WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8711 ข่าวสดรายวัน


'2 โหด'สำนึกบาป ขอขมา สมยศชัวร์-คดีชัด 
ดีเอ็นเอมัด-ร่วมฆ่าฝรั่ง ยืนยันไม่มีจับ'แพะ'แน่ คุมเข้มทำแผนหวั่นถูกตื้บ บิกตู่โวทูตอังกฤษพอใจ สั่งจัดระเบียบคนต่างด้าว


แถลงจับ - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แถลงจับนายวินและนายซอ ชาวพม่า ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า-ข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนคุมตัวทำแผนฯ ใช้จอบเป็นอาวุธสังหารเหยื่อ เมื่อ 3 ต.ค.

         หิ้วตัว 2 พม่าโหด ทำแผนรับสารภาพฆ่า 2 ฝรั่งผู้ดี สมยศยัน ไม่ใช่แพะแน่ ผลวิทยา ศาสตร์ชี้ชัดเจน เผยคนร้ายนั่งกินเหล้ากับเพื่อนจน 2 ฝรั่งเดินผ่าน จึงใช้จอบฟาดเหยื่อหนุ่มแล้วข่มขืนเหยื่อสาว แจงที่ไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่ทีแรกเพราะผู้ต้องสงสัยหลบหนี จนเพิ่งมาเจอตัว ยันไม่ใช่แพะแน่ "บิ๊กตู่"ชมตำรวจทำงานดี สั่งเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เผยสถานทูตอังกฤษพึงพอใจ จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ฯ เผยมีแรงงานผิดกฎหมายกว่า 3 พันคน เร่งตรวจสอบ ฮึ่มฟันผู้ประกอบการปกปิดข้อมูล
      จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน คือนายเดวิด มิลเลอร์ และน.ส.ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ ทั้งคู่อายุ 24 ปี บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย ก่อนจะควบคุมตัวชาวพม่า 2 คนมาสอบสวน จนกระทั่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า โดยระบุว่าเห็นชาวต่างชาติทั้งคู่พลอดรัก จนเกิดอารมณ์ทางเพศจึงลงมือโหด ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปเป็นลำดับ 
       ความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่วัดบวรนิเวศวิหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 150 รูป เพื่อน้อมอุทิศถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม และครบ 1 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ ว่า รับรายงานเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าควบคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัยสังหาร 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้แล้ว
      ต่อมาเวลา 16.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า รับรายงานการควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา และรอผลดีเอ็นเอ เมื่อผลพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมาชัดเจน แล้วผู้ต้องหาก็รับสารภาพ รวมทั้งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินคดี และสิ่งที่เราควรพูดต่อไปนี้คือการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 
      "ผมยืนยันและเช็กแล้วว่าผู้ต้องหาเป็นตัวจริงหรือไม่ ผบ.ตร.ยืนยันว่าจะเป็นแพะไปไม่ได้ เพราะมันพิสูจน์ด้วยดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นการตรวจดีเอ็นเอจากเหยื่อ เรื่องนี้ต้องชมเชย และให้รางวัลกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน แต่ต้องกำชับอย่าให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาอีก โดยการเฝ้าระวังมาตรการต่างๆ ต้องดี และที่สำคัญคือการขึ้นบัญชีแรงงานต่างด้าวให้ครบทั้งหมดทุกคนทุกที่ ทุกเกาะ เพราะ 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าที่ก่อเหตุก็ไม่ได้ขึ้นบัญชีที่ถูกต้องเช่นกัน" นายกรัฐมนตรีกล่าว
     เมื่อถามว่าทางสถานทูตอังกฤษพอใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สถานทูตอังกฤษพอใจตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเอกอัครราชทูตอังกฤษและผู้แทนเข้าพบกับผบ.ตร.โดยพูดคุย ซักถามว่าเรามีการดำเนินการอย่างไร ผบ.ตร.ชี้แจงว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญ โดยตนโทรศัพท์มาสั่งการทุกวันให้ดำเนินการโดยเร็ว และติดตามความคืบหน้าตลอดเวลา ซึ่งทางอังกฤษพึงพอใจ เข้าใจและไม่ติดใจในเรื่องอื่นๆ แล้ว เพราะเห็นว่าฝ่ายไทยดำเนินการไปตามขั้นตอนซึ่งเป็นมาตรฐาน ใช้การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์คือดีเอ็นเอซึ่งคิดว่ามีความทันสมัยและยอมรับได้ 
