WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Look


ลูกเลี้ยงท้าสาบาน โต้คดีฆ่า ควงแม่-เผาสมยศ 
ตร.คุ้ยเบื้องลึก'เจ๊รัศมี' ลงทุน 80 ล.ให้ลูกอีกเมีย ลุยเค้นเสี่ยนัมเบอร์วัน สอบแล้วคนยื่นซื้อรง.

        เผาแล้ว 'เสี่ยสมยศ' ลูกเลี้ยง-เมียอีกคนร่วมงาน โต้ไม่เกี่ยวคดีพ่อ ท้าจุดธูปสาบานที่ไหนก็ได้ รับเสียใจเหตุที่เกิดขึ้น-ยันไม่เคยมีปัญหากับพ่อ แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก-ไม่อยากแก้ต่าง เหตุพูดไปก็ไม่จบ-ยิ่งพูดยิ่งยาว ระบุไม่รู้พี่สาวต่างแม่คิดอะไรอยู่ถึงพูดพาดพิง ด้านเมียอีกคนเผยก็ไม่เคยมีปัญหา เสียใจลูกชายโดนพาดพิง รับรู้สึกครอบครัวไม่ปลอดภัย จึงทำหนังสือขอความเป็นธรรม ขณะที่รองผบ.ตร.สั่งเพิ่มปมขัดแย้งในครอบครัวอีกประเด็น ลุยเช็กความสัมพันธ์เจ๊รัศมีกับลูกชายต่างเมีย รวมถึงเจ๊รัศมีกับสมยศ เรียกสอบแล้วผู้ขอซื้อโรงงานน้ำผลไม้ เตรียมเรียกเพื่อนชายสาวก้อยที่รู้ความเคลื่อนไหวของสมยศด้วย รวมถึงเสี่ยสนามไดรฟ์กอล์ฟ-ผจก.ส่วนตัว 'ดาว มยุรี' นอกจากนี้ลุยสอบรปภ.-วินจยย. ที่รับมือปืน

 

วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8986 ข่าวสดรายวัน

 

 

ลูกสมยศ - นางชัญญานุช และนาย ณัฐพล กันทะยอม ภรรยาและลูกเลี้ยงนายสมยศ สุธางค์กูร ร่วมพิธีฌาปนกิจศพอดีตเจ้าพ่อคาเฟ่เมืองหลวง โดยลูกเลี้ยงท้าสาบานไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนายสมยศ ที่วัดเทพลีลา เมื่อ 5 ก.ค.

 

 

       จากคดีมือปืนบุกยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่เมืองหลวง เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถร้านเฮงหูฉลาม ย่านสวนหลวง กทม. ต่อหน้าภรรยา เหตุเกิดวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องทวงเงิน 24 ล้าน เรื่องที่ดินย่านพระราม 9 เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ ก่อนเรียกภรรยาและลูกสาวนายสมยศมาสอบปากคำถึง 4 รอบ ซึ่งภรรยายอมรับได้นำเงิน 70-80 ล้านบาทของนายสมยศไปลงทุนทำโรงงานน้ำผลไม้ ย่านบางพลี โดยไม่ได้บอกก่อน ทำให้มีเรื่องทะเลาะกันจริง แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นตบตี โดยมีลูกเลี้ยงของนายสมยศเป็นคนดูแล ขณะที่ลูกสาวยอมรับว่าพ่อแม่ ทะเลาะกันจริง ทำท่าจะบีบคอ แต่ห้ามปรามไว้ทัน พร้อมปฏิเสธไม่เชื่อน้องชายต่างแม่เป็นคนฆ่า ส่วนตำรวจตรวจสอบไดอารี่นายสมยศ พบไม่พอใจเรื่องโรงงานและเตรียมขายทิ้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ไม่งั้นตัดพ่อตัดลูกกัน แต่สุดท้ายมาถูกยิงตายเสียก่อน ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

 

