Details

Category: อาชญากรรม

Published: Wednesday, 19 August 2015 20:41

Hits: 7925

จยย.แฉคนร้ายพูดอังกฤษ บึ้มซํ้าสาทร ท่าเรือ-ทัวร์จีน ชี้เหมือนกันกับ ศาลพระพรหม ล่าตัว'แขกขาว' โยงปม'อุยกูร์' ตายเพิ่มศพ 20

      ตูมลูกที่ 2 เขย่ากรุงซ้ำ'ไปป์บอมบ์'ท่าเรือ สาทร-กรุ๊ปทัวร์จีน เป็นแบบเดียวกับถล่มศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ จุดชนวนโยนลงมาจากสะพาน สะเก็ดเป็นลูกปราย 6 ม.ม. เหมือนกันเป๊ะ วิธีการประกอบแบบต่างประเทศ แต่เดชะบุญพลาดเป้า ตร.แพร่ภาพวงจรปิด 'แขกขาว' คล้ายชาวตะวันออก กลาง นั่งรถตุ๊กตุ๊กมาจุดเกิดเหตุ แล้วถ่ายรูปเซลฟี่ ก่อนวางเป้ ขึ้นจยย.รับจ้างเผ่น ล่าสุดเจอตัวหนุ่มจยย.แล้ว ยันผู้ต้องสงสัยพูดภาษาอังกฤษสั้นๆ อีกพยานระบุเห็นเรียกแท็กซี่ไปสนามบิน ไล่หาเบาะแสแหล่งพักอาศัยย่านซอยนานา สีลม ขณะที่ยอดตายเป็น 20 ศพแล้ว บาดเจ็บ 108 ราย 'บิ๊กตู่'เครียด ส่งสารชี้แจงนานาชาติ เสียใจสุดซึ้ง คาดทำเป็นขบวนการ มีเป้าหมายชาวต่างชาติ ด้านสื่อจีนเชื่อปมไทยส่ง 109 ชาวอุยกูร์ ให้ทางการจีน

หาหลักฐานเพิ่ม-คลี่บึ้มกรุง

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9030 ข่าวสดรายวัน

มือบึ้ม - วงจรปิดจับภาพชายสวมเสื้อเหลืองต้องสงสัยเป็นมือวางระเบิด 20 ศพ ขณะสะพายเป้ เดินเข้าไปบริเวณศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ ก่อนนั่งลงปลดเป้วางไว้ข้างรั้วแล้วเดินออกมา ในช่วง 3-4 นาทีก่อนเกิดเหตุระเบิด ขึ้นจยย.หลบหนีไป ล่าสุดตร.ตามพบจยย.รับจ้างคันดังกล่าวแล้วให้การว่าผู้ต้องสงสัยพูดภาษาอังกฤษ และให้รายละเอียดเส้นทางหลบหนี

      กรณีเหตุการณ์ระเบิดถล่มกลางกรุง ศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 100 ราย เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และตรวจกล้องวงจรปิดพบชายผู้ต้องสงสัยมือวางระเบิด ลักษณะคล้ายผู้ชายแขกขาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น โดยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) บก.สปพ. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และสุนัขตำรวจ ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดหน้าศาลพระพรหม เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด

     ต่อมาเวลา 06.45 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยพล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บหลักฐาน ได้น้อย เนื่องจากการทำงานของระเบิดสมบูรณ์แบบ ระเบิดเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด แต่เบื้องต้นระบุได้ว่าเป็นระเบิดแรง ดันสูงเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องซีซีทีวีทุกตัว ไม่ว่าของ กทม. ตำรวจ และเอกชน ในพื้นที่ ขอเวลาการทำงานอีกสักระยะ

'สมยศ'ยังไม่ด่วนสรุปเหตุใด

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่ายังตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ทุกประเด็น ไม่ได้ด่วนสรุปว่ามาจากเรื่องใด ต้องรอการตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นพยานวัตถุ และพยานหลักฐานอื่นๆ ทุกด้าน รวมทั้งกล้องซีซีทีวี มั่นใจว่าจะจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่เวลา 22.00 น. เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา แนะนำแนวทางแบ่งหน้าที่กันทำงาน และห่วงใยนักท่องเที่ยว

      ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าด้านการข่าว ไม่ได้บกพร่อง ไม่ได้ปล่อยปละละเลย แต่คนที่จ้องกระทำมีโอกาสมากกว่า ไม่คิดว่าคนร้ายจะมีจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ เพราะคนร้ายลงมือกระทำในจุดที่มีทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เป็นช่วงเวลาที่มีคนเยอะมาก เป็นความ โหดร้ายทารุณของคนร้ายที่เลือกลงมือในเวลาดังกล่าว มุ่งประสงค์ต่อชีวิตแน่นอน และประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสกัดกั้น ผู้ต้องสงสัย

พบเศษลูกปราย-ฝาท่อพีวีซี

      ถัดมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผบ.ตร. และนาง สุภาณี วัฒนวิจารณ์ กรรมการเหรัญญิกมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพล.ต.อ.จรัมพรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่พบฝาเกลียว คล้ายๆ ท่อพีวีซี เจอเศษลูกปรายจำนวนมาก นำไปตรวจสอบตามขั้นตอนในกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อหาสารเคมีตกค้าง ชนิดดินปืน ยังเร็วเกินไปที่เจ้าหน้าที่จะฟันธงว่าเป็นระเบิดชนิดใด แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะใช้การหน่วงเวลา

      เวลา 10.45 น. มีกลุ่มดับเบิลยูไทยแลนด์ จำนวน 5 คน เดินทางมาที่แยกราชประสงค์ วางดอกกุหลาบและข้อความไว้อาลัย ประณามผู้ที่ก่อเหตุ โดยนำมาวางไว้ที่เสาตอม่อสกายวอล์ก ฝั่งถนนพระราม 1 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กทม. ใช้รถน้ำฉีดพื้นถนนทั้งฝั่งถนนราชดำริและถนนพระราม 1 ทำความสะอาดเส้นทางให้ พร้อมเปิดการจราจรในเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ส.ค.นี้

มือบึ้มถ่ายเซลฟี่-ก่อนวางเป้

    รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง พบชายต้องสงสัย 1 ราย ไม่ทราบสัญชาติ ผมหยักศก รูปร่างท้วม ใส่เสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีฟ้า ใส่แว่นตา สีเหลือง รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าเป้ นั่งรถตุ๊กตุ๊กมาลงบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เดินถือถุงพลาสติกมาบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเดินเข้าไปอยู่บริเวณม้าหินริมรั้วด้านในศาลพระพรหม ใกล้จุดตัดถนนราชดำริกับพระราม 1 ไปทางสถานีรถไฟฟ้าชิดลม ที่มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ใกล้กัน

   จากนั้นชายคนดังกล่าวยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่ และถ่ายรูปพระพรหมก่อนจะวางกระเป๋าเป้ แล้วเดินหลบหนีไปออกจากบริเวณดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางถนนราชดำริ แยกสารสิน ก่อนหายตัวไป หลังจากนั้นประมาณ 4-5 นาที ก็เกิดระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว โดยเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พร้อมกับพยานในที่เกิดเหตุว่าเดินหลบหนีไปทิศทางใดกันแน่

จีนขอกำลังตร.-สงสัย'อุยกูร์'

      ข่าวแจ้งต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ประสานมายัง บช.น. ขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัย ต่อมา พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. จัดกำลังจากกองกำกับการสายตรวจ 191 ไปเฝ้าประจำจุดตามสถานทูตต่างๆ ไว้แล้ว ขณะที่หน่วยข่าวของสันติบาลก็ยืนยันว่าได้รับแจ้งว่าจะมีการก่อเหตุความไม่สงบกับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา

     ข่าวแจ้งอีกว่า ชุดสืบสวนตรวจสอบวิเคราะห์รูปพรรณคนร้าย เชื่อว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติลักษณะคล้ายแขกขาว โดยชุดสืบสวนสันนิษฐานว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเกี่ยวกับเรื่อง ชาวอุยกูร์ ที่ทางการไทยเคยส่งตัวชาวอุยกูร์ ให้ประเทศจีน เพราะจากการวิเคราะห์จุดที่เกิดเหตุลักษณะจะเป็นเชิงบ่งบอกเป็นนัยว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดส่วนมากมีชาวจีนนิยมมาสักการะศาลพระพรหม และเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญใจกลางเมืองหลวง ผู้บงการวางระเบิดมีเป้าหมายเพื่อสังหารเหยื่อทั้งคนไทย และชาวต่างชาติเชื้อสายจีนดังกล่าว ทำให้ชุดสืบสวนตั้งประเด็นเรื่องอุยกูร์เป็นหนึ่งในสาเหตุการก่อวินาศกรรมครั้งร้ายแรงนี้

ผงะ-เจอเศษเนื้อบนต้นไม้

     ต่อมาเวลา 12.30 น. หลังเจ้าหน้าที่อีโอดีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเรียบร้อย เจ้าหน้าที่กทม.ทำความสะอาดและล้างถนนเรียบร้อยแล้ว จึงเปิด การจราจรตามปกติทุกเส้นทางทั่วแยกราชประสงค์ บรรยากาศบริเวณศาลท้าวมหาพรหมยังมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดิน เข้ามาถ่ายรูป และพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่เปิดให้เข้าไปไหว้สักการะท้าวมหาพรหม

     ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ล้างทำความสะอาดศาลพระพรหมอยู่นั้น เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ลุมพินี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ละแวกนั้น พบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ ติดค้างอยู่บนต้นตีนเป็ดปลูกอยู่ริมถนนด้านข้างศาลพระพรหม จึงประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาเก็บไปตรวจพิสูจน์ต่อไป

ชี้รูปแบบระเบิด-วิธีต่างประเทศ

     เวลา 14.00 น. ที่บก.สส.บช.น. ฝ่ายสืบสวนบช.น. พร้อมด้วย ชุดสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ร่วมประชุมสรุปพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการสืบสวนด้านเทคนิค อาทิ การติดตามไล่ภาพกล้องวงจรปิดบุคคลต้องสงสัยบริเวณโดยรอบทั้งหมด การหาข้อมูลกลุ่มชาวต่างชาติต้องสงสัย โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลาง เนื่องจากพบภาพชายต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับคนสัญชาติดังกล่าว โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่ามีการนำข้อมูลที่พักอาศัยของชาวตะวันออกกลาง และชาวอุยกูร์ เบื้องต้นพบว่ามักอยู่บริเวณซอยนานา ซอย 3 และซอย 4 บริเวณย่านสีลม รวมถึงตรวจสอบชนิดดินปืนของวัตถุระเบิด

    รายงานจากหน่วยอีโอดีระบุว่า วัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นได้ทั้งชนิดทีเอ็นที หรือซีโฟร์ เป็นระเบิดที่ทำงานสมบูรณ์แบบ ไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐาน ตรวจที่เกิดเหตุพบลูกปรายลักษณะกลมคล้ายลูกปืนรถจักรยาน มีความกว้าง 6 ม.ม. เป็นส่วนประกอบระเบิด ส่วนระเบิดมีน้ำหนัก 3-5 ปอนด์ สันนิษฐานว่าการประกอบระเบิดเป็นรูปแบบของต่างประเทศ ส่วนการจุดชนวนคาดว่าเป็นแบบตั้งเวลา

หาตัวโชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก-จยย.วิน

     ข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนของนครบาล กองปราบฯ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประชุมร่วมกันโดยรวบรวมข้อมูลคดีระเบิดพบลักษณะเหตุระเบิดคล้ายกันกับ ที่ศาลพระพรหม คือ เหตุระเบิดที่บริเวณท่าน้ำสาทรที่เพิ่งเกิดเหตุระหว่างตอนประชุม และเหตุระเบิดบริเวณซอยสุขุมวิท 71 ที่คนร้ายเป็นชาวอิหร่าน เนื่องจากลักษณะระเบิดคนร้ายใช้ลูกปรายใส่ทำเป็นสะเก็ดระเบิด เชื่อว่าการประกอบระเบิดน่าจะเป็น กลุ่มก่อการร้ายชาวตะวันออกกลาง

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาคนขับรถตุ๊กตุ๊กมาส่งคนร้าย และคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งคนร้ายหลังก่อเหตุ ล่าสุดจากการสอบสวนพยานทราบว่า มือวางระเบิดก่อเหตุแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จากการตรวจกล้องวงจรปิดพบว่าหลบหนีไปลงที่ซอยสีลม 9 จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่ไปท่าอากาศยานดอนเมือง ชุดสืบสวนทราบตัวโชเฟอร์แท็กซี่กำลังติดตามตัวมาให้ปากคำ

ตร.แพร่ภาพ"แขกขาว"มือบึ้ม

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยแพร่ภาพชายต้องสงสัยที่กล้องซีซีทีวีบริเวณศาลพระพรหมจับภาพได้ มีลักษณะคล้ายชาวต่างชาติ ผิวขาว รูปร่างผอมสูง ใบหน้าเล็ก รูปหน้าคล้ายชาวตะวันตก ผมสีน้ำตาลหยิกฟู สวมแว่นตากรอบสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง นุ่งกางเกงสามส่วนสีน้ำเงินเข้ม สวมรองเท้าผ้าใบ สวมปลอกแขนทั้ง 2 ข้าง สวมนาฬิกาข้อมือสีดำ

     โดยภาพแรกสะพายเป้สีน้ำเงิน ถือถุง 1 ใบ แต่ภาพต่อมาพบว่ากระเป๋าเป้หายไป พล.ต.ท. ประวุฒิระบุว่า ผู้ชายตามภาพวงจรปิด เป็น ผู้ต้องสงสัยที่เรากำลังติดตาม โดยชายคน ดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่เพียงคนเดียว โดยสารรถสามล้อเครื่องเข้ามา จากนั้นรีบออกไปจากพื้นที่ โดยใช้รถจักรยานยนต์รับจ้าง ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามอยู่

กทม.ตั้งศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ

      ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางไปยังศูนย์ประสานความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยกรุงเทพมหานคร ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตปทุมวัน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ ล่ามภาษาจีน เยอรมัน และภาษาอังกฤษ จากกองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย อำนวยความสะดวกรับลงทะเบียน ให้ความช่วยเหลือ และดูแลสุขภาพจิตของผู้ประสบภัย

      ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า กทม.พร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มที่ กทม.อยู่ระหว่างร่างหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยจะนำเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ก่อตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมปี 2554 ขณะนี้มีเงินในกองทุนจำนวน 1-2 ล้านบาท และในอนาคตจะได้จัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป

เก็บหลักฐาน - เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอีโอดี ตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เบื้องต้นพบเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นที หนัก 3-5 ปอนด์ จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.

ญาติรับศพเหยื่อบึ้ม-เศร้าสลด

      ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก มาติดต่อขอรับศพ บรรยากาศเต็มไปความเศร้าโศก ขณะเดียวกัน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนให้ความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตรายละ 100,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละไม่เกิน 30,000 บาท ผู้พิการรายละ 30,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ วันละ 200 บาท 365 วัน มีประชาชนมาลงทะเบียน 14 คน เป็นคนไทย 4 คน ต่างชาติ 10 คน

นางขันทอง สัตย์มั่น อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/3 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แม่นายสุวรรณ สัตย์มั่น อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่ามีลูกชาย 3 คน นายสุวรรณเป็นลูกคนโต ทำงานอยู่กรุงเทพฯ เป็นคนเก็บดอกไม้ในศาลพระพรหม เมื่อวานนี้เพื่อนร่วมงานลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าโดนระเบิดบาดเจ็บสาหัส รีบเดินทางมาจาก จ.ราชบุรี แต่ระหว่างทาง ร.พ.ตำรวจโทร.แจ้งว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

ชาวมาเลย์โดนทั้งครอบครัว

      ส่วนที่นิติเวช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเช่นกัน มีญาติมารอรับศพผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่ศาลพระพรหม โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกส่งตัวมารักษาที่ ร.พ.ดังกล่าว และเสียชีวิต 3 ราย โดย น.ส.จันทกาญสินี ศรีวรานุกูล พี่สาว น.ส.น้ำอ้อย แสงจัง อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่าน้องสาวขายของกิฟต์ช็อปย่านลาดกระบัง ก่อนเกิดเหตุมาไหว้ศาลพระพรหมกับเพื่อนอีก 2 คน และหายไปทั้งคืน พอตอนเช้าก็ทราบข่าวเสียชีวิต พ่อที่ป่วยและแม่ที่เป็นอัมพาตยังไม่ทราบข่าว ไม่กล้าบอก เกรงจะป่วยหนักกว่าเดิม

ทพ.ญ.พิศุทธิ์ธรณ์ กังวลจิต เพื่อนของครอบครัวชาวมาเลเซียที่เสียชีวิต กล่าวว่าครอบครัวนี้มาเที่ยวกรุงเทพฯ 7 คน เสียชีวิต 4 ราย มีเด็กหญิงด้วย และสูญหาย 1 คน กำลังตามหาอยู่ ญาติเตรียมเอกสารประสานกับร.พ. จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมข้อมูลคนเสียชีวิตและบาดเจ็บว่ารักษาตัวที่ ร.พ.ไหนบ้าง จะได้นำศพกลับไปฌาปนกิจที่มาเลเซีย

ตายแล้ว 20 ศพ-เป็นคนไทย 5

    พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.นิติเวช กล่าวว่าศพอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา 17 ราย ที่ร.พ.จุฬาฯ 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงยังไม่ทราบสัญชาติ นอกจากนี้ยังพบเป็นชิ้นส่วนอีก 2 รายที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ ญาติหรือครอบครัวที่จะเข้ามาติดตาม ขอให้นำข้อมูล อาทิ ประวัติการทำฟัน รูปร่างลักษณะการแต่งกายในวันเกิดเหตุมายืนยันตัวบุคคล สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากแรงอัดระเบิด

    สำหรับ รายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย นั้น ประกอบด้วย น.ส.สุดชาดา นิสีดา, น.ส. วราภรณ์ ช่างทำ, นายสุวรรณ สัตย์มั่น, น.ส.ปราณี สีสุวะ, นายยุทธณรงค์ สิงห์รอ, น.ส.น้ำอ้อย แสงจัง, นายเนียว ไจจุน ชาวมาเลเซีย, น.ส.ลิม ซอเส็ก ชาวมาเลเซีย, นางเลียว ไล ติง ชาวอินโดนีเซีย, น.ส.ผัง หว่านฉี อาร์คาเดีย ชาวฮ่องกง, นางหลิว รุ่ยชุม เมลิสา ชาวสิงคโปร์, นายตี้หวู เฉินกี อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญชาติ, น.ส.เกา หยูจู ชาวจีน, น.ส.เฉิน อิงเยี่ยน วิเวียน ชาวฮ่องกง, ผู้หญิงไม่ทราบชื่อ 2 คน, เด็กหญิงไม่ทราบชื่อ 1 คน, ชายไม่ทราบชื่อ 1 คน และชิ้นส่วนลำตัวบน กะโหลกศีรษะ

บาดเจ็บ 108 ราย-ยังโคม่า 11

นพ.อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผอ.สำนัก งานสาธารณสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ายอดผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการร่วมกับศูนย์เอราวัณ และสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 20 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 ราย เสียชีวิตที่ร.พ. 8 ราย อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์จำนวนผู้เสียชีวิตจากอวัยวะที่เสียหายอีกบางส่วน ทำให้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด

      ผอ.สำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉินกล่าวต่อว่า ส่วนยอดผู้บาดเจ็บ 108 ราย เป็นชาวต่างชาติ 55 ราย เป็นชาวจีน มาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โอมาน และมัลดีฟส์ ส่วนคนไทย 53 ราย โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดแยกเป็นแอดมิต 67 ราย กระจายอยู่ใน 13 ร.พ.ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนักอยู่ในไอซียู 11 คน จำนวนผู้บาดเจ็บที่ส่งมารักษาที่ ร.พ.ราชวิถี ทั้งหมด 9 คน กลับบ้านได้แล้ว 4 คน เป็นชาวจีนทั้งหมด อีก 5 คนยังรักษาตัวอยู่ในร.พ. ซึ่งเป็นคนไทย 2 คน ชาวจีน 3 คน ในจำนวนนี้ชาวจีน 2 คนยังอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก 2 คน ยังไม่พ้นขีดอันตราย 1 ราย

'ราชินี'พระราชทานเยี่ยมคนเจ็บ

        สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิง รวิจิตร์ สุวรรณบุปผา ผู้ช่วยราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้แทนพระองค์เข้าเยี่ยมและพระราชทานอาหารเครื่องดื่ม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ร.พ.จุฬาลงกรณ์

      นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากชมรมรวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียวเข้ามาสอบถามและเยี่ยมเยียนชาวจีน พร้อมแสดงความจำนงที่จะดูแลญาติพี่น้องที่มาจากประเทศจีน โดยจะออกทุนพร้อมสนับสนุนค่ารถรับส่งในการมาเยี่ยมผู้ประสบเหตุทุกคน

'บิ๊กตู่'เครียด-ส่งสารแจงนานาชาติ

      สำหรับ ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์นั้น เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม. ถึงเหตุระเบิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนไม่ได้นอนว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ได้ส่งสารไปยังนายกฯ และประธานาธิบดีในหลายประเทศที่มีประชาชนของเขาได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าจะหาตัว ผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว และจะดูแล ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยให้เกิดความปลอดภัย การสืบสวนต้องใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด และประสานประชาชนและนัก ท่องเที่ยวที่มีภาพเหตุการณ์ส่งรูปมาให้เจ้าหน้าที่ พร้อมสั่งการวางกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยง และดูแลสถานทูต ขณะนี้ยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด ที่สรุปได้คือการกระทำ ของคนเลว

      นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่าสาเหตุอาจมาจากเรื่องการเมือง หรือเรื่องระหว่างประเทศนั้น ไม่อยากให้ลงความเห็นไปทางใดทางหนึ่งก่อน เพราะจะทำให้การสอบสวนผิดประเด็น เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องถือเป็นบทเรียนที่จะต้อง หาวิธีแก้ปัญหาในแนวใหม่ ถือว่ารุนแรงที่สุด ที่ผ่านมาเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ แต่ ครั้งนี้มุ่งหวังต่อชีวิตประชาชน

เป็นขบวนการ-มีเป้าคนต่างชาติ

    ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ก่อเหตุมีกี่คน หรือเป็นขบวนการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าวิเคราะห์จากสถานการณ์เบื้องต้นพบว่าสามารถวาง คนเดียวได้ นำมาวางในจุดที่มีคนพลุกพล่าน การป้องกันจึงทำได้ยาก และชาวต่างชาติ อยู่เยอะ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่ามีขั้นตอนการทำงาน ต้องไปหาว่าเป็นขบวนการไหน

ต่อข้อถามว่าการข่าวรายงานความเคลื่อน ไหวของการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ผิดปกติหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ส่อให้เห็น เพียงแต่คลื่อนไหวทางโซเชี่ยลมีเดีย ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว กำลังตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ เขียนเพราะอะไร จริงหรือไม่จริง ที่โพสต์ใช้ชื่อนายอะไรสักคนนั่น กำลังให้ติดตามตัวมาสอบสวน เมื่อถามว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าพูด ไปแล้ว ทำไมจะต้องพูดให้ชัดเจนว่าใครทำ ยังไม่ทราบทั้งนั้น กำลังตามอยู่

พบบุคคลต้องสงสัยบ้างแล้ว

      ต่อข้อถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวต้องกำชับอย่างไร เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตื่นกลัว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่าอยู่ที่สื่อนั่นหละ จะตื่นตระหนกก็เพราะสื่อนั่นหละ ไปขยายกัน เยอะแยะ พูดไม่ฟัง ให้เสนอข้อมูลความจริงได้ว่าเกิดระเบิดที่ไหนอย่างไร แต่ทำไมต้องวิเคราะห์โน่นนี่ แล้วทำไมต้องพูดถึงเศรษฐกิจจะตกต่ำ อ้างรัฐบาลแก้ปัญหาแย่ ก็พันกันอยู่แบบนี้ นี่หรือช่วยชาติ ไม่ได้ช่วยเลยนะ ตนไม่ได้ให้ช่วยปกปิดอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เสนอให้มันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย

      ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการจุดชนวนทางการเมืองขึ้นมาอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ 2 อย่างระหว่างเรื่องการเมือง กับเรื่องระหว่างประเทศ แต่ยังไม่ได้ตัดว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง การเมืองมันขัดแย้งกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ใครล่ะเป็นคนจุดชนวน ใครจุดตอบมาสิ ใคร ขณะนี้นำกล้องวงจรปิดมาดูแล้ว พบมีบุคคลต้องสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ชัด ต้องหาตัวให้เจอก่อน

ล่าตัวมือโพสต์-รู้เหตุล่วงหน้า

     ผู้สื่อข่าวถามว่ามือโพสต์เฟซบุ๊กที่เหมือนจะรู้ล่วงหน้า ขณะนี้รู้หรือยังว่าเป็นใคร นายกฯ กล่าวว่าให้ไปเรียกตัวคนโพสต์มาแล้ว หาตัวอยู่ ส่วนหนึ่งอยู่ภาคอีสาน ไอ้คนโพสต์เคยอยู่กลุ่มต่อต้านรัฐบาล เมื่อถามว่าจำเป็น จะต้องใช้มาตรา 44 ดูแลสถานการณ์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าวันนี้ใช้อยู่แล้ว อำนาจมีเต็มอยู่แล้ว คสช.ทำอยู่แล้ว ใช้มาตรา 44 อยู่แล้ว ทั้งการสืบสวน จับกุม ขอหมายศาลไม่ต้องขอหมายศาลด้วยซ้ำไป

      "ในต่างประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์ผ่านไป 3 วัน จากนั้นหยุดหมด เพราะเขาร่วมมือเพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ได้ นั่นละคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในบ้านนี้ เมืองนี้ ไม่ใช่ตัดสินใจลงความเห็นกันเอง หากเช่นนั้นไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องมีกระบวนการสอบสวน ประชาชนสอบกันเอง ลงความเห็นกันเองแล้วตำรวจก็ไปจับ มันทำได้ไหม มันไม่ได้ ผมไม่ได้หงุดหงิด พร้อมอยู่แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมดูแลประชาชน แต่ประชาชนต้องช่วยรัฐบาล มันยุ่งพออยู่แล้วก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ประเมินทุกอันว่าเกี่ยวข้องกับใคร สาเหตุมาจากอะไร ยิ้มสู้ไว้เมื่อภัยมา ออกเสียงกันดังๆ หน่อย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และเมื่อถามว่าเมื่อคืนได้หลับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ยกนิ้วชี้หน้าตัวเองพร้อมกล่าวว่า "ดูหน้าผมสิ"

