Details

Category: อาชญากรรม

Published: Sunday, 05 July 2015 22:57

Hits: 7336

'เจ๊รัศมี'รับ 80 ล้าน ไปลงทุน ไม่ได้บอกสมยศ จนทะเลาะกันแต่ไม่ถึงตบตี ทำรง.น้ำผลไม้-ลูกเลี้ยงคุม ในไดอารี่ระบุกำลังขายทิ้ง!

     ยอมรับทะเลาะกันจริง แต่ไม่รุนแรง'เจ๊รัศมี' เผยมีความขัดแย้งกับ'เสี่ยสมยศ'เรื่องนำเงิน 70-80 ล้านไปลงทุนทำโรงงานน้ำผลไม้โดยไม่ได้บอกกล่าวจริงๆ เป็นเหตุให้สมยศโกรธมาก แต่ไม่ได้ตบตีกัน ส่วนโรงงานนี้ก็ให้ "ณัฐ"ลูกเลี้ยงเป็นคนดูแล ส่วนลูกสาวยอมรับว่าพ่อแม่ทะเลาะกันจริง ทำท่าจะบีบคอ แต่ได้ห้ามปรามไว้ทัน ปฏิเสธไม่เชื่อว่าน้องชายต่างแม่เป็นคนฆ่า แต่ยอมรับว่าน้องกับพ่อไม่พอใจกันจริง ตร.ตรวจไดอารี่สมยศ พบไม่พอใจเรื่องโรงงาน เตรียมขายทิ้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ไม่งั้นตัดพ่อตัดลูกกัน สุดท้ายมาถูกยิงตายเสียก่อน ขณะที่ตร.เรียกเจ๊รัศมี-ลูกสาวสอบรอบที่ 4 ส่วน'ณัฐ'ลูกที่เกิดกับนักร้องคาเฟ่นั้นต้องเรียกมาสอบเช่นกัน เพราะพบว่า มีอยู่ในปัญหาขัดแย้งด้วย

วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8985 ข่าวสดรายวัน

  เค้นเพิ่ม - พนักงานสอบสวนเชิญนางรัศมี และน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร เมียและลูกสาวนายสมยศ สุธางค์กูร และทนายความ 3 คน ที่ใกล้ชิดกับนายสมยศมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก ที่ศูนย์สืบสวน บช.น. เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

    จากคดีมือปืนบุกยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่เมืองหลวง เสียชีวิตขณะ ขึ้นรถเบนซ์บริเวณลานจอดรถร้านหูฉลาม ย่านสวนหลวง กทม. ต่อหน้าภรรยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องทวงเงิน 24 ล้าน เรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ ก่อนจะขมวดปมมุ่งน้ำหนักไปยังบุคคล ใกล้ชิด ล่าสุดตำรวจตรวจสอบไดอารี่ของนายสมยศ พบประเด็นคนใกล้ตัวนำเงิน 80 ล้านไปลงทุนแล้วเจ๊ง สร้างความไม่พอใจจนขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ขณะที่ตำรวจเพิ่มน้ำหนักให้ประเด็นคนใกล้ชิด เนื่องจากวิเคราะห์เชื่อมกับที่มือปืนมั่นใจไปรอลั่นไกที่ร้านหูฉลามนานถึง 5 ช.ม. แสดงว่าต้องได้รับสัญญาณชัดเจนจากคนใกล้ชิดเหยื่อ อย่างไรก็ตาม น.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร ลูกสาวนายสมยศยังระบุว่าสงสัยน้องชายต่างมารดาอาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

สอบ"เมีย-ลูกสมยศ"เป็นครั้งที่ 4

   เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 4 ก.ค. ชุดคลี่คลายคดีซึ่งมีพล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ได้เชิญนางรัศมี สุธางค์กูร และน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร ภรรยาและลูกสาวนายสมยศ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการสอบปากคำเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยมีนายเดชา ทองสุข อายุ 38 ปี นายอนิรุต พิริยศักดิ์มนตรี อายุ 38 ปี และนายสุธรรม จริตงาม อายุ 38 ปี ทนายความ 3 คนซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายสมยศ ผู้ตายเข้ามา สอบปากคำด้วย