ตั้งปมขัดแย้งครอบครัวเพิ่ม

       สำหรับ ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เรียกนางรัศมี สุธางค์กูร และน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร อายุ 25 ปี ภรรยาและลูกสาวของนายสมยศ รวมทั้งทนายความ 3 คนมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสปมสังหารนายสมยศ โดยชุดสืบสวนสอบถามทนายความถึงข้อมูลการรับว่าความคดีใดบ้าง และรายละเอียดฟ้องร้องคดีพิพาทเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 ส่วนนางรัศมีและน.ส.ณัฐธิดาสอบปากคำเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งชุดสืบสวนตั้งประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวเพิ่มอีก 1 ประเด็น เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจน จากเดิมตั้งประเด็นสังหารไว้ 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องหนี้สินจากการเล่นพนันกับกลุ่มของนางศุภนิดา หรือก้อย นรรัตน์ อายุ 48 ปี และนายสมชัย นิตยา หรือเล็ก อายุ 51 ปี อดีตสามีของนางศุภนิดา ข้อพิพาทฟ้องร้องเรื่องที่ดินย่านพระราม 9 และเรื่องอ้างวิ่งเต้นช่วยเหลือคดียาเสพติด 

      พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบว่านางรัศมียังมีความสัมพันธ์กับผู้ตายแนบแน่นอยู่หรือไม่ รวมทั้งเหตุใดนางรัศมีจึงรักนายณัฐพล หรือณัฐ กันทะยอม อายุ 24 ปี ลูกเลี้ยงมากกว่าน.ส.ณัฐธิดา นอกจากนี้ เหตุใดน.ส.ณัฐธิดาถึงไม่ถูกกับนายณัฐพล ส่วนกรณีธุรกิจโรงงานน้ำผลไม้ที่จ.สมุทร ปราการ นางรัศมีและนายณัฐพลร่วมกันทำธุรกิจดังกล่าว โดยนำเงินจำนวนมากไปลงทุน โดยที่นายสมยศไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งมีปากเสียงกันและนายสมยศได้เขียนลงสมุดบันทึกว่าจะขายกิจการทิ้ง ซึ่งระบุว่าในวันที่ 1 ก.ค. ได้นัดผู้ที่จะมาซื้อกิจการมาดูและตกลงเจรจาร่วมกับลูกเลี้ยง แต่สุดท้ายมาถูกคนร้ายสังหารเสียชีวิตก่อนถึงวันดังกล่าว 

 

สอบผู้ขอซื้อโรงงานน้ำผลไม้

       "ชุดสืบสวนสอบปากคำผู้ที่นัดมาซื้อกิจการโรงงานน้ำผลไม้ไว้ในฐานะพยานเรียบ ร้อยแล้ว เพื่อยืนยันว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ส่วนที่น.ส.ณัฐธิดาเคยให้เบาะแสว่านายณัฐพลขัดแย้งกับนายสมยศ จนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น จากการวิเคราะห์ของชุดสืบสวนในประเด็นนี้มีน้ำหนักน้อยมาก อีกทั้งนายณัฐพลไม่น่ามีศักยภาพพอจะคิดวางแผนฆ่าพ่อตัวเองได้ โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกนายณัฐพลมา สอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นงานศพเรียบร้อยแล้ว" พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าว

รองผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ชุดสืบสวนทำงานอย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งเร่งติดตามคนร้ายและผู้บงการหรือผู้จ้างวานที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี โดยให้ 7 หน่วยงานผนึกกำลังสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีให้ได้ ประกอบด้วย 1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ควบคุมดูแล 2.บช.น.

      โดยมีพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เป็นแกนหลัก 3.ชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.5 ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของมือปืน 4.สน.คลองตัน ดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวนและสอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้อง 5.กองปราบปราม ทำหน้าที่วิเคราะห์ปมสังหารมูลเหตุจูงใจฆ่า อีกทั้งสืบสวนหามือปืน ผู้จ้างวานและผู้บงการ 6.ตำรวจภูธรต่างๆ ตรวจสอบหาเบาะแสกลุ่มมือปืนและซุ้มมือปืนที่อยู่ในท้องที่ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ และ 7.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจสอบดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ของคนร้ายและขวดชาเขียวยี่ห้อโออิชิมือปืนดื่มรอเหยื่อแล้วทิ้งเอาไว้ รวมทั้งตรวจสอบลูกกระสุนปืนขนาด .38 ว่าเคยก่อเหตุคดีใดหรือไม่ และปรับภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่เกี่ยว ข้องกับคดีให้ชัดเจน 

 