       เมื่อถามว่า การท่องเที่ยวไทยจะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างหงุดหงิดว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่าเอามาพันรวมกันทั้งหมด มันไม่ใช่เช่นนั้น "การท่องเที่ยวจะขึ้นหรือลดลงไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์ที่เกาะเต่าอย่างเดียวเรื่องเดียว มีปัจจัยอีกหลายเรื่อง ทั้งสถานการณ์ทั่วโลกเป็นอย่างไร ฤดูกาลนี้เป็นฤดูอะไร และอย่านำปีนี้ไปเทียบกับปีที่ผ่านมาหรือก่อนหน้านั้น ต้องไปดูที่สถิติการท่องเที่ยวแต่ละประเทศว่าลดลงบ้างหรือไม่ อยากขอร้องสื่อว่าอย่าเอามาพันกันหมด พอเกิดเหตุการณ์ที่นี่ก็เอามาพันกับที่นั่น การท่องเที่ยวไม่ใช่มีแค่ที่เกาะเต่าที่เดียว มันยังมีอีกหลายที่"
       เมื่อถามย้ำว่าต้องเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ไม่ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องเข้มงวด จากนี้ไปก็ต้องไปลงโทษกันมาตามขั้นตอน ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปแก้ปัญหา
        ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวโยงกับแนวคิดที่จะยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ท่องเที่ยวหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า "ถ้ายกเลิกแล้วมันไม่มีฆ่ากัน ก็โอเค แต่ทุกวันนี้ก็ยังฆ่ากันอยู่เลย เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งมาพูดกันในเรื่องนี้ มันจะเป็นจะตายกันหรืออย่างไรผมไม่เข้าใจ" 
     ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาไม่สับสนแน่นอน อย่าไปมองว่าสับสน เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนผู้ต้องหาค่อนข้างชัดเจน ขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะได้ทำงานอย่างเต็มที่ 
    เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าจะไม่มีการจับแพะ พล.อ.ประวิตรกล่าว "อย่าไปพูดว่ามีแพะ ตำรวจทำงานของเขาอยู่แล้ว หากตำรวจได้ยินอย่างนี้ คงเสียใจแยะเลย"
    วันเดียวกัน เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.ต.วิทยา พิทักษ์ รอง สวป.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 ฝรั่ง ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ออกจากห้องควบคุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ในสภาพใช้ผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า และใช้กำลังตำรวจล้อมตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจนำตัวไปส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน เพื่อเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและแถลงข่าวที่ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน 
      ต่อมาเวลา 08.00 น. ที่พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หาดทรายรี แหลมจปร. ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล บก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สภ.เกาะสมุย สภ.เกาะพะงัน ประมาณ 1 กองร้อย ตรึงกำลังรอบบริเวณจุดเกิดเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เพื่อเตรียมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 แรงงานชาวพม่าที่ก่อเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ โดยมี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา เกาะเต่า นำเชือกมาขึงกั้นบริเวณจุดเกิดเหตุห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณดังกล่าว โดยมีชาวบ้านในพื้นที่รอบเกาะเต่ามาเฝ้ารอดูการทำแผน