ลูกสาวไม่เชื่อน้องต่างแม่จะเกี่ยว

     น.ส.ณัฐธิดาเปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในเรื่องที่มีข่าวว่าตนสงสัยนายณัฐพล กันทะยอม ลูกชายต่างมารดาว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อนั้น ตนยอมรับว่ามีเรื่องไม่ค่อยถูกกันกับลูกชายของพ่อคนนี้จริง เนื่องจากครั้งแรกที่เคยเจอหน้ากันเมื่อ 4-5 ปีก่อนนั้น น้องชายเคยพูดว่าโกรธพ่อ ซึ่งอาจจะมาจากความน้อยใจที่พ่อไม่เคยบอกว่ามีลูกชายคนนี้มาก่อน ตอนพ่อโทร.ไปก็ปิดเครื่องหนี ไลน์ไปหาก็บล็อกไลน์พ่อทิ้ง แต่วันเกิดเหตุน้องชายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และบอกตำรวจว่าเป็นลูกชายของพ่อ ตำรวจจะให้ขับรถของพ่อไปก็บอกว่าขับรถไม่เป็นทั้งๆ ที่เคยมาขับรถให้แม่ตนตอนเดินทางไปไหนมาไหน ถึงแม้ว่าน้องชายนั้นไม่ค่อยเคารพพ่อ แต่คงไม่ถึงขั้นที่จะคิดฆ่าพ่อได้ ส่วนคนที่จะคิดฆ่าพ่อนั้นตนตอบไม่ได้ ต้องรอให้พยานหลักฐานนั้นชี้ชัดเสียก่อน

ยอมรับพ่อแม่เคยทะเลาะรุนแรง

น.ส.ณัฐธิดาเปิดเผยต่อว่า เรื่องประเด็นที่ว่ามีความขัดแย้งกันในบ้านเมื่อปี "56 นั้น ยอมรับว่ามีปัญหากันจริง พ่อแม่ทะเลาะกัน แต่ไม่ถึงขั้นที่พ่อจะลงมือทำร้ายแม่จนได้รับบาดเจ็บ มีแต่ใช้คำพูดแรงๆ พ่อแม่ไม่เคยทะเลาะกันโดยที่ตนไม่เห็น ส่วนใหญ่ตนจะอยู่ด้วยตลอด มีแค่พ่อจะตรงเข้ามาบีบคอ แต่ไม่ถึงกับขาดสติ และตนก็ได้ห้ามไว้ ซึ่งตนก็หงุดหงิดที่พ่อแม่ทะเลาะกันไม่จบเสียที เคยบอกพ่อแม่ว่าให้หยุดเสียที ซึ่งหลังจากนั้นที่บ้านก็ไม่มีปัญหาอะไรกันอีก

น.ส.ณัฐธิดากล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่าพ่อเสียพนันหนักจำนวนมากนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ค่อนข้างจะบวกเยอะด้วย ยอมรับว่าพ่อเป็นคนชอบเล่น เคยเห็นวางมากที่สุด 5 แสนบาท แต่ก็ไม่ใช่ทุกตา ทั้งนี้ พ่อของตนค่อนข้างจะเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในการเล่น เช่นบอกว่าจะเลิก 4 โมง ก็คือ 4 โมงตรง ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยชวนพ่อเปิดบ่อนการพนัน เพราะเห็นว่าเป็นคน ดวงดี แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน แต่พ่อของตนก็ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากรับความเสี่ยง 

เมียก็ไม่เชื่อลูกชายจะเกี่ยวข้อง

น.ส.ณัฐธิดาเปิดเผยต่อว่า ร้านอาหารที่เกิดเหตุนั้นเป็นร้านที่พ่อไปกินเป็นประจำ ถ้าไปกินกันเองก็ไม่เคยจอง แต่ถ้านัดผู้ใหญ่เอาไว้ก็จะมีการจองโต๊ะ ปกติพ่อจะไปกินข้าวนอกบ้านแค่ 2 ร้านเท่านั้น คือร้านเฮงหูฉลาม กับร้านเหลาเหลาซอยอารีย์ เพราะพ่อเป็นคนไม่ชอบกินอะไรใหม่ๆ เคยพาไปกินร้านอื่นก็บอกว่าไม่อร่อยไม่ถูกปาก นอกจากนี้พ่อเป็นคนที่ทำงานตอนกลางคืน ใครจะนัดอะไรก็มักจะนัดช่วงเวลา 17.00-05.00 น.เพราะติดมาตั้งแต่สมัยทำร้านคาเฟ่ ทำให้วันเกิดเหตุก็มีการนัดแพทย์เอาไว้ช่วงบ่าย