'บิ๊กป้อม'ชี้เริ่มชัด-มือระเบิด

     ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่าฝ่ายความมั่นคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเก็บกล้องวงจรปิด พบข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ยืนยันว่ารัฐบาลจะจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยไม่ทอดเวลาออกไปอย่างแน่นอน ส่วนการติดตามข่าวทางโซเชี่ยลมีเดียต้องระวัง เพราะบางคนถือโอกาสปล่อยข่าวปิดโรงเรียน สถาบันการเงิน เราจะติดตามตัวบุคคลเหล่านี้มาสอบถามว่าทำอย่างนั้นเพราะอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งประเด็นสาเหตุการก่อเหตุไว้กี่เรื่อง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าต้องเอาตัวคนที่วางระเบิดมาให้ได้ ขณะนี้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น จำกัดวงผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ต่อข้อถามว่าหวังดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าเรื่องดิสเครดิตรัฐบาล ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ยังมีหลายประเด็น เขาลงมือทำน้อยคน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มใด และเมื่อถามย้ำว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนไทยหรือต่างชาติ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่ายังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นคนต่างชาติ หรือคนไทย หรือใคร แต่คิดว่าน่าจะมีเครือข่าย

ย้ำไม่ใช่ระเบิดแบบ 3 จว.ใต้

    ขณะที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อสรุปสถานการณ์ล่าสุดทั้งตัวเลขผู้บาดเจ็บ ทั้งไทยและต่างประเทศ ก่อนแจ้งให้สถานทูตประเทศต่างๆ ได้รับทราบ พร้อมนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ นายกฯ สั่งการให้ตั้งทีมงาน หรือตัวแทนรัฐบาลไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามร.พ.ต่างๆ นายกฯ กำชับว่าเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานและ สิ่งบอกเหตุต่างๆ นำไปสู่การสืบสวนสอบสวนให้ได้ แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไหน

ระเบิดซ้ำ - ตร.ตรวจสอบจุดคนร้ายโยนระเบิดใส่ท่าเรือสาทร ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสิน โชคดีระเบิดตกลงในน้ำ ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พบเป็นไปป์บอมบ์ บรรจุสะเก็ดชนิดเดียวกับที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.

      รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าระเบิดที่พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ถือว่าร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นในภาคใต้ ทำขึ้นมาเพื่อใช้งานนี้โดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน ก็มีความพยายามสร้างความตื่นตระหนกผ่านโซเชี่ยลต่างๆ ให้ข้อมูลเพื่อให้สับสน เช่น ยอดผู้เสียชีวิต การเผยแพร่ภาพที่น่ากลัว หรือระบุว่าสภากาชาดต้องการเลือด จะนำสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นความพยายามกระจายข่าวให้รวดเร็ว เป็นความพยายามของเครือข่าย ที่จะสร้างสถานการณ์ ไม่ใช่ให้เกิดขึ้นแล้วจบไป มีการวางแผนและเตรียมการปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยาด้วย

ตั้งด่านมั่นคง 88 จุดทั่วกรุง

      ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ พล.อ. ประวิตรเรียกประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธ.ทบ. พล.ท. กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 นายฉัตรพงษ์ ฉัตราคม ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต. กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ผบ.หน่วยข่าวกรองทางทหาร และ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส.

    รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ตั้งด่านตรวจความมั่นคง 88 จุด เท่ากับจำนวน 88 สน.ของบช.น. มีทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย ตั้งจุดตรวจและจุดสกัดในจุดที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวหนาแน่น รวมถึงเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ โดยฝ่ายข่าวรายงานในที่ประชุมว่า ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด แต่ไม่ทิ้ง 2 ประเด็น คือการเมืองและก่อการร้าย มีแนวโน้มว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถึงขั้นเชื่อมโยงกับขบวนการก่อการร้ายสากล

นายกฯส่งสารเสียใจสุดซึ้ง

      จากนั้นเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสารจากนายกรัฐมนตรี ใจความว่า ตนและรัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน ตลอดจนจะใช้มาตรการเยียวยาตามกฎหมายแก่ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้ดีที่สุด จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเทศของเรายังมีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มุ่งประสงค์ร้าย ต่อประเทศชาติยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ อาจ จะเป็นการหวังผลทางการเมือง เพื่อทำลายเศรษฐกิจ ทำลายการท่องเที่ยว หรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม รัฐบาลจะเร่งดำเนินการสืบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดและขบวน การที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

      นายกฯ กล่าวว่า ขอยืนยันให้ประชาชนทุกคนทราบว่า จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือสุข เมื่อใดที่ประชาชนมีความทุกข์เราทุกข์ยิ่งกว่า ด้วยความสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบที่เรามีต่อประเทศชาติและประชาชน ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน รวมทั้งข้าราชการทุกหมู่เหล่าจับมือกันพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้า ขจัดความเลวร้าย ภัยอันตรายทั้งปวง ที่เราเผชิญอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นภัยที่มองเห็นและมองไม่เห็น หากเรารวมกันสามัคคีกัน เราจะฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปได้รวดเร็วขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาสู่สภาวะปกติได้ในไม่ช้า

ให้ความมั่นใจต่อชาวต่างชาติ

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนง โซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ช่วยเสนอข่าวในทางสร้างสรรค์ ไม่ขยายความรุนแรงออกไป ไม่ว่าจะด้วยภาพ เสียง คลิปวิดีโอ หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะในระหว่างที่การสืบสวนสอบสวนดำเนินการอยู่ ซึ่งอาจเป็นการชี้นำต่อรูปคดี และทำให้สังคมสับสนได้ สำหรับชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาลขอให้คำมั่นว่าจะดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผลประโยชน์ของท่านอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งจะแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ทราบอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า ในช่วงนี้ขอให้ทุกคน ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลือสนับสนุน สอดส่องดูแลสิ่งที่ผิดปกติ รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีงามของเรา และสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศให้ได้ในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศชาติและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรามีความมั่นคง ขอขอบคุณและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ในช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันทำให้ประเทศของเราเกิดความมั่นคง ปลอดภัย และติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

เพิ่มมาตรการ-รปภ.เข้มงวด

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการรักษาความปลอดภัยของนายกฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะขบวนรถยนต์และรถติดตามได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และเพิ่มรถยนต์นำของจราจรกลาง 1 คัน และรถปิดท้ายขบวนเป็นรถฟอร์จูนเนอร์อีก 2 คัน นอกจากนี้ผู้บังคับบัญชาได้กำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ระมัดระวัง กันไม่ให้บุคคลเข้าประชิดตัวนายกฯ และก่อนที่นายกฯ จะเป็นผู้เปิดงานมหกรรมนวัตกรรมไทยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่เมืองทองธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไปดูตรวจพื้นที่อย่างละเอียด ทุกคนต้องผ่านเครื่องสแกนหาวัตถุต้องสงสัยและ ติดบัตรแสดงตนอย่างชัดเจน

เยียวยาญาติคนตาย-ผู้บาดเจ็บ

      พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ว่า แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 คน และมี ผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตรวม 20 คน เป็นชาวจีน 2 คน มาเลเซีย 2 คน ฮ่องกง 2 คน สิงคโปร์ 1 คน ไทย 5 คน และไม่ทราบสัญชาติ 8 คน ได้รับบาดเจ็บ 108 ราย ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้รับการรักษาพยาบาลและได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว 42 ราย

โฆษก คสช.กล่าวต่อว่า สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เสียชีวิต คสช.และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยค่าตอบแทนผู้เสียหายที่จะได้รับมีดังนี้ กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากิน วันละ 200 บาท ต่อ 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 30,000 บาท และค่าห้องวันละ 600 บาท ในกรณีเสียชีวิตทายาทจะได้รับค่าตอบแทน 100,000 บาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากกองทุนประกันภัยนักท่องเที่ยวให้กับเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีได้รับบาดเจ็บ ไม่เกิน 100,000 บาท และกรณีเสียชีวิตไม่เกิน 300,000 บาท

ตั้ง'จักรทิพย์'หัวหน้าคลี่คดี

     พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ด้านการสืบสวนในทางคดีขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะทำงานพิเศษ โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานด้านนิติวิทยา ศาสตร์ วัตถุพยาน และพยานบุคคล ส่วนสาเหตุและแรงจูงใจก่อเหตุนั้นจะพิจารณาในทุกมิติและทุกประเด็น จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลในทางคดี มีความสมบูรณ์ที่สุด

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวได้ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ โดยมีทั้งล่ามภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

     ส่วนพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า รัฐบาลยังไม่ด่วนตัดสินหรือสรุปว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีมูลเหตุจูงใจ จากอะไร หรือจากการปฏิบัติของกลุ่มใด นายกฯ ไม่อยากให้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่ง โดยให้รวบรวมข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง ไม่ว่าประจักษ์พยาน วัตถุพยานในพื้นที่ เกิดเหตุ นิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและภาพจากประชาชน จะเอามาประกอบกันเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน

เปิดสายด่วนรับแจ้งเบาะแส

      โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลอย่างมีสติจากแหล่งข้อมูลทางการของเจ้าหน้าที่รัฐ อย่าหลงเชื่อข่าวลือโดยเฉพาะที่ปล่อยทางโซเชี่ยล ขอความร่วมมืออย่าส่ง หรือแพร่กระจาย แจ้งเบาะแสข้อมูลทั้งก่อนเกิดเหตุหรือหลัง และในอนาคตได้ที่หมายเลข 1599 อะไรที่ผิดสังเกตทั้งคน หรือวัตถุต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ 191 รัฐบาลขอแสดงความชื่นชมอย่างที่สุดต่อน้ำใจของคนไทย แม้ควันจากแรงระเบิดไม่ทันจาง ประชาชนบริเวณแยกพระพรหมต่างเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ วินมอเตอร์ไซค์ร่วมใจกันบริการโดยไม่คิดค่าบริการ และทันทีที่ขอรับบริจาคโลหิต ก็มีประชาชนหลั่งไหลเข้าไปบริจาคกันมากมาย แม้ว่าจะเป็นเวลาค่ำคืนก็ตาม นี่คือน้ำใจของคนไทย เราจะไม่ทิ้งกัน