       จากนั้นเวลา 10.45 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพ็ชร รรท.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี แถลงผลการจับกุมนายเวพิว หรือ วิน ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ปี สัญชาติพม่า(ยะไข่) นายซอ ลิน หรือโซเรน ไม่มีนามสกุล อายุ 21 ปี สัญชาติพม่า(ยะไข่) 2 ผู้ต้องหาฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ
       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุน.ส.ฮันนาห์ กับนายเดวิด เดินอยู่ริมชายหาดทรายรี ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ถือจอบเดินตามและฟาดที่ศีรษะด้านหลังของนายเดวิดจนล้มลงหมดสติ จากนั้นช่วยกันลาก น.ส.ฮันนาห์ไปข่มขืนบริเวณที่เกิดเหตุ โดยหลังก่อเหตุใช้จอบอันเดิมฟันฟาดที่ใบหน้าน.ส.ฮันนาห์ หลายครั้งจนเสียชีวิต จากนั้นลากนายเดวิดไปโยนทิ้งน้ำ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี 
       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดรัศมี 2 กิโลเมตร และตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกิดเหตุปรากฏอย่างแน่ชัด รวมทั้งผลดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ตรงกับอสุจิที่พบในตัวผู้ตาย นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงนำตัวมาทำแผนในที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้บังคับขู่เข็ญหรือสร้างเหตุการณ์ขึ้น ทั้งนี้จากการตรวจค้นห้องของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ซึ่งถูกผู้ต้องหาทำลายทิ้ง และยังพบเสื้อผ้าจึงเก็บไว้ไปตรวจสอบหาคราบเลือดของผู้ตายต่อไป
       "ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุชวนกันนั่งเล่นกีตาร์และดื่มเบียร์ บริเวณหาดทรายรี จากนั้นพบผู้ตายทั้งสองคนเดินผ่านมา จึงเดินตามไปทำร้ายนายเดวิด และข่มขืนน.ส.ฮันนาห์ หลังจากนั้นลงมือฆ่าผู้ตายทั้งสองรายแล้วแยกย้ายกันหลบหนี ทั้งนี้ก่อนที่จะหลบหนีได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปด้วย แต่ไม่สามารถใช้งานได้ จึงทุบทำลายและโยนทิ้งไว้ในป่าหลังห้องเช่าของนายวิน กระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด" พล.ต.อ.สมยศกล่าว 
        ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับการจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นไปตามหมายจับศาล จังหวัดสมุย ที่ จ.76-77/2557 วันที่ 3 ต.ค. ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
        พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ออกหมายจับ 2 คนนั้น เนื่องจากนายเมาไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย ส่วนที่ไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายในตอนแรกนั้น เนื่องจากว่าผู้ต้องหาที่สองไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากนี้จะเพิ่มกำลังตำรวจในพื้นที่เกาะเต่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่ปลอดภัย รวมทั้งจะตั้งสถานีตำรวจส่วนหน้าที่เกาะเต่าด้วย
       ด้านนายวินพูดผ่านล่ามชาวพม่า ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง จากนั้นนายวินและนายซอ ยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ และกล่าวขอโทษญาติผู้ตายทั้ง 2 ราย ที่ก่อเหตุดังกล่าว
      จากนั้นพล.ต.อ.สมยศ นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งดื่มเบียร์และเล่นกีตาร์บนขอนไม้ มีนักท่องเที่ยว 2 คนเดินผ่าน จึงหยิบจอบที่อยู่บริเวณดังกล่าวเดินตามผู้ตายทั้ง 2 ไป ก่อนใช้จอบทุบที่ศีรษะนายเดวิด จากนั้นจึงลากตัวน.ส.ฮันนาห์ไปข่มขืนที่หลังโขดหิน ก่อนจะใช้จอบตีที่หน้าน.ส. ฮันนาห์ จนเสียชีวิต แล้วแยกย้ายกันหลบหนี
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการทำแผนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามามุงดูการทำแผน บางรายได้สาปแช่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวในเกาะเต่าได้รับผลกระทบ