ส่วนนางรัศมีเปิดเผยว่า ประเด็นที่ว่าสงสัยลูกชายของสามีอีกคนจะมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะสามีก็เคยส่งเสียให้เรียนนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่ยังไม่จบ และให้มาช่วยงานในบริษัท ซึ่งเป็นกิจการของที่บ้าน จ่ายเงินเดือนให้รายเดือน แต่ไม่มากนัก พยายามคิดถึงความเป็นลูกอีกคนของสามี เช่นลูกสาวมีรถหรูขับ แต่ลูกชายอีกคนของสามียังนั่งรถเมล์อยู่ จึงให้เข้ามาช่วยงานที่บ้านโดยให้ช่วยทำโรงงานน้ำผลไม้อัดก๊าซที่นิคมอุตสาห กรรมบางพลี แต่พอภายหลังลูกสาวตนไม่ถูกกับลูกชายของสามีจึงให้แยกกัน โดย ให้ลูกสาวมาดูกิจการเครื่องสำอาง ส่วนลูกชายของสามีอีกคนก็ดูโรงงานน้ำผลไม้เหมือนเดิม

ทะเลาะเรื่องเงิน 70 ล.แต่ไม่รุนแรง

นางรัศมีกล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ว่าตนกับสามีทะเลาะกันรุนแรงเมื่อปี "56 นั้น ก็มาจากเรื่องการทำโรงงานน้ำผลไม้อัดก๊าซได้ลงทุนไป 60-70 ล้านบาท โดยที่ตนไม่ได้บอกให้สามีทราบ เพราะตนคิดว่าทำเพื่อครอบครัว พอสามีมารู้เรื่องภายหลังก็ทะเลาะกัน แต่ไม่ได้รุนแรงมาก และช่วงก่อนที่สามีจะเสียชีวิตนั้นสามีก็ช่วยทำกิจการที่โรงงาน คอยติดต่อเรื่องต่างๆ ให้ ยังไปบอกกับคนอื่นเลยว่าเป็นโรงงานที่สามีทำเอง ซึ่งปัจจุบันก็มีความสุขกันดีไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องบ่อนการพนันนั้น สามีเคยเข้าไปเล่นบ่อนถูกกฎหมาย ที่ปอยเปต หรือมาเก๊า ส่วนบ่อนในประเทศไทยก็เคยเข้าบ้างแต่ไม่บ่อย เหมือนเข้าไปให้รู้ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง ส่วนตนก็เคยตามไปที่บ่อนต่างประเทศบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปในบ่อนการพนันคนเดียวแต่อย่างใด

นางรัศมีเปิดเผยต่อว่า ก่อนสามีจะเสียชีวิตนั้นตนไม่ได้มีลางสังหรณ์มาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สามีก็ไม่เคยบอกว่ามีคนจะมาทำร้าย หรือให้ระวังตัว จึงไม่เคยต้องมีบอดี้การ์ด ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมสงสัยเรื่องหนี้การพนันมากที่สุดนั้น ก็เป็นเพราะได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก นายปริญญา หรือปีเตอร์ ปิยะภาค และน.ส.มุกรินทร์ หรือเรียม นิตยา น้องสาวนายสมชัย ในเรื่องฉ้อโกงเงิน พระเครื่อง แหวนเพชร ส่วนนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ นั้นกันไว้เป็นพยาน อีกทั้งยังมีเรื่องเคลียร์หนี้ เรื่องที่ดินอีก ตนจึงเชื่อว่าน่าจะมาจากสาเหตุพวกนี้ เพราะหากสามีเสียชีวิตไปเงินที่โกงไปก็ไม่ต้องใช้คืน ที่ดินก็ไม่ต้องโอน คดีความก็จบ ซึ่งวันเกิดเหตุนั้นนางก้อยก็มาที่เกิดเหตุด้วย ตนยังถามว่ารู้ใช้มั้ยว่าใครทำ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแต่ว่า "พี่ใจเย็นๆ" หลังจากนั้นตนก็ไม่มีสติแล้ว

