WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8837 ข่าวสดรายวัน


นปช.ขอผบ.ตร. จับเท่าเทียม 
เอาผิดแล้ว ASTV แถลงการณ์เก๊!


ขอเท่าเทียม- นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช. ยื่นหนังสือต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมอย่างเท่าเทียมกัน ล่าสุดตำรวจออกหมายจับเว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการ เมื่อวันที่ 6 ก.พ.

       โฆษกนปช.ยื่นผบ.ตร. จี้เอาผิดคนเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มนปช. เหมือนที่ทำกับนักดนตรีหนุ่มเพชรบูรณ์ที่โพสต์ต่อแต่ไม่ใช่คนทำปลอม โฆษกคสช.ยันแม้จะคุมตัวในค่ายทหารด้วยกฎอัยการศึก แต่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนทุกอย่าง ส่วนที่ไม่ให้ทนาย เข้าพบเพราะอยู่ในขั้นตอนสอบสวนซักถาม ยังไม่ได้ตั้งข้อหาจึงยังไม่ต้องมีทนาย ในที่สุดตำรวจก็ขอหมายจับเว็บไซต์ข่าว ASTV หนึ่งในตัวการเผยแพร่
      เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนปช. เข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เพื่อขอความ เป็นธรรมให้กับนายกฤษณ์ บุตรดีจีน และ ให้ดำเนินคดีเอาผิดกับผู้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมอย่างเท่าเทียม เนื่องจากเห็นว่าการเอาผิดและดำเนินคดีกับนายกฤษณ์ บุตรดีจีน นักดนตรีชาวเพชรบูรณ์ แนวร่วมนปช. ซึ่งเป็นเพียงผู้โพสต์เผยแพร่ต่อไม่ใช่ผู้ทำแถลงการณ์ปลอมแต่อย่างใด ทางนปช.เห็นว่าเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม หลายประการ เพราะเป็นการกระทำส่วนบุคคลไม่อาจหมายรวมถึงทั้งกลุ่มนปช.ได้ ประกอบกับนายกฤษณ์ไม่ทราบว่าแถลงการณ์ ดังกล่าวเป็นของปลอม การกระทำของนาย กฤษณ์จึงไม่น่าจะมีความผิด ตามกฎหมายมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่มีเจตนา พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่อย่างเท่าเทียม เนื่องจากมีผู้เผยแพร่แถลงการณ์ ดังกล่าวเช่นเดียวกับนายกฤษณ์อีกจำนวนมาก เพื่อไม่ให้สังคมมองว่าตำรวจเลือกดำเนินคดีเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มนปช. ดังนั้นจึงขอให้ดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกัน
       นายวิญญัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ไม่สามารถเข้าเยี่ยมนายกฤษณ์ที่ถูกควบคุมตัวในร.11 รอ.ได้ เนื่องจากทหารระบุว่าเป็นการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก หลังจาก ควบคุมตัวครบ 7 วันแล้ว จะยื่นฟ้องต่อศาลซึ่งตนจะทำหน้าที่ทนายความต่อสู้คดีให้อย่างเต็มที่
       วันเดียวกันพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีจับกุมนายกฤษณ์ บุตร ดีจีน ว่าคดีนี้ตำรวจกองปราบปรามร่วมกับตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) กำลังตรวจสอบว่านอกจากนายกฤษณ์จะเป็นผู้เผยแพร่ส่งต่อแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตแถลงการณ์ปลอมด้วยหรือไม่ รวมทั้งมีผู้ใดร่วมกระทำความผิด ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีข้อมูลบุคคลต้องสงสัยแล้ว แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรัดดำเนินการ
       ด้านพล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท.เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของคดี จากการสอบปากคำนายกฤษณ์ยืนยันว่าได้รับแถลงการณ์ดังกล่าวมาจากเพื่อนอีกทอดหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลด้านคอมพิวเตอร์ย้อนกลับไป และพอจะทราบตัวแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ มั่นใจว่าจะสามารถขยายผลทางคดีและติดตามตัว ผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้
        ขณะที่พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทับบก ในฐานะโฆษกคสช. กล่าวถึงกรณีทหารควบคุมตัวนายกฤษณ์ไว้ที่ร.11 รอ. ว่าขณะนี้ขบวนการอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและซักถาม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเจตนาของการกระทำ รวมถึงมีผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เข้าใจว่ายังไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการถูกตั้งข้อกล่าวหา จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทนายมาช่วยแก้ต่างในช่วงนี้
       โฆษกคสช.กล่าวต่อว่า การปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวนั้น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. ประสาน สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วน ยืนยันว่าเป็นไปตามแนวทางที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเคยปฏิบัติเหมือนปกติที่ผ่านมา ตามนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ซึ่งทุกคนที่เข้าสู่กระบวนการนี้จะได้รับความเป็นธรรม และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ถึงแม้จะอยู่ ในกรอบของกฎอัยการศึกก็ตาม การดำเนินการทุกอย่างของจ้าหน้าที่ยังคงยึดหลักสิทธิมนุษยชน
