WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8834 ข่าวสดรายวัน


ตร.ล่าตัว ปลอมแถลงการณ์วัง '
สำนักพระราชวัง'จี้เอง บิ๊กตู่ด่าคนทำ-จิตใจแย่ โฆษกตำรวจแฉต้นตอ แพร่จากต่างประเทศ!
      รัฐบาลสั่งล่ามือปลอมแถลงการณ์สำนักพระ ราชวัง ฉบับที่ 13 ระบุเป็น การกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่งคนไทยรับไม่ได้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสำนักพระราชวังประสานงานขอให้ตามล่าต้นตอ ชี้มาจากต่างประเทศ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่ากลุ่มใด ด้านบิ๊กตู่ลั่นต้องหาตัวมาลงโทษให้ได้ แม้จะต้องใช้เวลา เพราะมาจากช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย ขณะที่บิ๊กป้อมระบุต้องฟ้องให้ศาลลงโทษสถานหนัก 

      เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามขบวนการปล่อยเอกสารปลอมแถลงการณ์สำนักพระราชวังว่า ต้องหาผู้ทำเอกสารปลอมดังกล่าว การปลอมแปลงเอกสารมาทาง โซเชี่ยลมีเดียต้องใช้เวลาในการติดตาม แต่คิดว่าผู้ที่ปล่อยบ่อยครั้งมีจิตใจที่แย่ ใช้ไม่ได้ และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปเชื่ออะไรที่ผลีผลาม เมื่อคืน พอตนทราบก็ได้สั่งการ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้รับการยืนยัน ก็ให้รีบแถลง เพราะเดี๋ยวจะเป็นปัญหา
       ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ต้องถามคนทำว่ามีเจตนาทำเพื่ออะไร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามป้องกันการเผยแพร่สิ่งที่ไม่ถูกต้องว่าจะทำอย่างไรให้สามารถป้องกันคนที่ไม่ดีและคนที่จ้องกระทำผิด โดยจะนำบทลงโทษมาบังคับใช้อย่างจริงจัง เพราะไม่มีใครอยากให้มีคนทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น สิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็อยากจับกุมทั้งนั้น
       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.ว่า เราพยายามดูทุกอย่างให้ครอบ คลุมอยู่แล้วเพื่อแก้ปัญหา แต่ขออย่าเพิ่งนำเรื่องต่างๆ ไปผูกรวมกัน เพราะอาจคิดมากไปกันใหญ่ เราต้องสืบหาต้นตอของสิ่งต่างๆ ที่ไม่ดี ขณะเดียวกันก็ไม่ควรนำไปขยายความ ทั้งนี้ นายกฯ สั่งการให้ทุกฝ่ายต้องไปสอบสวนหาต้นตอของการปล่อยเอกสารปลอมดังกล่าว
       ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเอกสารแถลงการณ์ฉบับที่ 13 ที่มีการเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์ เป็นเอกสารปลอม ที่มี ผู้กระทำขึ้น ด้วยความไม่บังควร ทำให้ประชา ชนเกิดความตื่นตระหนก และเกิดความเสื่อมเสีย ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตรวจหาที่มา คาดว่าน่าจะมีต้นทางมาจากต่างประเทศ ส่วนจะเป็นการกระทำจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่เบื้องต้นไม่พบว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มบรรพต ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งจับกุมเครือข่ายได้ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักพระราชวังได้ประสานมายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ตำรวจเร่งดำเนินการกับผู้ที่เผยแพร่เอกสารดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
       พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จที่ทำขึ้นจากผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลได้มอบให้ฝ่ายความมั่นคงรับผิดชอบติดตามผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นมาดำเนินคดีโดยด่วนแล้ว และในส่วนของสื่อมวลชนบางส่วนที่นำมาเผยแพร่โดยปราศจากการตรวจสอบที่ถี่ถ้วนก่อน ก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะหลายเรื่องละเอียดอ่อน สร้างผลกระทบอย่างมากในหลายมิติ โดยเฉพาะจิตใจของพี่น้องประชาชน รัฐบาลเข้าใจว่าสื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่ความชัดเจนความถูกต้องของข้อมูลก็เป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานที่ทุกสื่อพึงรักษาไว้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอขอบคุณ ทุกฝ่ายที่ช่วยกันสยบข่าวบิดเบือนและสร้างความกระจ่างได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ขอว่า ไม่ควรจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายนิรันดร์ เยาวภาว์ อายุ 50 ปี ผู้ดูแลเว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการ เดินทางเข้าพบร.ต.ท.อภิชาติ กอนจันดา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กรณีมีผู้นำแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับปลอมแปลงมาเผยแพร่ และทางเว็บไซต์ผู้จัดการได้นำมาเสนอข่าวต่อจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ จนล่าสุดทางเว็บไซต์ได้มีการลบข่าวแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวและออกมาขอโทษแล้วนั้น
        เบื้องต้นนายนิรันดร์ให้การว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ตนเข้าเวรดูแลเว็บไซต์และได้รับข่าวแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังฉบับที่ 13 พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวเสด็จประทับ ณ ร.พ.ศิริราช จากไลน์ของกลุ่มผู้สื่อข่าว จึงได้นำมาลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์ จากนั้นพบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีพิรุธใช้คำไม่ถูกต้อง จึงติดต่อไปยังสำนักพระราชวังตรวจสอบและได้รับแจ้งกลับมาว่าแถลงการณ์เป็นของปลอม จึงได้ลบข่าวออกจากเว็บไซต์ และขออภัยที่ได้ลงข่าวไป ไม่มีเจตนาดำเนินการอันเป็นเท็จให้เกิดความเสื่อมเสีย จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐาน และแสดงความบริสุทธิ์ใจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวัน จากนั้นประสานไปยังกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อสืบสวนหาตัวผู้ทำปลอมแถลงการณ์ดังกล่าวมาดำเนินคดี
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข่าวดังกล่าวในเว็บ ไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ ผู้บริหารได้ลงโทษนายนิรันดร์โดยการปลดออกจากตำแหน่งผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมหักลดเงินเดือนร้อยละ 50 ในฐานะเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความผิดพลาด ดังกล่าว นอกจากการแสดงความรับผิดชอบภายในองค์กรแล้วจะมีมาตรการตามความเหมาะสมอีกด้วย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!