 เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยระบุว่า ด้วยบช.ก. เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ รักษาความสงบเรียบร้อย ให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญและประชาชน ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และการกระทำความผิดที่เป็นภัยกับความมั่นคงของประเทศ ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
       เพื่อให้การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ บช.ก. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 73 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 13 (1) แห่งพ.ร.ฎ.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2537 ประกอบกับข้อ 5 และ 11 (4) แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการของผู้บัญชาการในฐานะเป็นอธิบดี หรือแทน ผบ.ตร. พ.ศ.2551 และระเบียบตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในตร. พ.ศ.2552 จึงให้ข้าราชการตำรวจ ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. 2.พ.ต.ท.กัมปนาท ณ วิชัย รอง ผกก.3 บก.ปอศ. 3.พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ร่มจำปา ส.ว.กก.3 บก.ปอศ. ปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ก. มีกำหนด 30 วัน ทั้งนี้ นับตั้งแต่บัดนี้ และแจ้งข้าราชการตำรวจที่มีรายชื่อไปรายงานตัวต่อผบก.อก.บช.ก. ในวันที่ 30 ธ.ค.57 เวลา 16.30 น.ดังกล่าว 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโยกย้ายนายตำรวจทั้ง 3 นาย เนื่องจากเรียกรับส่วยจากสถานบันเทิงและสถานบริการในหลายจังหวัด จึงมีคำสั่งให้นายตำรวจทั้ง 3 นายย้ายมาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ก.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!