       "คดีนี้เป็นคดีละเอียดอ่อนมีผลกระทบต่อจิตใจคนไทยจำนวนมาก จึงมีคนส่วนใหญ่ติดตามให้ความสำคัญ ยิ่งมีหลายคนรู้สึกว่าเรื่องลักษณะนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาได้ถูกคนไม่ดีบางคนพยายามละเมิดสิทธิทางความรักความรู้สึก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง และสืบค้นเพื่อให้ได้ตัวผู้ที่จงใจทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายให้ได้ โดยเร็ว" โฆษกคสช.กล่าว 
       โฆษกคสช.กล่าวอีกว่า ขอเรียนว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่มิได้มีการกระทำใดที่ไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน อยากให้ผู้ที่พยายามเชื่อมโยงไปในประเด็นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ตระหนักถึงเนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวที่ดูค่อนข้างผิดปกติ โดยเฉพาะด้วยสามัญสำนึกคนไทยโดยทั่วไปเชื่อว่าไม่น่าที่จะตัดสินใจนำไปเผยแพร่ต่อ เพราะเป็นสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกและจิตใจคนไทย ขณะเดียวกันขอให้สังคมได้ให้เวลากับเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานและซักถามให้ครบทุกด้าน เพื่อนำไปสู่การหาตัวผู้กระทำผิด ทั้งในเรื่องการผลิตเอกสารปลอม การเผยแพร่และนำเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
      ส่วนพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาค ที่ 1 ในฐานะผบ.กกล.รส. ให้สัมภาษณ์ว่า การสอบสวนขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสอบสวน ส่วนทหารจะเข้าไปร่วมดำเนินการด้วยภายใต้กฎอัยการศึก สำหรับสถานการณ์ช่วงนี้ที่แกนนำกลุ่มนปช.ออกมาเคลื่อนไหวบ่อยขึ้นนั้น ตนไม่อยากพูดถึงมากนัก เพราะพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและหัวหน้าคสช. เน้นย้ำไว้ชัดเจนไม่อยากให้ขยายปมขัดแย้ง ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย ใครทำผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย ประกอบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยืนยันต้องยึดกรอบกฎหมายเป็นหลัก ไม่มีอะไรนอกกฎหมาย อันไหนที่นอกกฎหมายพวกเราจะไม่ทำ
       ผู้สื่อข่าวถามว่าทหารจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า "ก็จำเป็นต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าได้อย่างไร ถ้าทุกคนไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพ และไม่ให้เกียรติกัน ประเทศก็เดินหน้าไม่ได้ ซึ่งเราก็มีเวทีให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแสดงความคิดเห็น จะปฏิรูปมีทั้งเวทีของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และเวทีในระดับล่างๆ จำนวนมาก ดังนั้นการแสดงความคิดเห็นควรไปตามกรอบนั้น"
      วันเดียวกัน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. ทวีตข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ @Dr_Prawut ว่าพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับ ผู้ดูแลระบบและเป็นผู้แชร์ภาพแถลงการณ์เท็จลงในเว็บไซต์ ASTV โดยเจ้าหน้าที่ได้เสนอศาลทหาร ออกหมายจับนายนิรันดร์ เยาวภาว์ ผู้ดูแลระบบเว็บไซต์ ผู้จัดการออนไลน์2 ข้อหาคือ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งนายนิรันดร์ถูกเจ้าหน้าที่เชิญไปสอบปากคำและได้รับสารภาพว่าเป็นผู้เอาแถลงการณ์ปลอมขึ้นเว็บจริง
อนหน้านี้นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการ เข้าพบร.ต.ท. อภิชาติ กอนจันดา พงส.สน.ชนะสงคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีที่เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เว็บไซต์ www.manager.co.th ได้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักงานพระราชวัง ฉบับที่ 13 ซึ่งเป็นเอกสารแถลงการณ์ที่มีผู้ไม่หวังดีนำมาเผยแพร่ในโลกโซเซียลมีเดีย จนภายหลังทราบว่าเป็นเอกสารที่มีข้อมูลไม่เป็นจริง ทางผู้ดูแลเว็บไซต์จึงได้ลบข้อมูลดังกล่าว และขึ้นประกาศขออภัยในความผิดพลาดในเวลาต่อมา และต่อมาทางผู้บริหารของ ASTV ผู้จัดการ ได้มีคำสั่งปลดนายนิรันดร์ออกจากตำแหน่งผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมกับหักเงินเดือนร้อยละ 50 ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความผิดดังกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!