ไล่เช็ก 20 คดีรับว่าความ

       ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัดประเด็นที่ไม่มีน้ำหนักออกไปบ้างแล้ว ทั้งเรื่องที่ดินและลูกชายกับอดีตภรรยา เพราะมีน้ำหนักน้อย รวมถึงประเด็นที่มีปัญหากับภรรยาเรื่องเงินที่นำไปลงทุนด้วย เพราะเกิดไปนานแล้วและผู้ตายกับภรรยาก็ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งก็ได้เงินกลับมาบ้างบางส่วน แต่ประเด็นที่ยังไม่ตัดคือประเด็นคดีความและการพนัน ส่วนกระสุนที่มือปืนใช้ก่อเหตุนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบว่าขนาดกระสุนใกล้เคียงกับคดีอื่นๆ ที่ก่อเหตุเช่นเดียวกันนี้หรือไม่ ได้ผล อย่างไรแล้ว จะเปิดเผยให้ทราบอีกครั้ง 

พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า หลังจากเรียกนางรัศมีมา สอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 4 นั้น ยังมีอีกหลายประเด็นที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นประเด็นอะไร ส่วนกรณีที่จะพุ่งไปเรื่องการพนันนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่ใช่ เพราะมีเรื่องฟ้องร้องกันอีกหลายเรื่อง ซึ่งแต่ละคดีความมีวงเงินกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ มาสอบปากคำ โดยคาดว่าต้องรอสอบสวนให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากต้องไล่สอบทีละคนทีละคดี สำหรับกรณีที่เรียกลูกชายนอกสมรสของนายสมยศมาสอบปากคำนั้น ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ถึงก่อนหน้านี้จะมีปัญหารุนแรงกับนายสมยศ แต่ยืนยันว่าเป็นการน้อยใจกันภายในครอบครัวเท่านั้น

      พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นการสอบสวนหรือสืบสวนจากพยานบุคคลใกล้ตัว หรือพยานในจุดเกิดเหตุ ยังยืนยันไม่ได้ว่าปมการสังหารมาจากประเด็นอะไร เนื่องจากคดีที่นายสมยศไปว่าความนั้นมีมากถึง 20 คดี และแต่ละคดีวงเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง เพราะแต่ละประเด็นก็สามารถวิเคราะห์ว่าเป็นชนวนการเสียชีวิตได้ โดยต้องรอตรวจสอบเอกสารก่อน และได้ขอให้ทนายความของสมยศนำเอกสารการว่าความแต่ละคดีมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว

      พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ผู้ตายนัดเจรจาขายกิจการโรงงานผลิตน้ำผลไม้อัดก๊าซให้กับคนอื่นในวันที่ 1 ก.ค.นั้น จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายยังรอการเจรจากับห้างสรรพสินค้าโลตัสก่อน หากสามารถเจรจาตกลงได้ว่าห้างจะนำผลิตภัณฑ์จากโรงงานของผู้ตายไปวางขายในห้างได้ ผู้ตายก็จะดำเนินกิจการต่อไปไม่ขายทิ้ง

      ด้านพล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 กล่าวว่าพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบัญชีการเงินต่างๆ ของผู้ตายที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้เอกสารหลักฐานทั้งหมดจากนางรัศมีแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารดังกล่าว ส่วนในสำนวนคดีได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 6-7 ปาก รวมทั้งพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้ร่วมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไว้ด้วย ส่วนภรรยาเก่าของผู้ตายที่เคยเป็นนักร้องยังไม่ได้ประสานงานเพื่อสอบปากคำแต่อย่างใด แต่หากมีพยานหลักฐานพาดพิงถึงใคร พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

 