นายเดชา ทองสุข อายุ 38 ปี ทนายความที่ใกล้ชิดกับผู้ตายเปิดเผยว่า รู้จักกับนายสมยศผ่านเพื่อนมา 2-3 ปี โดยส่วนตัวนายสมยศนิสัยดี เป็นคนรอบคอบ หากดูภายนอกคนจะมองว่านายสมยศเป็นถึงอดีตเจ้าของคาเฟ่ชื่อดัง น่าจะมีลูกน้องติดตามมากมาย แต่ความจริงแล้วเวลาไปไหนมาไหนจะขับรถเอง ไม่มีลูกน้องหรือผู้ติดตาม

บิ๊กตร.ยันเดินหน้าสอบทุกปม

ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.สมบัติเปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญภรรยาและลูกสาวผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตามที่เคยให้การไว้ถึงเรื่องกิจการ ทรัพย์สิน และรายได้จากอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องความขัดแย้งที่ทางภรรยากับลูกสาวสงสัยจนนำไปสู่การสังหารนั้น ทั้งคู่ก็ยืนยันว่ายังสงสัยในเรื่องเดิม ซึ่งทำให้ตำรวจยังไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งไป ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้มากกว่านี้เสียก่อน จึงจะสามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้ รวมทั้งเรื่องคดีความขัดแย้งอื่นๆ ที่ผู้ตายเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ภรรยาของผู้ตายยังไม่ทราบ จึงได้เชิญทนายความผู้ใกล้ชิดกับผู้ตายมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยคดีความเหล่านี้มีหลายคดี ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดที่ผู้ตายถูกว่าจ้างให้ว่าความให้ในวงเงินเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งก็มีทั้งชนะบ้าง แพ้บ้าง อาจจะเป็นสาเหตุในการสังหารผู้ตายก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องคดีความนี้ต้องขอเวลาในการสอบปากคำทนายความที่ทราบเรื่องว่ามีเรื่องใดบ้าง ซึ่งมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก 2-3 คนที่ต้องเรียกมาสอบปากคำ

เรียกสอบ"ลูกชาย-คนใกล้ชิด"หมด

พล.ต.ต.สมบัติเปิดเผยต่อว่า สำหรับเรื่องที่ผู้ตายทะเลาะกับภรรยาเมื่อปี "56 นั้น เป็นเรื่องที่ภรรยาผู้ตายนำเงินที่ผู้ตายให้ไว้ในการซื้อขายหุ้นกับทองคำ แต่ภรรยานำไปลงทุนทำโรงงานน้ำผลไม้อัดก๊าซ พอผู้ตายมารู้ในภายหลังก็มีการต่อว่ากัน แต่ก็ไม่ได้มีการลงมือทำร้ายร่างกายกัน ภรรยาก็เอากำไรที่ได้มามอบให้ผู้ตาย ในส่วนของพยาน ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด รวมถึงคนในบ้านของผู้ตายนั้น ได้เรียกมาสอบปากคำเกือบครบหมดแล้ว

"สำหรับลูกชายกับภรรยาอีกคนก็สอบปากคำไปแล้วเช่นกัน ลูกชายได้มาช่วยผู้ตายทำโรงงานผลิตน้ำผลไม้อัดก๊าซเท่านั้น ส่วนประเด็นเรื่องพินัยกรรมนั้นผู้ตายไม่ได้ทำเอาไว้ มีเพียงแค่กรมธรรม์ประกันชีวิต 2 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 6 แสนบาทเท่านั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้ตายเสียชีวิตลง ผู้ใดจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด พล.ต.ต. สมบัติกล่าวว่า ถ้าผู้ตายเสียชีวิตไปเรื่องหนี้สินก็เป็นศูนย์ไม่ต้องชดใช้ ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านนั้นคนในครอบครัวก็มีสิทธิ์ตามกฎหมาย

ต่อมาเวลา 16.00 น. ภายหลังจากที่สอบสวนเสร็จนางรัศมีกับน.ส.ณัฐธิดาเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่ อย่างใด

เช็กอีกวงจรปิดล่ากระชั้นมือปืน

วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุพัฒน์ พึ่งพวง ผกก.สส.บก.น.5 กล่าวว่า วันนี้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อประชุมความคืบหน้าของคดี ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.คลองตัน โดยตนได้นำเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5 มาร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และเจ้าหน้าที่กองปราบปราม เพื่อวางแนวทางและวิเคราะห์ความเป็นมาของคดี ซึ่งขณะนี้ก็ยังสืบสวนอยู่ในหลายๆ ประเด็น แต่จะให้น้ำหนักไปที่เรื่องคนใกล้ตัว ส่วนลูกชายนอกสมรสของนายสมยศ ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูล โดยทางชุดสืบสวนจะดำเนินการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมด ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ

พ.ต.อ.สุพัฒน์กล่าวต่อว่า ต้องไล่กล้องเริ่มจากเส้นทางที่คนร้ายใช้เข้ามาก่อเหตุและหลังเกิดเหตุ ซึ่งจะเริ่มไล่ตั้งแต่เวลา 12.00-13.00 น. ในวันเกิดเหตุ และไล่ไปจนถึงหลังเวลาเกิดเหตุ ต้องเคลียร์ให้ขาดว่าคนร้ายหายไปไหน ซึ่งจุดแรกก่อนเกิดเหตุที่พบคนร้ายคือบริเวณห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง คนร้าย 2 คนใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกัน ส่วนจุดสุดท้ายที่พบคือบริเวณซอยรามคำแหง 24 หลังเกิดเหตุคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 นาที จากนั้นคนร้ายก็หายไป ส่วนรถ จยย.ที่คนร้ายใช้เป็นรถ จยย.สภาพใหม่ ซึ่งผิดวิสัยและไม่น่าจะหนีไปไหนได้ไกลถ้าใช้รถ จยย.อาจจะมีการเปลี่ยนรถก็เป็นได้ โดยจะได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดูอีกครั้งว่าเป็นรถยี่ห้อและรุ่นอะไรกันแน่

ตรวจบัญชีเงินฝากกว่า 40 บัญชี

ด้านพล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าว่า ได้รับรายงานจากทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวน บก.สส.บช.น. ได้เชิญทนายความ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับคดีความผู้ตายเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เพื่อซักถามช่องทางข้อมูลเชื่อมโยงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินทรัพย์สินของตัวผู้ตาย ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ยังอยู่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนทยอยตรวจสอบข้อมูล โดยเฉพาะการเน้นตรวจสอบกรรมสิทธิ์การจดทะเบียนที่ดิน รถยนต์ เงินสด กรมธรรม์ประกันภัย และบัญชีเงินฝากกว่า 40 บัญชี

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเหตุข้อขัดแย้งระหว่าง ผู้ตายและบุคคลอื่นนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวลูกของภรรยาล่าสุด 2 คน และลูกเลี้ยงที่เป็นลูกติดจากภรรยาเก่า 1 คน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร พร้อมมอบให้ทางกองปราบฯ ตรวจสอบข้อพิพาทคดีความที่รับจ้างเป็นที่ปรึกษาอย่างคดีเกี่ยวกับยาเสพติด หรือคดีอื่นๆ รายละเอียดเป็นอย่างไร รวมถึงการติดตามมือปืนที่ลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างไล่ติดตามตรวจสอบข้อมูลการหลบหนี อย่างไรก็ตาม ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไล่ติดตามพยานหลักฐานต่อไป 

เปิดไดอารี่สมยศจะขายรง.1กค.

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบประเด็นความไม่พอใจระหว่าง น.ส.ณัฐธิดา ลูกสาวของนายสมยศ กับ นายณัฐพล หรือณัฐ กันทะยอม อายุ 24 ปี น้องชายต่างแม่ซึ่งเป็นนักร้องคาเฟ่ รวมไปถึงต้องตรวจสอบรายละเอียดกรณีที่นางรัศมีร่วมกับนายณัฐลูกเลี้ยง ทำธุรกิจโรงงานน้ำผลไม้ จ.สมุทรปราการ ก่อตั้งธุรกิจได้ประมาณ 2-3 ปี โดยนายสมยศได้เขียนไว้ในสมุดบันทึกไดอารี่ระบุว่า จะนำกิจการโรงงานนี้ไปขายให้กับคนอื่นภายในวันที่ 1 ก.ค. 2558 โดยได้ติดต่อให้บุคคลอื่นมารับซื้อกิจการต่อ หากไม่ยอมก็จะตัดพ่อตัดลูกกัน อย่างไรก็ตามกรณีทำธุรกิจดังกล่าว เป็นเหตุให้นางรัศมีมีปากเสียงทะเลาะกับนายสมยศ เนื่องจากได้มีการถอนเงินในบัญชีออกมาทั้งหมดเพื่อทำธุรกิจดังกล่าว แต่ไม่ได้บอกสามีว่าถอนเงินดังกล่าว