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันส่งภาพที่บันทึกกันไว้ทั้งที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวทั้งช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง ทั้งจากกล้องและโทรศัพท์มือถือ ขอให้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจได้ที่ @PoliceSpokesmen http://www.royalthaipolice.go.th หรือแจ้ง 1599 เพราะอาจเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ช่วยคลี่คลายคดีได้ ส่วนที่มีภาพปรากฏเป็นชาวต่างชาติในกล้องซีซีทีวีซึ่งมีความน่าสงสัยนั้น ยังไม่อยากให้ด่วนสรุป และยังไม่อยากตัดเรื่องใดทิ้ง รัฐบาลยืนยันว่าจะทำทุกอย่างมีมาตรฐานและเป็นมืออาชีพ

'บิ๊กโด่ง'รับ-ก่อเหตุกทม.ไม่ยาก

      พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. กล่าวว่ากล้องวงจรปิดเห็นภาพผู้ต้องสงสัยแล้ว นำไปสู่ความเชื่อมโยงและวิเคราะห์แนวโน้มต่อไปได้ ส่วนจะเป็นชายชาวแขกขาวที่ถือถุงไปวางหรือไม่นั้น เมื่อถามว่าเป็นเรื่องการเมือง ก่อการร้าย หรือเชื่อมโยงเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่าเหตุภาคใต้เท่าที่ประเมินไม่เกี่ยวข้อง เพราะที่กทม.ใช้ระเบิดแรงสูงมีความรุนแรงมาก ไม่ใช่วิธีของภาคใต้ ทำให้ตีวงสาเหตุแคบลง อาจเป็นเรื่องการไม่พอใจการปฏิบัติบางอย่างของฝ่ายรัฐ แต่ขอให้รอการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ให้ชัดเจนก่อน

     ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นความขัดแย้งภายในหรือภายนอกประเทศ ผบ.ทบ.กล่าวว่ายังไม่สามารถตัดประเด็นใดได้ เพราะการวิเคราะห์ต้องมองรอบด้าน อาจมีที่ไม่พอใจเรื่องภายในประเทศ แต่เรื่องภายนอกก็ไม่ได้ตัด ที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆ ควบคุมได้ในระดับน่าพอใจ แต่ต้องเข้าใจว่ากทม.มีพื้นที่กว้างขวางและสลับซับซ้อน เป็นเมืองหลวงที่จัดระเบียบไม่ค่อยเป็นระบบ การก่อเหตุทำได้ไม่ยากนัก เจ้าหน้าที่มีความยากในการควบคุม แต่เราไม่ละเลยโดยเฉพาะงานด้านการข่าว เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น คนทำอำมหิต ไม่มีคุณธรรม

'เหวง'โต้ลั่น-เสื้อแดงไม่เกี่ยว

      นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่าขณะนี้มีการเผยแพร่ว่า มีเว็บไซต์ของคนเสื้อแดงเผยแพร่ข่าวทำนองว่า ในวันที่ 14-18 ส.ค.นี้ ระวังในกทม.ให้ดี แล้วมีการโพสต์ซ้ำหลังเกิดเหตุว่า บอกแล้วให้ระวัง มีคนของเราโดนลูกหลงไหม การโพสต์ดังกล่าวเพื่อให้เกิดข้อสรุปว่าคนเสื้อแดงเป็นคนวางระเบิด ทั้งที่เป็นเพียงแค่จินตนาการ สร้างเรื่องขึ้นมาเอง

      แกนนำนปช.กล่าวว่า การสร้างเว็บไซต์ แพร่เฟซบุ๊ก เว็บเพจเป็นเรื่องง่ายมากในปัจจุบัน แต่น่าสงสัยคือทำไมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไม่เสาะหาผู้โพสต์แล้วเชิญมาสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ยังออกมาชี้ว่าแนวโน้มน่าจะเป็นผู้เสียประโยชน์ทางการเมืองกลุ่มเดิมๆ เพื่อทำลายบรรยากาศของประเทศ ผู้ที่เสียประโยชน์ทางการเมืองอันเกิดจากการรัฐประหาร คือ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และก็เป็นกลุ่มเดิมที่ต่อสู้กับคณะรัฐประหารมาตลอด ดังนั้นที่พล.ต. สรรเสริญกล่าวถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยนาม แต่ชี้นิ้วไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงว่าแนวโน้มน่าจะเป็นคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ ยืนยันว่านปช.แดงทั้งแผ่นดินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการวางระเบิดที่ราชประสงค์แน่นอน

'บัวแก้ว'ชี้แจงทูต 76 ประเทศ

     ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะทูตานุทูต 76 ประเทศ ได้ชี้แจงว่าคนสัญชาติอะไรอยู่ร.พ.ไหนบ้าง มาตรการการเยียวยาชาวต่างชาติที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ อีกทั้งยืนยันว่าธนาคาร สถาบันการเงิน ยังเปิดทำการปกติ ไม่มีประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมทั้งตอบคำถามเรื่องการสอบสวนหาสาเหตุ หาตัว ผู้กระทำผิด และขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดขอให้ดูแลสถานทูตในไทยเป็นพิเศษ ซึ่งไทยดูแลทุกสถานทูตอย่างเท่าเทียมกัน

    นายจอน เจีย มัน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เกาหลีใต้ไม่ออกประกาศห้ามเดินทางมาไทย มีเพียงการแจ้งข้อความถึงชาวเกาหลีให้ทราบว่ามีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้น พร้อมเตือนให้ชาวเกาหลีที่ เป็นนักท่องเที่ยวและผู้ที่อาศัยอยู่ในไทยระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา หากยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเพิ่ม ทางเกาหลีก็ยังไม่ออกประกาศใดๆ อีก

สื่อจีนชี้ปมไทยส่ง 109 อุยกูร์

      ด้านเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อีสต์ของจีน ระบุว่าแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีข้อยืนยันแน่ชัดว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่สื่อของจีนขณะนี้กำลังเต็มไปด้วยข้อกังขาว่า ทั้งหมดน่าจะเป็นการสมคบคิดของกลุ่มก่อการร้ายที่มีจุดประสงค์จะทำลายความสงบสุข โดยมีเป้าหมายคือโจมตีนักท่องเที่ยวชาวจีน

ขณะที่หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าวิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดอาจเป็นการพยายามส่งสัญญาณเตือนของกลุ่มก่อการร้ายสายสุดโต่ง ว่าด้วยประเด็นที่ก่อนหน้านี้ไทยเคยเนรเทศชาวอุยกูร์ 109 คนไปยังจีน และนอกจากนี้ยังสันนิษฐานเพิ่มเติมว่า บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางระเบิด เป็นไปได้ว่าอาจ คือกลุ่มสุดโต่งทางภาคใต้ของไทย หรืออาจเป็นกลุ่มการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลทหารไทย

สาวเฉียดตาย-เล่านาทีบอมบ์

      วันเดียวกัน น.ส.โสภิดา พงศ์จีน หนึ่งในผู้ประสบเหตุการณ์ระเบิดให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ถึงนาทีระทึกว่า ขับรถเก๋งออกจากสถานที่ทำงานตึกมณียา ห่างจากศาลพระพรหม 100 เมตร จอดติดไฟแดง อยู่ซ้ายมือสุดริมฟุตปาธห่างจากจุดระเบิดประมาณ 20 เมตร ด้านหน้ามีรถกระบะ ตอนนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. ได้ยินเสียงบึ้มดังมากมาจากทางซ้ายมือ มีแสงไฟสว่างวาบ วินาทีแรกคิดว่าเป็นหม้อแปลงไฟระเบิด แต่มองไปด้านหน้าเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ล้มลงทุกคันและมีไฟลุกท่วม ตอนนั้นเพิ่งจะเห็นว่ากระจกรถด้านหน้าร้าวทั้งบาน และกระจกมองหลังหลุด วินาทีนั้นรู้เลยระเบิดแน่ๆ

       น.ส.โสภิดากล่าวว่า รีบคว้ากระเป๋าและโทรศัพท์ ดับเครื่องรถเก็บกุญแจรถแล้วรีบวิ่งลงมาจากรถ ระหว่างนั้นมีเสียงร้องโหยหวน และคนวิ่งหนีกันวุ่นวายไปหมด ช่วงลงจากรถพบศพกระเด็นมาตกข้างรถแบบเละเลย ตกใจมากๆ รู้สึกเศร้าใจมากจึงวิ่งมายืนดูเหตุการณ์หน้าร้านแมคโดนัลด์ตรงตึก อัมรินทร์ สักพักมีรปภ.ของตึกแถวนั้นมาช่วยโบกรถให้ถอยรถเข้าไปด้านหลังตึกอัมรินทร์ มีทางออกไปถนนราชดำริ จึงรีบวิ่งกลับไปถอยรถ ระหว่างวิ่งไปก็กลัว เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีลูกที่ 2-3 ตามมาอีกหรือเปล่า แล้วขับรถออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ตอนนั้นได้ยินเสียงรถพยาบาลวิ่งไปรับคนเจ็บเต็มไปหมด เป็นวินาทีเฉียดตายจริงๆ สิ่งที่ทำในช่วงเวลานั้นคือเตือนตัวเองให้ตั้งสติให้ได้ และออกมาจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

