WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8763 ข่าวสดรายวัน


สมยศโชว์'พันล.'หลักฐาน พงศ์พัฒน์เครียด วืดประกัน-คุมเค้นต่อ ส่ง 5 ตำรวจเข้าเรือนจำ รวบอีก 2 ร่วมฟอกเงิน 'ชูวิทย์'โพสต์ย้ำบ่อน รัชดาฯ-อ้างเบื้องสูง

ฝากขัง- พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ขณะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลอาญา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ก่อนถูกคุมตัวไปสอบสวนต่อ ส่วนอีก 5 คนส่งขังเรือนจำ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.

       ฝากขัง 'บิ๊กกิ๊ก'พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ พร้อมตำรวจรวม 6 นาย ก่อนส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่แยกพงศ์พัฒน์ไปสอบสวน เพิ่มเติม ขณะที่ผกก.ตม.-ภรรยาได้ประกันชั้นพนักงานสอบสวน เหตุข้อหาเบาทำผิดฐานบุกรุกแผ้วถางป่า ด้านผบ.ตร.สั่งตั้งคกก.สอบสวนเอาผิด 7 ตำรวจ เตรียมแถลงแจงคดี-โชว์หลักฐานยึดเงินพันล้าน ตร.จับเพิ่มอีกผัวเมียร่วมทีม เป็นนอมินีร่วมฟอกเงิน 'ไพบูลย์' รอตร.ประสานช่วยสอบเส้นทางเงิน ด้านชูวิทย์โพสต์อัดบ่อนอ้างเบื้องสูง

       จากกรณีศาลอาญาออกหมายจับพล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนหรือประโยชน์อื่นใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 149 นอกจากนี้ออกหมายจับตำรวจอื่นๆ ที่เกี่ยว ข้องอีก 6 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก., พล.ต.ต. บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผบก.รน., พ.ต.อ. วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อดีตผกก.4 ปคบ., พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล อดีตผกก.ตม.สมุทรสาคร, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา อดีตผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. และด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง อดีตผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. กับพลเรือนอีก 3 คน ประกอบด้วย นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล, นางสวงค์ มุ่งเที่ยง และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช รวมเป็น 10 คน ขณะที่พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป. ที่เพิ่งเสียชีวิตจากการตกจากที่สูงเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ด้วย
      ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าควบคุมตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวกรวม 8 คน ก่อนแยกไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพ พร้อมรอเตรียมนำตัวไปฝากขัง โดยยังมีพลเรือนหลบหนีอีก 2 คน จากนั้นมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นายออกจากราชการไว้ก่อน และจ่อตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ส่วนผู้การกองปราบฯ รอด เพราะให้การเป็นประโยชน์และไม่เกี่ยวข้องกับคดี นอกจากนี้มีกำลังอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พบเงินสดนับพันล้านบาทซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟหลายใบ พร้อมยึดโฉนดที่ดินและพระเครื่องจำนวนมาก รวมมูลค่าเฉียดหมื่นล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

'สมยศ'สั่งตั้งคกก.สอบสวน
       ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งเลขที่ 633/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ด้วยตามที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ปฏิบัติราชการศปก.ตร. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน. ปฏิบัติราชการศปก.ตร. พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 ปคบ. ปฏิบัติราชการศปก.ตร. ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. และด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ต้องคดีอาญาฯแล้ว และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งตร.ที่ 632/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557
       ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในพ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 86 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธานกรรมการ พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.จักกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ รองจเรตำรวจ (สบ 7) พล.ต.ต.ไพบูลย์ อุดมสินค้า ผบก.กต.9 จต. พ.ต.อ.ชยธวัส เสาวนะ รอง ผบก.กต.9 จต. เป็นกรรมการ พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤติยา ผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 เป็นกรรมการและเลขานุการ พ.ต.ท.วณัฐพงศ์ ชาลประเสริฐ สว.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 จต. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

