WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8712 ข่าวสดรายวัน

ส่งเข้าคุก! มือฆ่าฝรั่ง 'เกาะเต่า'จัดทำบุญ เรียกขวัญ


ฝากขัง - ตำรวจคุมตัวนายวินและนายซอ ผู้ต้องหาชาวพม่าที่ร่วมกันข่มขืนฆ่านัก ท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ไปฝากขังศาลจังหวัดเกาะสมุย ขณะที่ชาวเกาะเต่าเตรียมทำบุญใหญ่เกาะวันที่ 23 ต.ค.

     เกาะเต่าเตรียมทำ บุญใหญ่ในวันที่ 23 ต.ค. พร้อมร่วมไว้อาลัยเหยื่อ ส่วนบรรยากาศ ท่องเที่ยวยังซบเซา ผู้ประกอบการหวังปลายปีจะดีขึ้น ตร.ส่ง 2 ทมิฬฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษฝากขัง-เข้าเรือนจำ ผู้การสุราษฎร์ธานีเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการภายใน 7 วัน ย้ำพยานหลักฐานชัดเจนไม่ใช่แพะแน่นอน มีทั้งพยานหลักฐานและผลตรวจดีเอ็นเอมัดแน่น ด้านผบ.ตร.ยืนยันไม่มั่วและตร.เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องหาไว้แต่แรก เพียงแต่มี ผู้ต้องสงสัยกว่า 200 คน จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ เช่นเดียวกับภาพจากวงจรปิดที่มีมากถึง 300 ตัวจึงใช้เวลาเยอะ
     ความคืบหน้าคดีตำรวจติดตามจับกุมแรงงานพม่าฆ่าโหด 2 ฝรั่งชาวอังกฤษ เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่ท่าเทียบเรือลมพระยา เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 20 นาย คุมตัวนายวินและนายซอ ชาวเมียนมาร์ ผู้ต้องหาก่อคดีฆาตกรรมนายเดวิด มิลเลอร์ และน.ส.ฮันนาห์ วิเทอริดจ์ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ลงเรือเร็วลมพระยาจากเกาะเต่าไปยังเกาะสมุย เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน
      2 ผู้ต้องหาถูกใส่กุญแจมือนำตัวเดินมาขึ้นเรือด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเศร้าหมองและอิดโรยจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยตำรวจได้นำนายวินและนายซอนั่งอยู่ที่ห้องโดยสารชั้นล่าง ใช้กุญแจมือล็อกไว้กับเก้าอี้ โดยมี เจ้าหน้าที่คุมอยู่บริเวณโดยรอบ

      ต่อมาเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.อรุณ ร่มศรีนวล รอง ผกก.สส. และพ.ต.ท.กัปนาท นิรัตติมานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.เกาะสมุย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวินและนายซอ มาพิมพ์ลายนิ้วมือเก็บประวัติที่สภ.เกาะสมุย ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย     

     ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามนายซอว่ามาทำงานที่เกาะเต่านานหรือยัง นายซอตอบเป็นภาษาอังกฤษว่าทำงานอยู่ที่เกาะเต่ามาแล้ว 3 ปี ทำงานที่ร้านบาร์เธอร์ ในย่านหาดทรายรี ส่วนนายวินมาทำงานที่เกาะเต่าได้ 2 ปี ที่ร้านเซฟตี้สต๊อป และเมื่อถามอีกว่า ได้ใช้จอบตีนักท่องเที่ยวหรือไม่ นายซอ พยักหน้าตอบว่าตี 
     จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ตราโล่ มีเจ้าหน้าที่คุ้มกันกว่า 10 นาย นำตัวไปยังศาลจังหวัดเกาะสมุย ก่อนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัวและส่งเข้าเรือนจำทันที 
       พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีกับนายวิน และนายซอ ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แต่งตั้งพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์ศิรินทร์ รอง ผบช.ภาค 8 เป็นหัวหน้าคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานของคดีให้สมบูรณ์ เพื่อสรุปสำนวนให้พนักงานอัยการส่งฟ้องศาลโดยเร็วที่สุด คาดว่าภายใน 7 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ สำหรับพยานหลักฐานที่ได้ในขณะนี้ มีน้ำหนักและแน่นหนาเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยไม่ต้องหาหลักฐานอื่นเพิ่มเติม รวมถึงไม่มีผู้ต้องสงสัยรายอื่นที่ต้องเรียกมาสอบเพิ่ม พบว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเพียง 2 คนเท่านั้น
        ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตทางสื่อออนไลน์ว่า ตำรวจจับผู้ต้องหาตัวปลอมนั้น พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าเป็นผู้ต้องหาตัวจริง ซึ่งตนร่วมในการสอบปากคำในบางช่วง ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ที่สำคัญมีผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งตรงกับที่พบในศพผู้เสียชีวิต รวมถึงพยานวัตถุ พยานแวดล้อมที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ เป็นสิ่งยืนยันมัดตัวผู้ต้องหา คดีนี้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญ ระดมพนักงานสอบสวนที่เชี่ยวชาญมาคลี่คลายคดี และได้ดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ จึงขอให้ความมั่นใจว่าตำรวจทุ่มเทอย่างเต็มที่และเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจริง 
        ด้านพล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า คดีนี้มั่นใจว่าตำรวจจับกุมคนร้ายตัวจริง 100% ไม่ใช่จับแพะ เพราะกระบวนการสืบสวนในคดีล้วนแต่ตอบคำถามสังคมได้อย่างชัดเจน ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยหลายระดับ เริ่มตั้งแต่บุคคลที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุในระยะ 100 เมตร และมีการขยายวงออกไปเรื่อยๆ
       "ทั้งนี้เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายมาจากการสอบปากคำนายเมา แรงงานชาวพม่า ที่ให้การรับสารภาพว่าไปเล่นกีตาร์และดื่มสุรากับเพื่อนชาวพม่าในที่เกิดเหตุจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ได้ตั้งแต่วันแรก แต่เนื่องจากมีตัวอย่างดีเอ็นเอมากถึง 200 คน จึงทำให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปด้วยความล่าช้า ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่รอบเกาะ ตำรวจต้องใช้เวลาดูกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวม 12 ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิดไม่ต่ำกว่า 300 ตัว ทำให้กระบวนการตรวจสอบต้องใช้ความรอบคอบและแม่นยำ" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
      ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า อธิบายขั้นตอนการทำงานต่อเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว ซึ่งทั้งสองคนมีความเข้าใจการทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี และส่วนตัวถือว่าการสืบสวนคดีนี้ถือว่าสมบูรณ์มาก ไม่ได้เร่งรีบปิดคดี
      นายไชยยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าในวันที่ 23 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวัน ปิยมหาราช ชาวเกาะเต่าจะจัดพิธีวาง พวงมาลาสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 บริเวณแหลมจปร. หาดทรายรี พร้อมเชิญชาวบ้านเกาะเต่าและนักท่องเที่ยวร่วมกันไว้อาลัยให้ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เสียชีวิต พร้อมทำบุญใหญ่บนเกาะ
      ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวบนเกาะเต่ายามค่ำคืน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาดื่มกินตามร้านอาหารและบาร์เบียร์ริมชายหาดทรายรีคึกคักเป็นบางร้าน และบางร้านอาหารก็ดูเงียบเหงาไปบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูโลว์ซีซั่น ประกอบกับเหตุการณ์ฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเต่าคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ที่จะถึงในเดือนธ.ค.นี้
       วันเดียวกัน องค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งทำงานเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี โดยนายสุรพงษ์กล่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ผู้เสียหายซึ่งเป็นแรงงานพม่า รวมถึงภาพพจน์ของประเทศไทยที่ผ่านมาการดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัยหลายประการ เช่นกรณีคำสารภาพของผู้ต้องหา ที่อ้างว่า ผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์บนชายหาด หรือการนำแรงงานบนเกาะไปในลักษณะหว่านแห ถ้าสงสัยและมีหลักฐานสามารถนำไปตรวจได้ แต่การทำลักษณะทำนองนี้ เป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในขณะเดียวกันกลับไม่มีการตรวจดีเอ็นเอจากคนไทย แต่มุ่งเป้าไปยังแรงงานเท่านั้น
       "เราจะให้ฝ่ายทนายความดำเนินการเข้าตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ โดยมีแนวทางรับเรื่องมาตรวจสอบ และมอบหมายให้คณะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง คาดจะเป็นอาทิตย์หน้า และจัดหาล่ามเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถ้าเราไม่มีความละเอียดอาจทำให้ยิ่งแย่ลง เพราะกระบวนการจับผิดคนในสังคมไทยยังมีให้เห็นอยู่ อย่างไรก็ตามหากสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับตัวการใหญ่ได้ จะทำให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวภาพพจน์โดยรวมของประเทศไทยกลับคืนมา" นายสุรพงษ์ กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!