      "น่ากลัวจริงๆ ค่ะ มันใกล้มาก ถ้าออกจากบริษัทมาเร็วกว่านี้สัก 5 นาที คงโดนเต็มๆ เพราะจะต้องเลี้ยวรถไปตรงจุดเกิดระเบิด นึกแล้วขนลุก ถ้ามาเร็วกว่านี้หน่อยจะต้องเลี้ยวรถไปทางซ้ายที่เป็นจุดระเบิด" สาวผู้ประสบเหตุกล่าว

บึ้มอีกท่าเรือสาทร-เป้าคนจีน

    เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.อดิเรก พันธุ์ใย พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร แขวงบางรัก เขตบางรัก กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ. พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. และนักประดาน้ำ

ที่เกิดเหตุอยู่ใต้รางรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีตากสิน ระหว่างทางเดินข้ามคลองระบายน้ำข้างท่าเรือด่วนสาทรไปยังท่าเรือข้ามฟากและนำเที่ยว มีนักท่องเที่ยวชาวจีนและยุโรปใช้บริการเป็นประจำ เจ้าหน้าที่พบลูกปรายตกอยู่ที่พื้นและตามกอหญ้าจำนวนมาก จากนั้นชุดประดาน้ำงมหาสะเก็ดระเบิด พบท่อเหล็กและลูกปรายอีกประมาณ 20 ชิ้น จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

     สอบสวนนางละไม ภาระราช อายุ 51 ปี แม่ค้าขายส้มตำ ให้การว่าขณะขายของตามปกติ ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิดมาจากคลองระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำในคลองกระเซ็นพุ่งขึ้นฟ้าสูงมาก ก้มลงหมอบคลานหนีออกมาอย่างรวดเร็ว กลัวจะมีระเบิดลูกที่ 2 ตามมา

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าเรือสาทรเป็นจุดที่ไกด์จะพานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนมาลงเรือนำชมแม่น้ำเจ้าพระยา และเที่ยวชมคลองในฝั่งธนบุรี หรือใช้เดินทางต่อไปยังเอเชียทีค เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตอีกแห่งของชาวจีน

ชนิดเดียวกับถล่มศาลพระพรหม

    พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่าคาดว่าเป็นระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ พบสะเก็ดระเบิดเป็นลูกปืนรถจักรยานยนต์ขนาด 6 ม.ม. และพบตัวจุดถ่วงเวลาที่กระเด็นไปตกอยู่ฝั่งตรงข้าม ระเบิดตกลงไปในน้ำ ทำให้น้ำเป็นกำแพงเขื่อนช่วยรับแรงระเบิดไว้ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด และเป็นช่วงเวลาเกิดเหตุที่มีคนสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย ปกติบริเวณนี้ในช่วงเช้า หรือเย็นจะมีผู้คนเป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ ใช้บริการจุดนี้สัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นท่าเรือที่เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีตากสิน

    ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่พบสะเก็ดระเบิดเป็นชิ้นส่วนท่อแป๊บเหล็ก และลูกปรายขนาดเล็ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมากั้น และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม มีลักษณะคล้ายกับระเบิดที่เกิดเหตุบริเวณแยกราชประสงค์ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานจากที่เกิดเหตุ รวมทั้งนำหลักฐานของทั้ง 2 คดี มาเปรียบเทียบกันว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหรือไม่

คาดมือบึ้มใส่วิกอำพราง

    ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเปิดเผยว่าจากการสอบถามเจ้าหน้าที่อีโอดีทราบว่าเป็นระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ คือนำระเบิดบรรจุใส่ท่อเหล็กแล้วจุดชนวนด้วยไฟ แบบเดียวกับประทัดแล้วโยนลงมาจากสะพาน ลักษณะระเบิดคล้ายกับที่ก่อเหตุบริเวณศาลพระพรหม แต่เนื่องจากจุดนี้เป็นที่โล่ง ผลของแรงระเบิดเลยต่างกัน สันนิษฐานว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน

      ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติม ส่วนการข่าวก็มีคืบหน้า แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพระเป็นข้อมูลลับ อยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในทุกพื้นที่ ส่วนตัวมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะปลอมแปลงใบหน้า โดยใช้วิกผมก่อนลงมือก่อเหตุเพื่ออำพรางใบหน้า และเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้มีคนเดียว ต้องเป็นขบวนการ นอกจากนี้ จัดให้ตำรวจและทหารสนธิกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ ลงพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อสร้างความมั่นใจ และอบอุ่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

มิสไทยฯรุดเยี่ยมเหยื่อระเบิด

       ที่ร.พ.ตำรวจ น.ส.ธันยชนก มูลนิลตา หรือน้องเฟร้นฟราย มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 พร้อมด้วย น.ส.มิณทร์ลดา สร่างโศก หรือน้องกิฟท์ รองอันดับ 1 และ น.ส. นันทวัน เรืองฤทธิ์ หรือน้องแตงกวา รองอันดับ 2 เยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด โดยเข้าเยี่ยมนักท่องเที่ยวชาวจีน นางจาง หยิง อายุ 39 ปี โดนสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย และ ด.ญ.หม่า จื้อฉู อายุ 10 ขวบ โดนสะเก็ดระเบิดที่หลัง ไต และลำไส้ ยังอยู่ในห้องไอซียู

     น้องเฟร้นฟรายพูดคุยและให้กำลังใจ ผู้บาดเจ็บชาวจีนด้วยภาษาจีน จากนั้นมาประจำจุดอาสาสมัครล่ามภาษาจีน เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้คนจีนที่ต้องการความช่วยเหลือ ก่อนไปตรวจร่างกายเพื่อบริจาคเลือด โดยน้องเฟร้นฟรายกล่าวว่าเคยทำงานเป็นล่ามภาษาจีน ทราบว่าที่ร.พ.ต้องการล่ามภาษาจีน จึงติดต่อมาแต่ก็ได้รับคำตอบว่ามีล่ามจำนวนมาก จึงให้หมายเลขโทรศัพท์ไว้ หากเจ้าหน้าที่ต้องการล่ามภาษาจีนด่วน

เศร้าสลดใจ-ยินดีช่วยเหลือ

        "เป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจ ในฐานะเจ้าบ้านก็อยากให้กำลังใจ ได้พูดคุยกับเด็กชาวจีว่าเจ็บตรงไหน ได้เจอกับคุณแม่หรือยัง หิวข้าวไหม อยากให้ช่วยตรงไหนก็บอกกับพยาบาลได้ทันที เจ้าหน้าที่พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากผู้ป่วยแล้ว พวกเราก็มาเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ด้วย เพราะหลายคนไม่ได้หลับได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืน" น้อง เฟร้นฟรายกล่าว

ขณะที่ น้องกิฟท์กล่าวว่า เศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตรวจร่างกายก็สามารถบริจาคเลือดได้จึงไม่ลังเล ดีใจที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าเราไม่ได้เป็นนางงามก็ตั้งใจทำอยู่แล้วค่ะ โดยเฉพาะตอนนี้ก็อยู่ในตำแหน่ง ก็อยากเป็นตัวอย่างในการทำความดีเพื่อสังคม

     ด้านน้องแตงกวากล่าวว่าเป็นห่วงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ประเทศไทยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณศาลพระพรหม เป็นจุดที่คนไปไหว้ขอพร ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันให้มาก รวมทั้งระมัด ระวังตัวเองด้วย

อังกฤษระบุมีพลเรือนตายด้วย

    ด้านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษระบุว่า นายฟิลิป แฮมมอนด์ รมว.ต่างประเทศ แถลงยืนยันว่ามีพลเรือนชาวอังกฤษเสียชีวิตในเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ 1 ราย เป็นหญิงชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง โดยเจ้าหน้าที่กงสุลอังกฤษประจำประเทศ ไทยกำลังเร่งช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ พร้อมระบุว่าการสูญเสียครั้งนี้เป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัว และขอประณามการกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์

      ขณะที่การ์เดียนรายงานว่า นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอ๊บบอต ผู้นำออสเตรเลีย กล่าวในที่ประชุมสภา โดยแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่ศาลพระพรหม แม้จะไม่มีพลเมืองชาวออสเตรเลียได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทางการออสเตรเลียเสนอให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และตำรวจไทยในการสืบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมระบุว่าออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยจำนวนมาก ชาวออสเตรเลียต่างมีความทรงจำที่ดีและควรท่องเที่ยวในประเทศไทยเช่นเดิม เพราะการกระทำดังกล่าวมีจุดประสงค์ทำให้พวกเรากลัวที่จะใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งไม่ควรมีใครหวาดกลัวต่อการข่มขู่ ดังกล่าว

สอบหนุ่มจยย.ที่คนร้ายนั่ง

       รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนบช.น. สามารถควบคุมตัวคนขับจักรยานยนต์รับจ้างที่พาตัวผู้ต้องสงสัยวางระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุได้แล้ว เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ โดยพูดภาษาอังกฤษสั้นๆ สื่อสารกับคนขับจักรยานยนต์รับจ้าง

      ทั้งนี้ ทราบว่าพาผู้ต้องสงสัยออกจากพื้นที่เกิดเหตุ โดยผ่านเส้นทางศาลาแดง สีลม และนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อสอบสวนพยานบริเวณดังกล่าวทราบว่าเห็นคนต้องสงสัยเรียกแท็กซี่ต่อไปสนามบิน

เวลา 19.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. เดินทางไปตรวจมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวจีนที่ย่านถนนเยาวราช พร้อมทั้งวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9030 ข่าวสดรายวัน

23 ปท.ผวาระเบิด เตือนมาไทย! เข้ม 6 สนามบิน แหล่งต่างชาติ

ตรวจเข้ม - ชุดเก็บกู้ระเบิดพร้อมสุนัขเค 9 ออกตรวจตราสิ่งแปลกปลอม และสาร ตั้งต้นประกอบระเบิด ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ป้องกันเหตุร้าย หลังเกิดระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.