'ผกก.ตม.'ก็โดนสอบด้วย
      ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม. มีคำสั่งเลขที่ 257/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพนักงานสอบสวน พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล ผกก.ตม.สมุทรสาคร บก.ตม.3 สตม. ประกอบด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบก.ตม. พ.ต.อ.วีรยศ การุณธร ผกก.กองกำกับการบริการคนต่างด้าว บก.ตม.3 พ.ต.ท.ณภัทรพงศ สุภาพร รองผกก.กองกำกับการบริการคนต่างด้าว บก.ตม.3 เป็นกรรมการ พ.ต.ท.ยุทธนา ราชจันทร์ สว.ตม.จว.นครปฐม บก.ตม.3 เป็นกรรมการและเลขานุการ และร.ต.อ.นพรัตน์ ศิริมุสิกะ รอง สว.ตม.จว. นครปฐม บก. ตม.3 เป็นผู้ช่วยเลขานุการ 
     ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการทั้ง 2 คณะ ดำเนินการสอบสวนพิจารณา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎก.ตร. ว่า ด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2557 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาต่อไป
      หากคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดวินัยร้ายแรงในเรื่องอื่น นอกจากที่ระบุในคำสั่งนี้หรือกรณีที่การสอบสวนไปพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการมีความเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนกระทำความผิดในเรื่องที่สอบสวนนั้น ให้ประธานรายงานมาให้ทราบโดยเร็วที่สุด


วืดประกัน- พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. หนึ่งในผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมพวกรวม 6 คน ถูกคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

จับเพิ่มผัวเมียร่วมฟอกเงิน
       ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายชอบ และนางปิยพรรณ ชิณประภา สองสามีภรรยา ในข้อหาเป็น เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์และสามารถจับกุมตัวได้แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา นับเป็นผู้ต้องหาคนที่ 11 และ 12 ที่ถูกจับกุมในคดีเดียวกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมข้าราชการตำรวจและพลเรือนรวม 10 คน ที่ร่วมกันกระทำผิดหลายข้อหาหนัก รวมทั้งความผิด ม.112 และเรียกรับสินบน
      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 คน แยกเป็นตำรวจ 7 นายที่ถูกคุมตัวตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนพลเรือนอีก 5 คน แยกเป็นนางสวงค์ มุ่งเที่ยง และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช ที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดถูกควบคุมตัวได้แล้วที่จ.เชียงราย และกำลังนำตัวมาดำเนินคดี นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ภรรยาพ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกป่า เพิ่งเข้ามอบตัวในวันนี้ สุดท้ายคือนายชอบและนางปิยพรรณ ชิณประภา สามีภรรยา ที่ร่วมกระทำผิดกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ในความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 และ 5 โดยมีพฤติการณ์เป็นนอมินี ด้วยการนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอก ส่วนนางสวงค์และนายเริงศักดิ์ ทำร้านค้าของเก่า งาช้างและสัตว์ป่า ซึ่งพัวพันกับของกลางที่ยึดได้
       พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีพล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ อดีตผบก.ป. ซึ่งถูกย้ายในช่วงเวลาเดียวกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แต่ไม่ปรากฏชื่อถูกออกหมายจับดำเนินคดี เนื่องจากพยานหลักฐานสาวไปไม่ถึง เบื้องต้นผบ.ตร.ลงนามคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการตำรวจทั้งหมด โดยให้ได้ผลการสอบสวนภายใน 30 วัน 

คุมเข้ม"พงศ์พัฒน์"พร้อมพวก
      สำหรับ การนำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมข้าราชการตำรวจและพลเรือนไปฝากขังต่อศาลผัดแรก เบื้องต้นกำหนดการเดิมจะนำตัวทั้งหมดไปฝากขังในช่วงเช้า แต่ได้เลื่อนเวลาฝากขังเป็นช่วงบ่ายแทน 
        โดยเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่นำตัวพล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ พร้อมข้าราชการตำรวจและพลเรือน นั่งรถตู้ตำรวจติดฟิล์มดำทึบ รวม 7 คัน ขับทยอยเข้ามาบริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าอาคารกองกำกับการอารักขา 2 ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยมีตำรวจชุดอารักขาควบคุมฝูงชนและชุดสืบสวนประมาณ 50 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไป ซึ่งรถตู้ทั้งหมดจอดเรียงกันและติดเครื่องอยู่นานหลายชั่วโมง
      กระทั่งเวลา 15.00 น. รถตู้ 4 คัน ได้ขับออกจากลานอเนกประสงค์ไปบริเวณประตูหน้าอาคารวังปารุสกวัน เลี้ยวซ้ายออกถนนศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางเทเวศร์ โดยมีรถของเจ้าหน้าที่คุ้มกันปิดหัวท้ายขบวนอย่างแน่นหนา ถัดจากนั้นเพียง 5 นาที รถตู้อีก 3 คันได้ขับออกไปทางถนนศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางพญาไท

ฝากขังล็อตแรก-ค้านประกัน
      ต่อมาเวลา 15.30 น. พนักงานสอบสวน บช.น. ควบคุมตัวพ.ต.อ.วุฒิชาติ ด.ต.สุรศักดิ์ คนขับรถของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ด.ต.ฉัตรินทร์ ผู้ต้องหาคดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149 และ 157 และนางสวงค์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 และ 47 พร้อมนายชอบและนางปิยพรรณ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ซึ่งเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. -5 ธ.ค.2557 เนื่องจากยังสอบปากคำพยานไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งยังต้องรอผลตรวจประวัติ ผู้ต้องหาและอื่นๆ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษร้ายแรง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
    ทั้งนี้ เมื่อจะดำเนินการต่อศาลปรากฏว่า ในส่วนของนายชอบและนางปิยพรรณ พนักงานสอบสวนยังทำสำนวนคำร้องไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองกลับไปควบคุมตามกฎหมาย ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้เป็นเวลา 48 ช.ม.ก่อน และจะนำตัวมา ยื่นคำร้องฝากขังอีกครั้งในวันที่ 25 พ.ย.
     ขณะที่ศาลได้พิจารณาคำร้องฝากขังพ.ต.อ. วุฒิชาติ ด.ต.สุรศักดิ์ ด.ต.ฉัตรินทร์ และนางสวงค์ ผู้ต้องหาทั้งสี่แล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ 
      ถัดมาเวลา 16.30 น. ญาติของนางสวงค์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ มูลค่า 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และระหว่างรอการพิจารณาศาลออกหมายขังส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


ฝากขัง- พนักงานสอบสวนบช.น.นำตัวผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ทั้งตำรวจและพลเรือน มาศาลอาญาเพื่อฝากขัง พร้อมคัดค้านประกัน ซึ่งศาลอนุญาต จึงนำตัวส่งเรือนจำทันที เมื่อวันที่ 24 พ.ย.

      พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบก.อคฝ. บช.น. กล่าวหลังนำตัวมาฝากขังว่า วันนี้รับมอบหมายให้นำตัวผู้ต้องหามาฝากขังเพียง 4 คน ส่วนที่เหลือได้รับแจ้งจากตร. ว่าไม่ประสงค์จะนำตัวผู้ต้องหามาฝากขัง ต่อศาล เข้าใจว่าคงได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนแล้ว

ดอดนำ'พงศ์พัฒน์'มาอีกรอบ
      จากนั้นเวลา 17.45 น. พนักงานสอบสวน บช.น. นำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พล.ต.ต.โกวิทย์ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ, เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ, เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149 และ 157 และพล.ต.ต.บุญสืบ ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 โดยใช้รถตู้สีขาว 3 คัน มีรถวิทยุ 191 นำหน้าและปิดท้ายขบวน
      ขณะที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งสวมชุดลำลองเสื้อคอกลมสีขาว มีสีหน้าเคร่งเครียด เดินลงจากรถตู้มาคนแรกและถูกคุมตัวเข้าห้องพิจารณาฝากขังทันที โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2553 - 11 พ.ย.2557 ขณะที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผบช.ก. มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ได้สมรู้ร่วมคิดกับพล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิ่มรัตน์ อดีตผกก.1 ป. และพ.ต.อ.วุฒิชาติ เรียกรับเงินจากข้าราชการตำรวจที่ประสงค์จะไปดำรงตำแหน่งสำคัญๆ รายละ 3-5 ล้านบาท เพื่อที่จะไปรับตำแหน่ง โดยจะส่งเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาเป็นรายเดือน รวมแล้วเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท
      ส่วนพล.ต.ต.บุญสืบ พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2554 - 18 ก.ค.2557 ขณะที่ผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง มีการเรียกเก็บเงินค่าส่วยน้ำมันเดือนละ 1-2 ล้านบาท ส่งเงินให้กับพล.ต.ต.โกวิทย์ 35 ล้านบาท และส่งเงินให้กับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นเงิน 118 ล้านบาท 
       ขณะที่พล.ต.ต.โกวิทย์ พนักงานสอบสวนระบุว่า มีพฤติการณ์เปิดบ่อนการพนัน (ถั่วครอบ) ย่านห้วยขวาง โดยร่วมกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แอบอ้างว่าจะนำเงินไปถวายให้สถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย พนักงาน สอบสวนยังจะต้องสอบปากคำพยานกว่า 50 ปาก รอผลการตรวจประวัติผู้ต้องหา จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. -5 ธ.ค.2557 โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสอนได้คัดค้านการประกัน เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพนักงานสอบสวน

พ.ต.อ.โกวิท-เมียได้ประกัน
       ถัดมาเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย พล.ต.ต. โกวิทย์ พล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.วุฒิชาติ ด.ต.สุรศักดิ์ ด.ต.ฉัตรินทร์ ไปควบคุมตัว ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนนางสวงค์ เจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุมตัวต่อที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เจ้าหน้าที่ได้พาขึ้นรถตู้ตำรวจ เพื่อนำตัวไปสถานที่พิเศษแห่งหนึ่ง
       พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ กล่าวว่า หลังศาลอนุญาตฝากขังแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไปสอบสวนต่อยังสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง โดยไม่ระบุพื้นที่ว่าจะนำไปที่ใด ซึ่งหลังจากสอบสวนเสร็จแล้วจะส่งไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป 
      ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ประกันตัว 2 คน คือ พ.ต.อ. โกวิท และนางสุดาทิพย์ ภรรยา เนื่องจากทั้งคู่ทำผิดในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่า รุกล้ำลำธาร สร้างอาคารในลำคลองเท่านั้น จึงให้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวน 

เรือนจำสั่งดูแลเข้มบิ๊กตร.
        นายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึงขั้นตอนการรับตัวและมาตรการดูแลผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจว่า ตามขั้นตอนปกติหลังรับตัวผู้ต้องขังแล้วทั้งหมดจะถูกทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องขังใหม่ และส่งตัวเข้าแดนแรกรับ โดยการดูแลระยะแรกจะจำกัดพื้นที่เฉพาะให้อยู่รวมกันทั้งหมดในห้องที่มีกล้องวงจรปิด เพื่อจับตาความเคลื่อนไหว และสั่งห้ามไม่ให้ ผู้ต้องขังอื่นเข้าใกล้ โดยเฉพาะผู้ต้องขังคดีอาญาทั่วไป เพื่อป้องกันเหตุร้าย เพราะขณะนี้ไม่ทราบว่าผู้ต้องขังรายใดที่ถูกจับกุมโดยตำรวจเหล่านี้บ้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องขังจะถูกคุมขังในแดนแรกรับประมาณ 7-15 วัน ก่อนจำแนกไปแดนที่เหมาะสม ในช่วงแรกรับจะไม่มีกิจกรรมใดๆ ให้ทำเป็นพิเศษ เพราะอยู่ระหว่างฝากขังตามคำสั่งศาล สำหรับญาติสามารถ เข้าเยี่ยมได้ปกติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป
      ด้านนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นพิเศษ เพราะการดูแลผู้ต้องขังเป็นหน้าที่ปกติของเรือนจำ ดังนั้นความเหมาะสมในการจัดการดูแลได้ให้ผบ.เรือนจำเป็นผู้ตัดสินใจ รวมถึงการจัดว่าจะให้ผู้ต้องหาอยู่รวมกันหรือแยกขัง อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังคดีดังกล่าว ถือเป็นอดีตนายตำรวจที่มีชื่อเสียง ทำให้อาจต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องความปลอดภัย เพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังอื่นที่เคยถูกตำรวจเหล่านี้จับกุมมีโอกาสเข้ามาทำร้ายได้ 