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์


17 วันปิดคดีดังเกาะเต่า 'วิน-ซอ'คู่หูสารภาพสิ้น เปิดนาทีฆ่า2ชาวอังกฤษ ผลดีเอ็นเอ-หลักฐานมัด

คอลัมน์ แฟ้มคดี

      คลี่คลายจนได้สำหรับคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

      หลัง บรรดาตำรวจทุกหน่วยต่างสนธิกำลังลงพื้นที่ หาเบาะแสไล่ล่า คนร้ายแทบพลิกเกาะอยู่นานกว่าครึ่งเดือน โดยนับจากวันเกิดเหตุ 15 ก.ย. มาจนถึงวันจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

     ใช้เวลาในการแกะรอยตามล่าฆาตกรรวม 17 วัน

      หลัง ผ่านการเชิญทั้งแรงงานต่างด้าว ลูกเรือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเพื่อนเหยื่อมาเค้นสอบ พร้อมเก็บดีเอ็นเอตรวจพิสูจน์เทียบเคียง แต่สุดท้ายผลที่ออกมายังไม่ตรงกับหลักฐานที่เก็บได้จากศพ 

      กระทั่งมาพบพิรุธ 2 คนงานชาวพม่าที่ทำงานอยู่บนเกาะเต่า โดย 1 ในคนงานได้ย้อมเปลี่ยนสีผมและพยายามขึ้นเรือหลบหนีออกจากเกาะ

       ทีมสืบสวนจึงคุมตัวมาตรวจดีเอ็นเอและเค้นสอบซ้ำ จนยอมรับสารภาพ

      อีกทั้งผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันตรงกับคราบอสุจิที่พบในศพ แหม่มสาว

     เมื่อจำนนต่อหลักฐานที่มัดแน่น สุดท้าย 2 คนงานชาวพม่ายอมปริปากรับสารภาพเป็นฆาตกรสังหารโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ

       คลี่จนได้-จับ 2 พม่าฆ่า 2 ฝรั่ง

        นับ จากเช้าตรู่ 15 ก.ย. ที่มีการพบศพ น.ส.ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ สัญชาติอังกฤษ อายุ 24 ปี สภาพเปลือยถูกตีด้วยของแข็งและของมีคมที่ใบหน้า และมีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ พร้อมกับศพ นายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ สภาพถูกตีด้วยของมีคม มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ต้นคอ และด้านท้ายทอยจนกะโหลกศีรษะแตก 

      เป็นภาพสยองที่บริเวณหาดทรายรี เกาะเต่า

       การสืบสวนควานหาตัวคนร้ายคดีนี้ในช่วงแรกอาจทุลักทุเล เมื่อบุคคลต้องสงสัยที่คุมตัวมาสอบสวนทั้งหมด มีดีเอ็นเอไม่ตรงกับคราบอสุจิที่พบในศพแหม่มสาว

ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเริ่มนับหนึ่งในการหาเบาะแสล่าตัวคนร้ายใหม่ โดยมีผลดีเอ็นเอที่บ่งชี้ว่า เป็นของคนเอเชีย มิใช่คนยุโรป

ทีมสืบสวนจึงเดินหน้าเชิญกลุ่มแรงงานต่างด้าวและกลุ่มวัยรุ่นบนเกาะเต่ามาเค้นสอบอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งมาสะดุดกับ 3 แรงงานชาวพม่าที่นำตัวมาสอบถามล่าสุด เนื่องจากผู้ต้องสงสัยบางคนให้การวกวน

ประกอบ ด้วย นายเวพิว หรือ วิน อายุ 21 ปี นายซอ ลิน หรือ โซเรน อายุ 21 ปี และ นายเมา อายุ 21 ปี ทั้งหมดทำงานอยู่ร้านอาหารบนเกาะเต่าและเป็นเพื่อนกัน 