     ผวาบึ้มกรุง 23 ประเทศเตือนนักท่องเที่ยวมาไทย คมนาคมสั่งคุมระดับ 3 เข้ม 6 สนามบิน หมอชิต-สายใต้-รถไฟ-ท่าเรือก็ด้วย ก.ท่องเที่ยวตั้งวอร์รูมช่วยต่างชาติ มอบเงินเยียวยาคนตาย-เจ็บ'กอบกาญจน์' รับหนักใจสถานการณ์-ส่งผลกระทบท่องเที่ยวในกรุง รมว.คลังชี้กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนแน่นอน ขณะที่โรงแรมรอบแยกราชประสงค์อ่วม นักท่องเที่ยวทยอยยกเลิกห้องพัก ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อทรุดแค่ระยะสั้น หุ้นไทยก็ร่วง 36.13 จุด-เชื่อมั่นหด ทั่วประเทศก็คุมเข้ม ทั้งเกาะพีพี-สมุย-ภูเก็ต-แม่สาย-เชียงใหม่ ด้าน 'ยูเอ็น' เสียใจเหตุบึ้มกรุง

คุมเข้ม 6 สนามบิน-ท่าเรือ
     เมื่อวันที่ 18 ส.ค. จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ กทม. ในช่วงหัวค่ำวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ผู้มีเสียชีวิต 20 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ ทำให้หลายฝ่ายต่างวางมาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยในทุกด้าน
     โดยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เรียกประชุมผ่านระบบวิดีโอไร้สายกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง โดยให้นโยบายเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยในสถานีขนส่งสาธารณะและจุดสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งสนามบิน สถานีรถไฟฟ้า สถานีรถไฟ ท่าเรือหรือสถานีขนส่งบขส.
      นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผอ.ใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด กล่าวว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เป็นระดับ 3 โดยมีมาตรการเชิงป้องกัน 5 ด้าน ประกอบด้วย เพิ่มความเข้มงวดการปฏิบัติงาน โดยเพิ่มการสุ่มตรวจผู้โดยสารและสัมภาระ 1 ต่อ 10 คน และตรวจยานพาหนะเข้าพื้นที่หวงห้ามตรวจ 100% รวมทั้งงดการออกบัตรรปภ.ชนิดชั่วคราวสำหรับทุกภารกิจ ยกเว้นได้รับสั่งการจากผู้อำนวยการท่าฯ ที่รับผิดชอบ และดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
     นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เปิดให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินแก่ผู้โดยสารที่กำหนดเดินทางวันที่ 18 ส.ค. - 18 ก.ย.58 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยน แปลงเที่ยวบิน 1 ครั้ง ในเส้นทางที่ระบุบนบัตรโดยสารทุกเส้นทาง แต่ต้องเดินทางภายในอายุบัตรโดยสารเดิม

หมอชิต-สายใต้ก็เข้มงวด
      ขณะที่นางปาริชาต คชรัตน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า สั่งการให้ปรับระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของบพ. รวม 28 แห่ง เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับที่เข้มงวดสูงสุด พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดใน การรักษาความปลอดภัยทุกรูปแบบ โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธและวัตถุอันตรายเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจกระเป๋าผู้โดยสารทุกใบทั้งจากเครื่องเอกซเรย์ และการตรวจค้นโดยตรงของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจอาคารที่พักผู้โดยสารและบริเวณท่าอากาศยานตลอด 24 ช.ม.
      นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ประสานตำรวจและตำรวจรถไฟเพิ่มกำลังความเข้มงวดในการตรวจเวรยามสถานีรถไฟสำคัญทั่วประเทศ รวมถึงคลังน้ำมัน
     นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รักษาการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส.เพิ่มการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ในสถานีขนส่งกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัยและสถานีขนส่งสายใต้ หลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยขอความร่วมมือตำรวจและทหารตรวจทุกสถานี 24 ช.ม. ส่วนสถานีขนส่งต่างจังหวัดของบขส.อีก 4 แห่ง ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจตราที่สถานีขนส่งสุพรรณบุรี สถานีขนส่งภูเขียว สถานีขนส่งสุราษฎร์ธานี และสถานีขนส่งหล่มสัก
     พล.ต.ชาติชาย ประดิษพงษ์ ผอ.อาวุโส ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT เปิดเผยว่า ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังเหตุ รวมถึงการตรวจสอบกระเป๋าและสัมภาระของผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้า MRT

ท่องเที่ยวตั้งวอร์รูมช่วยต่างชาติ
      ด้านการท่องเที่ยว นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวฯ และนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายอารีพงศ์กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากเหตุระเบิด ก่อนออก 5 มาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1.ตั้งศูนย์ช่วยเหลือ นักท่องเที่ยว ที่จุดประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล อาทิ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.ตำรวจ ร.พ.กลาง และร.พ.หัวเฉียว โดยติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 1155 ตลอด 24 ช.ม. 2.ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผ่านโครงการประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีเสียชีวิต 3 แสนบาท และกรณีอุบัติเหตุที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท แต่หากค่ารักษาเกินวงเงินกองทุนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รัฐบาลสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลเต็มที่

เยาวราช - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมการรักษาความปลอดภัยย่านเยาวราช เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังเกิดเหตุระเบิดกลางกรุง เมื่อ 18 ส.ค.

    นายอารีพงศ์กล่าวอีกว่า 3.จัดกำลังตำรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัครตรวจตราแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งสนามบินและสถานีขนส่ง เพื่อป้องกันเหตุทั่วประเทศ 4.ททท.อำนวยความสะดวกญาตินักท่องเที่ยวที่ประสบภัยให้ติดต่อประสานงานที่สำนักงานททท.ทุกสำนักงานทั่วโลก 5.กระทรวงตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์และช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

23 ประเทศเตือนนักท่องเที่ยว
     นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ยอมรับหนักใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอาจส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพฯ และยอมรับว่าอาจมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวระยะยาวและเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นกันไปได้ เพราะที่ผ่านมาไทยก็มีสถานการณ์ทางการเมืองและมีวิกฤตอยู่เรื่อยๆ แต่นักท่องเที่ยวที่รับรู้สถานการณ์ ครั้งนี้จึงขอเวลาสักระยะ เพื่อประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม
      นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เปิดเผยว่า สำหรับการออกคำแนะนำนักท่องเที่ยวในวันที่ 18 ส.ค. โดยสถานเอกอัครราชทูต 23 ประเทศ ออก คำแนะนำนักท่องเที่ยวสำหรับสถานการณ์ ดังกล่าว ระดับ 1 ให้รับรู้ว่ามีสถานการณ์เกิดขึ้น 1 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ระดับ 2 ให้ใช้ความระมัดระวังตนเอง 12 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก สหรัฐ ไต้หวัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เบลเยียม สิงคโปร์ สวีเดน ออสเตรีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ระดับ 3 ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง 9 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ อิตาลี รัสเซีย ออสเตรเลีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ แคนาดา และจีน ส่วนระดับ 4 ทบทวนการเดินทางมี 1 เมือง คือฮ่องกง (เฉพาะที่มากรุงเทพฯ) และระดับ 5 ที่ห้ามการเดินทางมาไทย ยังไม่ปรากฏ

