Details

Category: กรมตำรวจ

Published: Tuesday, 07 April 2015 11:22

Hits: 5549

วันที่ 07 เมษายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8896 ข่าวสดรายวัน

ฝากบ้านกับตร.ไฮเทค ใช้บาร์โค้ด เริ่มแล้วรับสงกรานต์ สมยศ-พงศพัศจัดให้

ไม่หวั่น - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ประชุมมอบนโยบายฝากบ้านไว้กับตำรวจ โดยไม่สนใจกระแสข่าวอาจถูกปลดจากตำแหน่ง พร้อมยืนยันการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาทำตามมติก.ตร.ทุกประการ ที่สน.ท่าข้าม เมื่อวันที่ 6 เม.ย.

      'สมยศ-พงศพัศ'ร่วมเปิดโครงการฝากบ้านกับตำรวจ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่สน.ท่าข้าม โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ แอพ พลิเคชั่น'Police i lert u' เข้ามาใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน รวมถึงติดคิวอาร์ โค้ด ที่หน้าบ้านเพื่อให้ตำรวจสแกนข้อมูลส่งให้เจ้าของบ้านได้ตลอดเวลา เผยมีบ้านเข้าโครงการมากกว่าช่วงปีใหม่ถึง 2 เท่า ผบ.ตร.ปัดไม่รู้กระแสข่าวจะถูกโยกย้าย ยันทำงานเต็มที่และ ถูกต้องตลอดเวลา รวมถึงไม่เชื่อว่าจะเกิดจากปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เพราะไม่เคยกลั่นแกล้งใคร และรายงานเรื่องทั้งหมดให้ผู้ใหญ่รับรู้ตลอด เวลา

     เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 เม.ย. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก พร้อม พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม พร้อมมอบนโยบาย โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจที่ สน.ท่าข้าม เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เป็นนโยบายการบริการที่สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากประชาชน โดยสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ว่าบ้านและทรัพย์สินจะปลอดภัย เมื่อต้องเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาว นอกจากนี้ ตร. ยังเตรียมพร้อมที่จะอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้กับประชาชนสำหรับการเดินทางและการใช้ท้องถนนในทุกเส้นทาง พร้อมฝากถึงประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่และไม่ดื่มสุราขณะขับขี่

ไฮเทค - พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ตรวจโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่สน.ท่าข้าม โดยปีนี้นำเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดมาใช้ ให้เจ้าของบ้าน เช็กความเคลื่อนไหวผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.

      จากนั้นพล.ต.อ.พงศพัศพร้อมคณะไปยังบ้านเลขที่ 45/559 ถ.พระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เพื่อตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ พร้อมเผยว่า โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง แอพพลิเคชั่น "Police i lert u" เข้ามาใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับเจ้าของบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจและเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้าน

      พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า โดยตำรวจจะนำบาร์โค้ดสองมิติ หรือคิวอาร์ โค้ด ไปติดไว้ที่หน้าบ้านหลังที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อตำรวจสายตรวจเข้าไปตรวจดูแลความปลอดภัย ก็จะสแกนบาร์โค้ดสองมิติ แล้วรายงานให้เจ้าของบ้านได้ทราบด้วยการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน แทนการเซ็นกล่องแดง ซึ่งเจ้าของบ้านแม้ว่าจะอยู่ต่างจังหวัด แต่สามารถดูความเรียบร้อยของบ้านตัวเองได้ทางโทรศัพท์มือถือ โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ส่งข้อมูลให้รับทราบ โดยแอพพลิเคชั่นนี้นำร่องใช้ในพื้นที่บก.น.9 และในอนาคตจะขยายผลใช้ในพื้นที่อื่นต่อไป

       พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10-16 เม.ย. มีประชาชนเข้าร่วมโครงการฝากบ้านกว่า 2,000 หลังคาเรือน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ถึง 2 เท่า โดยผบ.ตร.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัย รวมทั้งทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่

      ขณะที่นายธวัชชัย ทองสิมา อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่เข้าร่วมโครงการ และทดลองใช้บาร์โค้ดสองมิติเป็นรายแรกในเขตพื้นที่ สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ในปีนี้เป็นการฝากบ้านไว้กับตำรวจเป็นครั้งแรก เพราะทุกปีจะต้องมีคนในครอบครัวอยู่เฝ้าบ้านเสมอ แต่เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ครอบครัวจะเดินทางไปเที่ยวหัวหิน จึงได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นพล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวว่าจะมีการโยกย้าย ผบ.ตร.ว่า ไม่ทราบถึงกระแสข่าวแต่อย่างใด และก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร รวมทั้งไม่กังวลกับกระแสข่าวดังกล่าวด้วย และมั่นใจว่าถ้าปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอด ไม่ต้องรู้สึกหวั่นไหวกับกระแสข่าวดังกล่าว

     เมื่อถามถึงกรณีหลายฝ่ายมองว่ากระแสข่าวโยกย้ายผบ.ตร. เกิดจากปัญหาภายในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจที่มีวินัย ซึ่งการที่จะกระทำการใดๆ ก็ตาม ตนให้ความสำคัญและจะมีการหารือเพื่อเรียนให้ผู้ใหญ่รับทราบเสมอ ไม่มีการใช้อำนาจโดยพลการ ทุกสิ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทุกครั้ง และไม่เคยคิดกลั่นแกล้งใคร

     "การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จะมีการประชุมในรูปแบบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งจะดูหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายโดยจะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ กฎหมายและความเหมาะสม ซึ่งทุกเรื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ก.ตร. ไม่ใช่ความเห็นชอบของผมเพียงคนเดียว ผมไม่ทราบเรื่องกระแสข่าว ผมทำงานอย่างเดียว ดูสีหน้าผมสิ ว่าผมกังวลมั้ย" ผบ.ตร.กล่าวในท้ายที่สุด