บิ๊กอ๊อดโชว์หลักฐาน-ยึดพันล้าน
      ที่บช.น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ปทส. พร้อมนายตำรวจอีกหลายนาย เดินทางมาหารือถึงคดีดังกล่าว
      พล.ต.อ.สมยศกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เตรียมแถลงข่าวกรณีดำเนินคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมพวกในวันที่ 25 พ.ย. เวลา 10.30 น. ที่ตร.
      ขณะที่พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ในการแถลงข่าวเตรียมนำภาพของกลางเป็นกองเงินนับพันล้านบาทที่ตรวจยึดมาได้มาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย

ไพบูลย์รอตร.ประสานสอบเงิน
      ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แล้วพบเงินสดและทรัพย์สินเกือบหมื่นล้านบาทว่า เบื้องต้นทราบข้อมูลตามที่เป็นข่าว ส่วนที่พบทรัพย์สินในบ้านพักของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์นั้น ตร. สามารถจัดการเองได้ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานป.ป.ง. จะเข้าไปตรวจสอบที่มาที่ไปและเส้นทางการเงินหรือสินทรัพย์ทั้งหมดหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะต้องการข้อมูลที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ รวมทั้งตร. ยังไม่ประสานมา แต่ยอมรับก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รายงานให้ทราบว่ามีข้าราชการบางกลุ่ม ร่วมมือกับเอกชนทำธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน แต่ไม่ได้ระบุลึกว่าเป็นข้าราชการกลุ่มใด กระทั่งล่าสุดทราบเป็นกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายภาคใต้ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ด้วย 
      พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า ส่วนดีเอสไอจะรับคดีที่พบทรัพย์สินในบ้านพักของพล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ หรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าเข้าข้อกฎหมายและคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษของดีเอสไอหรือไม่
      ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ตำรวจดำเนินการอยู่ ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ คงให้ความชัดเจนได้ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติงานของผบ.ตร. ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนที่มองว่าเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจนั้น เป็นเรื่องคนกลุ่มเดียว ซึ่งต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไปว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ตนคงไม่พูดอะไรล่วงหน้าไม่ได้

ชูวิทย์ โพสต์เย้ยบ่อนอ้างเบื้องสูง
      วันเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I"m No.5" โดยมีเนื้อหาระบุว่า "บังอาจ แอบอ้างเบื้องสูง บ่อนพระราม 9 หรือบ่อน โคลอนเซ่ ที่ตั้งอยู่ในอาบอบนวดโคลอนเซ่ ถนนพระราม 9 เคยเป็นบ่อนใหญ่ในอดีต เปิดอยู่เกือบปี มีเงินสะพัดหมุนเวียนเกือบ หมื่นล้าน 
       อำนาจของเงินบันดาลได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว บังอาจแอบอ้างเบื้องสูง ทำให้ไม่มีใครกล้าไปยุ่ง จนเหิมเกริมคิดการใหญ่ขยายกิจการเพราะที่เก่าคับแคบ ไปเปิดอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก เรียกว่า "บ่อนรัชดา" ผมเป็นผู้นำไปอภิปรายในสภา ในวันแถลงนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยที่ใหม่เปิดได้ยี่สิบกว่าวัน ประจวบเหมาะกับผมเพิ่งเป็นส.ส. จึงส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวแอบถ่ายเป็นคลิปออกมาเปิดเผย เพราะผมไม่เชื่อ จึงกล้านำมาพูด หากผมเชื่อ คงจะเงียบเหมือนคนอื่นๆ 
     "แก๊งกิ๊ก-โก" มั่นใจในการแอบอ้างว่าไม่มีใครกล้าแตะต้อง เขารู้กันทั้งวงการ แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง แม้แต่คนขายลอตเตอรี่หน้าบ่อนยังรู้ว่าอ้างใคร? แต่คนบ้าอย่างผมเชื่อว่าไม่จริง จึงขอลองของเสียหน่อย
      ผมชกลมอยู่หลายปี ท้ายสุด สวรรค์มีตา เทวดาไม่ตกสำรวจ ความจริงปรากฏ แต่ขอ บอกว่าไม่ใช่มีเท่านี้ ข้อมูลของผมยังเก็บงำเป็นปริศนาที่รอการสานต่อ ให้รู้เสียบ้างบ้านเมืองนี้ใครคุ้มครอง และอยู่ได้เพราะใคร ต่อไปไอ้พวกชอบอ้างระวังไว้ให้ดี"

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!