แต่เมื่อยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปล่อยตัวไปชั่วคราว

ต่อมาเจ้าหน้าที่กลับพบพิรุธอันชวนสงสัย เมื่อนายวินแอบไปย้อมผมจากสีทองเป็นสีดำ และยังรีบขึ้นเรือข้ามฝั่งออกจากเกาะเต่าทันที

ชุด สืบสวนที่ตามประกบสังเกตการณ์อยู่ จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และเมื่อเรือเทียบท่าเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงเข้า ล็อกตัวมาสอบสวนอีกรอบ

โดยมีเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าควบคุมนายซอและนายเมา มาสอบสวนที่เซฟเฮาส์บนเกาะเต่า 

สัญญาณ ที่บ่งบอกว่าคดีนี้น่าจะคลี่คลายได้สำเร็จแล้วเกิดขึ้นในบ่ายวันที่ 2 ต.ค. เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. บินด่วนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มายังบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยดังกล่าวด้วยตัวเอง

พร้อมด้วยเหล่านายตำรวจ ผู้ใหญ่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.ที่เพิ่งได้รับมอบหมายให้เข้ามาคุมคดี พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ อดีตผบก.สส.ภ.8 ที่เดินทางลงพื้นที่อย่างพร้อมหน้า

เมื่อบรรดานายตำรวจเค้นสอบอยู่นานหลายชั่วโมง สุดท้ายนายวิน ยอมรับสารภาพเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ

แถมยังให้การซัดทอดนายซอ ร่วมก่อเหตุสังหารโหดด้วย

นอก จากนี้เมื่อตรวจเช็กกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อใกล้จุดเกิดเหตุ ยังจับภาพนายเมาขณะเดินเข้าไปซื้อบุหรี่ ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับที่พบก้นบุหรี่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

แต่เมื่อสอบสวนพบช่วงก่อเหตุ นายเมาได้กลับห้องพักไปก่อนและไม่อยู่ในเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงกันตัวไว้เป็นพยาน

จากนั้นเก็บดีเอ็นเอของนายวินและนายซอ ส่งไปตรวจพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง ซึ่งผลออกมาตรงกับดีเอ็นเอของคราบอสุจิที่พบในศพแหม่มสาว

"วิน-ซอ"สารภาพลงมือโหด

เมื่อคดีสะเทือนขวัญและสร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้การท่องเที่ยวเริ่มกระจ่าง

พล.ต.อ.สม ยศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ พร้อมชุดสืบสวนนับ 100 นาย ควบคุมตัวนายวินและนายซอ บินข้ามทะเลมายังเกาะเต่า เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณชายหาดจุดเกิดเหตุ

ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่โกรธแค้น

ต่อ มาเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 2 คน ไปตรวจสอบในห้องพักพบโทรศัพท์มือถือ ของผู้ตาย ถูกทุบจนพังและโยนทิ้งอยู่บริเวณป่าหลังห้อง นอกจากนี้ยังพบเสื้อผ้ากองอยู่จำนวนมาก จึงเก็บไปตรวจสอบหาคราบเลือด

โดยนายวินให้การรับสารภาพและเล่าถึงเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุว่า 

ขณะนั้นกำลังนั่งเล่นกีตาร์กับนายซอและนายเมาเป็นปกติเหมือนทุกวัน โดยซื้อเหล้าและบุหรี่มาสังสรรค์อยู่ริมหาดทรายรี 

ต่อมานายเมาได้ขอตัวกลับห้องพักไปก่อน ทำให้เหลือเพียงตนและ นายซอที่ยังนั่งเล่นกีตาร์อยู่

จังหวะ นั้นสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษ เดินจูงมือมาตามแนวชายหาด ก่อนเดินผ่านหน้าหลบเข้าไปบริเวณหลังโขดหิน เพื่อพลอดรักกัน

