WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8731 ข่าวสดรายวัน


ลูกสามีญี่ปุ่นอีกคน ขอรื้อคดี พ่อตายบ้านพรชนก 
ตกบันไดมีพิรุธ-เงินประกันอื้อ ผัวแท็กซี่รับสิ้นไส้นาทีหั่นศพ คุมตัวไปทำแผนฯ-ฝากขังวันนี้


จี้รื้อคดี - นางเค็กโกะ มัตตา ลูกสาวอดีตสามีชาวญี่ปุ่นอีกคนของนางพรชนก ไชยะปะ ซึ่งตกบันไดเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำเมื่อปี 2546 เข้าพบตำรวจสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ขอให้รื้อคดีใหม่ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.

         ลูกสาวผัวเก่าชาวญี่ปุ่นของ'พรชนก' โผล่ร้องตร.รื้อคดี ไม่เชื่อพ่อตกบันได ตายเองเมื่อปี 2546 ระบุก่อนเกิดเหตุ พ่อบอกว่าพรชนกพาไปทำประกันชีวิต ผ่านไปแค่ 2 สัปดาห์พ่อเสียชีวิตโดยเมียอ้างโรคหัวใจกำเริบและเมาจนเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นรีบเผาศพและไปเบิกเงินประกันก่อนหายตัวไปทันที ส่วนคดีฆ่าหั่นศพครูญี่ปุ่น ตร.แจ้งข้อหาหนัก 2 ผัวเมีย พร้อมคุมตัวมาแถลงข่าว'พรชนก'ยังปฏิเสธอ้างครูญี่ปุ่นป่วยตายเองที่บ้าน แต่ทำอะไรไม่ถูกเลยเรียกผัวเก่ามาช่วยเหลือ ด้านผัวแท็กซี่ก็อ้างความรู้น้อยและกลัวมีความผิดจึงตัดสินใจหั่นศพยัดถุงปุ๋ยนำไปโยนทิ้งน้ำ เตรียมนำไปทำแผนฯและส่งฝากขังต่อศาลอาญา
       จากกรณีนายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี สัญชาติญี่ปุ่น อาชีพครูสอนภาษาญี่ปุ่น หายตัวไปลึกลับทำให้นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ ลูกชายบินจากญี่ปุ่นมาตามหา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าพัวพันถึงนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี สาวคนสนิทกับนายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี สามีเก่า ซึ่งขโมยบัตรเอทีเอ็มของนายโยชิโนริไปกดเงินถึง 7 แสนบาท จึงเข้าจับกุมไว้ได้และเค้นสอบ สุดท้ายผู้ต้องหาสารภาพว่าฆ่าหั่นศพนายโยชิโนริ นำใส่ถุงปุ๋ย 4 ใบโยนทิ้งคลองนางทิ้ม ซอยนวมินทร์ 16 หลังมหาวิทยาลัยเอแบค บางนา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สามารถงมชิ้นส่วนขึ้นมาได้นั้น

แจ้งข้อหาหนักฆ่าครูญี่ปุ่น
       ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ต.ค. พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดาผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมาย ส่วนรักษาความสงบ คสช. คุมตัวนายสมชาย และนางพรชนก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.1875-1876/2557 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพมาแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 
          โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่นำตัว 2 ผัวเมียไปให้พ.ต.ท.นพ.ปกรณ์ วะศินรัตน์ นายแพทย์ (สบ 3) สถาบันนิติเวชฯ ร.พ.ตำรวจ ตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ตร.-ทหารร่วมกันจับได้


โฉมหน้า - พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. แถลงข่าวการดำเนินคดีนางพรชนก ไชยะปะ และนายสมชาย แก้วบางยาง ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพนายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูชาวญี่ปุ่น ที่บช.น. เมื่อวันที่ 23 ต.ค.

        พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่สนใจของสื่อมวลชน และอาจส่งผลกระทบความสัมพันธ์และความมั่นคงระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ประสานความร่วมมือกันเพื่อออกติดตามคนร้ายในคดีนี้ ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่านางพรชนกน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริ จึงได้ออกสืบสวนติดตามตัวมาตลอด จนกระทั่งทราบว่าได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพักใน จ.อ่างทอง พร้อมกับนายสมชาย สามี ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ต.ค. เจ้าหน้าที่ทหารได้พบตัวทั้งสองจึงอาศัยอำนาจตามกฎหมายเชิญตัวมาเพื่อซักถามข้อเท็จจริง

"พรชนก"อ้างป่วยตายเอง
        นางพรชนกให้การว่า รู้จักกับนายโยชิโนริ มานานกว่า 10 ปีแล้ว ตอนนั้นทำงานอยู่ที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ส่วนนายโยชิโนริมาใช้บริการเป็นประจำ วันเกิดเหตุ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาพากันไปเที่ยวบางแสน ขากลับนายโยชิโนริมีอาการป่วยจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางนา 2 ต่อมานายโยชิโนริก็บอกว่าอาการดีขึ้นแล้วอยากจะออกจากโรงพยาบาล ซึ่งนายโยชิโนริ เป็นผู้เซ็นชื่อขอออกจากร.พ.ไปเอง ซึ่งปกติจะไปส่งที่รถไฟฟ้าสถานีอุดมสุข ก่อนเปลี่ยนใจพาไปที่บ้านพักหมู่บ้านออร์คิด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ แต่มาถึงบ้านไม่นานอาการก็กำเริบขึ้นอีก จนกระทั่งพบว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนบัตรเอทีเอ็มที่กดเงินนั้นนายโยชิโนริเป็นผู้มอบให้ โดยบอกว่าเขาป่วยเป็นโรคอยากให้ช่วยดูแล

ผัวแท็กซี่สารภาพ-หั่นศพ
        ด้านนายสมชายรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุกำลังขับรถแท็กซี่อยู่ นางพรชนก โทรศัพท์มาตามให้ไปที่บ้าน เมื่อไปถึงพบนางพรชนกนั่งร้องไห้และบอกมีชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตอยู่ข้างบนชั้นสองของบ้าน จึงขึ้นไปดูและจับชีพจรก็พบว่าไม่หายใจแล้ว จึงสอบถามนางพรชนกว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่นางพรชนกบอกไม่รู้ และก็กลัวความผิด จึงตัดสินใจให้ไปรอข้างล่าง ส่วนตนลากศพนายโยชิโนริเข้าไปในห้องน้ำใช้มีดเดินป่าและค้อนหั่นศพเป็นชิ้นเล็กๆ บรรจุลงใส่ถุงปุ๋ย 4 ถุง นำใส่ท้ายรถแท็กซี่ไปโยนทิ้งคลอง

อ้างเรียนน้อยไม่รู้ทำผิด
        "ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแต่ว่าจะต้องทำให้เสร็จเร็วๆ เพราะกลัวจะมีคนมาเห็น โดยเริ่มทำตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึงกลางดึก หลังจากนั้นก็นำศพใส่ในรถแท็กซี่และหาจุดทิ้งศพเพื่ออำพรางคดี ผมจัดการหั่นศพเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น พร้อมทั้งอยากจะฝากขอโทษญาติของนายโยชิโนริด้วย ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมแจ้งความเพราะจบการศึกษาแค่ ป.6 และไม่รู้กฎหมาย ขับแต่รถแท็กซี่อย่างเดียว" นายสมชายให้การ

"พรชนก"ขอโทษลูกครู
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าวนางพรชนกนั่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พูดจาให้การวกวนไปมา และไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ยังมี ข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่อยากพูดถึง แต่อยากฝากขอโทษลูกชายของนายโยชิโนริด้วย ซึ่งไม่กล้าบอกความจริงว่าพ่อเขาเสียชีวิตนานแล้ว และกลัวว่าจะมีความผิดด้วย

       พร้อมกันนี้นางพรชนกกล่าวถึงสามีเก่าคือนายคาชิโตชิ ทานากะ สามีคนที่ 2 ซึ่งตกบันไดเสียชีวิต โดยทิ้งเงินประกันชีวิตไว้จำนวนมากว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าเคยทำประกันไว้ เพิ่งจะมาทราบในภายหลัง โดยน้องชายของสามีเก่านำกรมธรรม์ของบริษัทประกันที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้ และแบ่งเงินกันตามสัดส่วนทั้งลูกชายและน้องชายของอดีตสามี โดยตนได้เงินส่วนแบ่งประมาณ 2 ล้านบาท