เค้นเสี่ยไดรฟ์กอล์ฟ-ผจก.ลูกทุ่ง

      รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีเตรียมตัดประเด็นสังหารเรื่องข้อพิพาทที่ดินทิ้ง เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีเจ้าของที่ดิน 2 ราย เป็นที่ดินย่านพระราม 9 และย่านซอยศูนย์วิจัย โดยนายสมยศเช่าที่ดินแล้วปล่อยให้ผู้อื่นเช่าต่อ เพื่อเก็บค่าเช่า ต่อมานายสมยศฟ้องร้องศาลเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์และหวังฮุบที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินให้เจ้าของที่ดินชนะคดีทั้ง 2 ศาล จึงไม่น่ามีแรงจูงใจหรือมูลเหตุพอที่เจ้าของที่ดินจะจ้างมือปืนมาสังหาร 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมเรียกเพื่อนชายคนหนึ่งของนาง ศุภนิดามาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ เนื่องจากได้เบาะแสว่าเพื่อนชายคนดังกล่าวจะรู้ความเคลื่อนไหวของนายสมยศเป็นอย่างดี รวมทั้งยังเชิญพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมในส่วนของปมการพนัน ประกอบด้วย นาย วิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เจ้าของสนามไดรฟ์กอล์ฟนัมเบอร์วัน ย่านประชาอุทิศ กทม. เนื่องจากนายวิศิษฎ์เคยไปเล่นพนันในบ้านนายสมยศ ส่วนอีกคนคือนายเอก เป็นคนสนิทของนายสมยศและเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ "ดาว มยุรี" นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง โดยนายเอกรู้จักกับนายสมยศมากว่า 20 ปี และเคยสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องงาน จึงเชิญทั้ง 2 คนมาสอบปากคำหาเบาะแสข้อมูลเพิ่มเติม

    ส่วนการติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ได้ภาพกล้องวงจรปิดของคนร้ายทั้ง 2 คน ขณะขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นสปาร์ก สีแดง ที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี บริเวณการกีฬาแห่งประเทศไทย ซอยรามคำแหง 24 โดยคนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าอำพรางตัวก่อนแยกย้ายกันหลบหนี พยานระบุว่ามือปืนใส่หมวกแก๊ปและขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี ก่อนกล้องวงจรปิดจะจับภาพได้บริเวณซอยเสรีไทย 11 ก่อนมุ่งหน้าไปทางถนนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้สอบปากคำรปภ.ที่เห็นเหตุการณ์และคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไว้เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสถานที่ที่คนร้ายทั้ง 2 คนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมทั้งกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหน หลังจากลงรถจักรยานยนต์รับจ้าง

 

ลูกชายยันไม่เกี่ยว-ท้าสาบาน

      วันเดียวกัน เวลา 17.00 น. ที่วัดเทพลีลา ศาลา 2 เป็นพิธีฌาปนกิจศพนายสมยศ บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีกลุ่มญาติและคนสนิทนายสมยศ รวมถึงบุคคลในวงการตลก อาทิ ดู๋ ดอกกระโดน เหลือเฟือ จ๊กมก นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก โย่ง เชิญยิ้ม และยาว อยุธยา มาร่วมไว้อาลัย นอกจากนี้ นางชัญญานุช และนายณัฐพล กันทะยอม ภรรยาอีกคนของนายสมยศและลูกเลี้ยงยังเดินทางมาร่วมงานด้วย

      นายณัฐพล กล่าวว่าเสียใจที่พ่อเสียชีวิตและที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไรกับพ่อ แต่ตัวเองไม่อยากพูดอะไรมาก ส่วนที่ถูกพาดพิงว่ามีปัญหาขัดแย้งกับพ่อนั้น ยืนยันไม่ใช่ความจริง แต่ไม่อยากแก้ต่างอะไร เพราะพูดไปก็ไม่จบ ยิ่งพูดก็ยิ่งยาว จะให้ตัวเองไปจุดธูปสาบาน ที่ใดก็ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อ สำหรับกรณีน.ส.ณัฐธิดา สุธางค์กูร ลูกสาวนายสมยศซึ่งเป็นพี่สาวต่างมารดาพูดพาดพิงถึงนั้น ก็ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่ และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลที่ให้การกับตำรวจไปก่อนหน้านี้

      ด้านนางชัญญานุชกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไร และเสียใจที่ลูกชายถูกพาดพิง โดยรู้สึกว่าทางครอบครัวไม่ปลอดภัย จึงทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้อำนวยการเบาะแสไปแล้ว แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนางชัญญานุชและนายณัฐพลมาร่วมงานฌาปนกิจศพนายสมยศจนแล้วเสร็จ ทั้งสองคนได้รีบเดินทางออกจากวัดไปทันที ส่วนนางรัศมีและน.ส.ณัฐธิดา ภรรยาและลูกสาวของนายสมยศยังอยู่ในอาการโศกเศร้า โดยไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!