จึงแอบเดินติดตามไปพร้อมหยิบจอบที่วางอยู่ติดมือไปด้วย

จากนั้นใช้จอบที่ถือมาฟาดเข้าที่ศีรษะของฝรั่งหนุ่มจนล้มคว่ำและลากตัวลงไปริมทะเล

ก่อนหันมาร่วมกับนายซอ ข่มขืนแหม่มสาวจนสำเร็จความใคร่ แล้วใช้จอบกระหน่ำตีหลายครั้งจนเสียชีวิต

หลังจากนั้นได้ขโมยโทรศัพท์มือถือของเหยื่อไปด้วยและนำกลับมายังห้องพัก แต่ใช้งานไม่เป็น จึงทุบทำลายและโยนทิ้งไว้ในป่าหลังห้องพัก

กระทั่งมาทราบข่าวอีกวันว่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเสียชีวิตทั้งคู่ ก็ยังทำตัวเป็นปกติ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

เมื่อ เจ้าหน้าที่มาเชิญตัวไปสอบสวนหรือเก็บดีเอ็นเอ ก็พยายามหลบเลี่ยงไปก่อนเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่ถูกคุมไปเค้นสอบเหมือนแรงงานคนอื่น

แต่สุดท้ายมาพบเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนและถูกนำตัวมาสอบสวนหาความจริง จนถูกจับกุมตัวในที่สุด

ด้านพล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงแนวทางการสืบสวน ล่าตัวคนร้ายว่า

จาก การที่ทีมสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรัศมี 2 ก.ม. และตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้ยืนยันได้ว่านายวินและนายซอ เป็นคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้ 

โดยผลการตรวจดีเอ็นเอของทั้ง 2 คนตรงกับคราบอสุจิที่พบในศพของแหม่มสาว 

พร้อมยืนยันตำรวจทำด้วยความถูกต้อง ไม่ได้บังคับ ขู่เข็ญหรือสร้างเหตุการณ์ขึ้น 

ซึ่ง หลังจากนี้จะเพิ่มกำลังตำรวจในพื้นที่เกาะเต่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าเมืองไทยเป็นประเทศปลอดภัย รวมทั้งเตรียมตั้งสถานีตำรวจส่วนหน้าที่เกาะเต่าด้วย

เร่งกู้-ฟื้นฟูท่องเที่ยวเกาะเต่า

หลังตำรวจสามารถคลี่คลายและจับกุม 2 คนร้ายมาชดใช้กรรมที่ก่อไว้ตามกฎหมาย

ทำ ให้ชาวเกาะเต่าต่างโล่งใจที่คดีถูกสะสาง แม้ตอนนี้ อาจไม่สามารถกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวกลับคืนมาได้ในทันที แต่ถือเป็นอีกก้าวที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. กล่าวว่า ตำรวจยืนยันคดีนี้ไม่ได้จับแพะแน่นอน เพราะมีผลดีเอ็นเอเป็นหลักฐานพิสูจน์ชัด

ส่วน 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าตรวจสอบพบเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 

จึง เตรียมให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง หากพบผู้ประกอบการละเลยไม่สนใจก็ต้องลงโทษตามขั้นตอน

ด้าน นายประภาส อินทนปสาธน์ ผอ.ททท.สุราษฎร์ ธานี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่และประเทศไทย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายอย่างรวดเร็ว จึงเตรียมทำเรื่องชี้แจงไปยังประเทศต่างๆ ให้รับทราบ เพราะแต่ละปีมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเกาะเต่ามากถึง 8 แสนคน 

โดยมั่นใจว่าจะสามารถกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะเต่ากลับมาได้โดยเร็ว

ขณะ ที่ นางวรรณี ไทยพาณิชย์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่า การจับกุม 2 คนงานชาวพม่า ทำให้คดีคลี่คลายและมีผลต่อภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัด 

โดยเฉพาะ เกาะเต่า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของประเทศ เนื่องจากเพิ่งได้รับคัดเลือกเป็นเกาะท่องเที่ยวดำน้ำสวยที่สุดของเอเชีย ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาดำน้ำดูปะการัง 