ผลดีเอ็นเอชัดศพครูญี่ปุ่น
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ 10 เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ขณะเดียวกันแต่งตั้งให้พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ 10 กลับไปดูสำนวนคดีเก่าๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีญี่ปุ่นที่หายตัวไปอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ว่าจะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้หรือไม่

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวด้วยว่า ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากกลุ่มงานตรวจชีววิทยา สพฐ.โดยดีเอ็นเอของนายโยชิโนริ เทียบเคียงกับบุตรชายอย่างเป็นทางการยืนยันว่าชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกพบในคลองจำนวน 4 ถุง เป็นของนายโยชิโนริจริง สอดคล้องตามคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุ

ส่งตัวให้ท้องที่ดำเนินการต่อ
ต่อมาพล.ต.ท.เรืองศักดิ์นำเจ้าหน้าที่คุมตัวนางพรชนก และนายสมชาย มาส่งมอบที่ สภ.บางเสาธง เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ มีพล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัฐ พ.ต.อ. สมชัย อินตาพวง รอง ผบก. พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.บางเสาธง รอรับตัว เมื่อนางพรชนก และนายสมชาย เดินลงจากรถก็ก้มหน้าตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันนักข่าวออกเพื่อนำตัวทั้ง 2 คนเข้าห้องขังโดยมีตำรวจหญิงคอยดูแลนางพรชนกอย่างใกล้ชิด

คุมตัวทำแผนฯ-ฝากขัง
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้นางพรชนกยังให้การปฏิเสธ มีเพียงนายสมชายให้การรับสารภาพ ซึ่งกำชับให้ตำรวจดูแลผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีอาการเครียดและจัดกำลังตำรวจชุด ปจ.มาคอยดูแลความปลอดภัยบริเวณโดยรอบห้องขังด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าช่วงเที่ยงวันที่ 24 ต.ค. ตำรวจจะคุมตัว 2 ผัวเมียไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุ และบริเวณจุดทิ้งถุงใส่ชิ้นส่วนศพ ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ ในช่วงเช้าวันที่ 25 ต.ค.

ลูกผัวเก่าโผล่ร้องรื้อคดี
วันเดียวกัน นางเค็กโกะ มัตตา อายุ 31 ปี ลูกสาวนายคาชิโตชิ สามีคนที่ 2 ของนาง พรชนก เดินทางมาที่ สภ.บางเสาธง เพื่อขอให้ตำรวจรื้อคดีที่บิดาตกบันไดเสียชีวิตเมื่อปี 2546 พร้อมเล่ารายละเอียดว่า บิดามีภรรยารวม 3 คน คนแรกเป็นชาวญี่ปุ่น คนที่ 2 คือแม่ของตนซึ่งเป็นคนไทย แต่ต่อมาเลิกรากันกระทั่งพ่อมาอยู่กินกับนางพรชนก จำได้ว่าก่อนเกิดเหตุพ่อโทรศัพท์มาบอกว่า นาง พรชนกพาไปทำประกันชีวิต โดยลูกๆ 6 คนจะได้รับคนละ 1 ล้านบาทหากบิดาเสียชีวิต จากนั้นราว 2 สัปดาห์ก็เกิดเรื่องขึ้น

ไม่เชื่อเมาตกบันไดตาย
นางเค็กโกะกล่าวอีกว่า สอบถามนางพรชนกอ้างว่าบิดาเป็นโรคหัวใจและเมาจนตกบันไดเสียชีวิต รวมทั้งยังนำเอกสารที่เป็นภาษาญี่ปุ่นมาให้เซ็นโดยที่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเอกสารอะไร เนื่องจากเกิดและเติบโตในเมืองไทย ก่อนที่นางพรชนกจะรีบจัดงานศพและเผาทันที ตอนนั้นแม้จะติดใจในพฤติกรรมของนางพรชนก เนื่องจากทราบว่าพ่อไม่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ และเป็นคนไม่ดื่มเหล้าจนเมาไม่ได้สติด้วย แต่ด้วยความที่เพิ่งจะอายุ 20 ปี จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"หลังจากจัดงานศพแล้วนางพรชนกไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย จึงตัดสินใจสอบถามไปที่บริษัทประกันทราบว่านางพรชนกติดต่อขอ รับเงินประกันไปหมดแล้ว และหายตัวไปเลย จึงอยากให้ตำรวจช่วยรื้อคดีบิดาขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง เพราะยังสงสัยว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง" นางเค็กโกะกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!