ซึ่งเชื่อ มั่นว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อาจมีผลกระทบด้านการท่องเที่ยวเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวจะกลับมาพักผ่อนและท่องเที่ยวตามเดิม

     เหตุการณ์ ครั้งนี้ถือเป็นอีกวิกฤตที่ผู้ประกอบการและภาครัฐต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา รวมถึงต้องหามาตรการให้แหล่งท่องเที่ยว มีความสงบสุขและปลอดภัย 

      สำหรับแรงงานพม่าทั้ง 3 คนมาจากเมืองยะไข่ ประเทศพม่า นายวิน เป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า ส่วนนายซอ และนายเมา ทำงานอยู่ร้านอาหารอีกแห่ง โดยตำรวจได้หลักฐานจากภาพวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อ บริเวณหาดทรายรี ที่นายเมาเป็น ผู้เข้าไปซื้อบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มซองแดง ซึ่งได้กันตัวนายเมาไว้เป็นพยาน
      พล.ต.ธีร์ณฉัตฐ์ จินดาเงิน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางลับพบว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดบนเกาะเต่ามีกว่า 7,000 คน แต่มีข้อมูลที่ผู้ประกอบการแจ้งเพียง 4,000 คนเท่านั้น ส่วนที่หายไปอีกกว่า 3,000 คน อยู่ที่ไหน และเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า แรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้ต้องหา เป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย และระหว่างที่ฝ่ายตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบหาผู้ต้องสงสัย ยังไม่ได้รับความร่วมมือจาก ผู้ประกอบการบางราย ไม่ยอมแจ้งจำนวนและส่งตัวแรงงานต่างด้าวเหล่านั้นให้ฝ่ายตำรวจตรวจสอบ ซึ่งตนจะสั่งการไปยังผู้เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการหาพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิด ผู้ประกอบการฐานให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย และไม่ให้ความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายคดี 

      นายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ชาวเกาะเต่ารู้สึกโล่งใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ มีความมั่นใจและเชื่อใจว่าเป็นคนร้ายตัวจริงไม่ใช่แพะแน่นอน โดยแรงงานต่างด้าวจะต้องช่วยกันควบคุมดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และหลังจากนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะเต่าจะได้ช่วยกันจัดกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมา
       ขณะที่สื่ออังกฤษหลายสำนักเกาะติดสถานการณ์การสืบสวนอย่างใกล้ชิดทั้งหนังสือพิมพ์เทเลกราฟ มิร์เรอร์และการ์เดียน โดยทั้งหมดเสนอข่าวเรื่องที่ตำรวจไทยแถลงว่าผลตรวจดีเอ็นเอที่ได้จากนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษตรงกับดีเอ็นเอของชาวพม่า 2 คน ที่สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร 
      เอเอฟพีรายงานว่า การจับกุมแรงงานผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้ทำให้ลดแรงกดดันและปรับทัศนคติของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสื่ออังกฤษต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย หลังจากใช้เวลานานเกือบ 20 วันในการสอบสวนและตามล่าหาคนร้าย ยังไม่รวมถึงคำแถลงที่เข้าข่ายเหยียดนักท่องเที่ยวของพล.อ.ประยุทธ์หลังจากระบุว่า การสวมใส่ชุดว่ายน้ำบิกินีของนักท่องเที่ยวเป็นผลสืบเนื่องทำให้เกิดเหตุล่วงละเมิดทางเพศ จุดชนวนให้หลายฝ่ายไม่พอใจจนพล.อ.ประยุทธ์ต้องแถลงขอโทษในเวลาต่อมา
       ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาประกาศ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ระบุว่า เชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวของไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากคดีดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวหลายประเทศวิตกกังวลถึงความปลอดภัย จนเป็นเหตุให้จำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่ลดน้อยลง 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!