คลัง ชี้กระทบเชื่อมั่นนักลงทุน
    ขณะที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ ส่งผลกระทบ ต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่ากระทบแค่ไหน และขณะนี้ยังไม่มีการเรียกฝ่ายเศรษฐกิจหารือเรื่องผลกระทบ ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวมองว่ายังโชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดในช่วงเดือนส.ค. ซึ่งถือยังไม่เข้าช่วงไฮซีซั่นซึ่งจะตรงกับช่วงเดือนพ.ย.
    "ยังกระทบเรื่อท่องเที่ยวไม่มาก โชคดีไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น และเรื่องระเบิดแบบนี้ผ่านไปอีกสักพักคนก็ลืม แต่เรื่องความเชื่อมั่นนักลงทุนคงกระทบมาก หลังเสียงระเบิดดัง ผมคิดไม่ออกแล้วว่าจะกระทบยังไง แต่เชื่อเถอะว่ากระทบความเชื่อมั่นแน่" นายสมหมายกล่าว
     นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังยังไม่พิจารณาเรื่องมาตรการรองรับ เพราะขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและบาดเจ็บ ผ่านกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศของกระทรวงมหาดไทยแล้ว
      นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการประเมินผลกระทบทางด้านการท่องเที่ยวเชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก เพราะหลายประเทศก็มีข่าวก่อการร้าย แต่ต้องรอดูว่าผลกระทบบางส่วนที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวจะส่งถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น พ่อค้าแม่ค้า เอสเอ็มอีและกลุ่มค้าปลีกหรือไม่

โรงแรมแยกราชประสงค์อ่วม
     สำหรับ ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมบริเวณแยกราชประสงค์ นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า ขณะนี้ยังประเมินผล กระทบจากเหตุระเบิดลำบาก เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดคงต้องติดตามสถานการณ์ไปก่อน แต่ในระยะสั้นอาจยกเลิกจองห้องพักบ้าง ซึ่งโรงแรมยังเปิดปกติ แต่ยกระดับขั้นตอนการดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
    นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกลุ่มประชุมสัมมนาจากสิงคโปร์ขอยกเลิกการจองห้องพักที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ 2 วัน วันละ 300 ห้องแล้ว ซึ่งไม่เหนือความคาดหมาย เพราะประเมินไว้อยู่แล้วว่าจะได้รับการแจ้งยกเลิก แต่ประเด็นที่กังวลมากกว่าคือนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจฮ่องกงจะหายไป เนื่องจากมีการยกระดับการเตือนนักท่องเที่ยวเข้ากรุงเทพฯ โดยสถานการณ์นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในเครือเซ็นทารา แต่เป็นผลกระทบในวงกว้างต่อโรงแรมในพื้นที่ทั้งหมด
   นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังเปิดปกติ แต่บริษัทได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดติดตั้งเครื่องสแกนอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่บริเวณทางเข้า-ออก

ตรวจเข้ม - ทหารตรวจค้นรถยนต์ที่ข้ามพรมแดนมาจากลาวอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุระเบิดใจกลางกรุง เพื่อป้องกันการ ก่อเหตุซ้ำในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ที่ด่านสะพาน มิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 18 ส.ค.

      น.ส.วารุณี กิจเจริญพูลสิน ผอ.ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ ยังเปิดบริการตามปกติเช่นกัน เบื้องต้นยังมีนักท่องเที่ยวและคนไทยเข้ามาใช้บริการ แต่ห้างได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย

ธุรกิจท่องเที่ยวทรุดระยะสั้น
     ส่วนนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อาจมีส่งผลกระทบในระยะสั้น สามารถรักษาเป้าหมายรายได้ที่ 2.2 ล้านล้านบาทตามเดิม ส่วนแอตต้ายังคงเป้าหมายนักท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ที่ 7 ล้านคน เป็นชาวจีน 4 ล้านคน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีกรุ๊ปทัวร์ลดลง
      นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะสั้น แต่การลงทุนยังไม่มีผลกระทบ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนในระยะยาว แต่ผลกระทบระยะสั้นจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่ที่รัฐบาลจะจัดการและควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็วหรือไม่ อีกทั้งต้องเร่งอธิบายให้ต่างชาติได้เข้าใจและเรียกความเชื่อมั่น
     ด้านนายกลิน สารสิน รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับประธานหอการค้าต่างประเทศ ทราบว่ามีความเข้าใจสถานการณ์และเชื่อจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในระยะสั้น โดยยังมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ให้จบลงโดยเร็ว ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่ามียอดจองการเดินทางล่วงหน้าเข้ามา ช่วงเดือนก.ย.ร้อยละ 47 และเดือนต.ค.ร้อยละ 70 ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะยกเลิกไฟลต์บินหรือไม่ ดังนั้นจึงยังคงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยที่ 28.6 ล้านคน ขณะที่การจัดกิจกรรมกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวนั้น ยังต้องประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นหรือไม่

หุ้นไทยร่วง-เชื่อมั่นหด
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,372.61 จุด โดยปรับตัวลดลง 36.13 จุด หรือลบ 2.56 % ทั้งนี้ระหว่างวันดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,362.31 จุด และสูงสุดที่ระดับ 1,388.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78,348.55 ล้านบาท
     ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลหลังเกิดเหตุระเบิด ทำให้เปิดตลาดการซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้าร่วงลงทันที 38.2 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,370.54 จุด หลังจากนั้นดัชนีดีดกลับมาค่อนข้างเร็ว ก่อนจะผันผวนในช่วงเปิดการซื้อขายในภาคบ่าย เนื่องจากมีเหตุระเบิดซ้ำบริเวณสะพานตากสิน ทำให้ดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดของวัน โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิออกมาอย่างมาก 6,908.90 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 12,030.75 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศ เป็นผู้ซื้อสุทธิ 17,700.47 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,239.18 ล้านบาท

ตรวจเข้มเกาะสมุย-ภูเก็ต
     สำหรับ การดูแลความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวกันจำนวนมาก ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ และให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตรา หรือเข้าไปรักษาการเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่ จ.กระบี่ นายสาธรวิศิษฎ์ นราวิสุทธิ์ รองผวจ.กระบี่ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญ อาทิ สถานที่ราชการ ท่าอากาศยานและแหล่งท่องเที่ยว อย่างหาดอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา และเกาะพีพี
    ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายอวยชัย อินนาค รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจสอบตามสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากฝั่ง อ.ดอนสัก ไปยังเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวจีนไปจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวยังเที่ยวตามปกติและไม่แตกตื่นกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น
     ที่ จ.ภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.ภูเก็ต ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมืองภูเก็ต โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก และสนามบิน ซึ่งนักท่องเที่ยวยังคงเที่ยวกันตามปกติและไม่ตื่นตระหนกกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น
     ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.ภ.จว.ประจวบฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นตามจุดต่างๆ และสถานที่ราช การสำคัญ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างหาดหัวหิน เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวาน
    ที่ จ.นราธิวาส พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตั้งด่านตรวจเข้มสถานที่สำคัญทุกแห่ง ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยวและจุดล่อแหลม

จัดตร.ดูแลเชียงใหม่-แม่สาย
     ที่ จ.เชียงใหม่ ตำรวจและทหารจัดกำลังออกดูแลความเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญต่างๆ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งเชียงใหม่ไนท์บาร์ซ่า ไนท์ซาฟารี ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก
    ที่จ.เชียงราย นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.เชียงราย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราและตั้งจุดตรวจ บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย หอนาฬิกาเมืองเชียงราย รวมถึงตามแนวชายแดนอ.แม่สาย อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ
    ที่ จ.สระแก้ว กำลังตำรวจและทหารออกตรวจสอบความปลอดภัยตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายและเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเช็ก บุคคลที่เข้าออกประเทศ
    ที่ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและตั้งจุดสกัดทั่วเมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีน เพื่อป้องกันเหตุร้าย

'ยูเอ็น'เสียใจเหตุบึ้มกรุง
    ขณะที่ความเคลื่อนไหวของต่างชาติต่อเหตุการณ์ระเบิด นายบัน คีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลง การณ์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงประชาชนและรัฐบาลไทยต่อกรณีระเบิดในกรุงเทพฯ พร้อมระบุหวังว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จะถูกจับกุมและดำเนินคดี
    ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า นายจอห์น แคร์รี รมว.การต่างประเทศ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งเหยื่อ ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือเหยื่อ โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยได้ออกประกาศฉุกเฉิน เพื่อแนะนำให้ชาวอเมริกันที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในไทย หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
    สื่อมวลชนซักถามว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้ายหรือไม่ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุถึงสาเหตุ
   ด้านสำนักงานกิจการต่างประเทศของอังกฤษโพสต์ข้อความแนะนำการท่องเที่ยวในไทย โดยย้ำว่าขอให้พลเรือนชาวอังกฤษติดตามรายงานข่าวและเพิ่มความระมัดระวังระหว่างท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ

'นาจิบ'ก็ประณามเหตุระเบิด
    นอกจากนี้ เว็บไซต์ต่างประทศหลายสำนัก ทั้งบีบีซีและสกายนิวส์ ร่วมรายงานบทสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งอยู่ใกล้แยกราชประสงค์ในช่วงเกิดเหตุ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยเศรษฐกิจของไทยต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางส่วนอาจลังเลที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
    ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้แล้ว ผลกระทบอีกอย่างที่ได้รับคือ ค่าเงินบาทของไทยลด เช่นเดียวกับหุ้นที่ตกลง โดยเมื่อเช้าวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทลดลงไปอยู่ที่เพียง 35.536 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
   เว็บไซต์นิวส์สเตรทไทมส์ของมาเลเซียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ผู้นำมาเลเซีย แถลงประณามเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ซึ่งคร่าชีวิตชาวมาเลเซียด้วย ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ระบุเพิ่มเติมว่า มีพลเรือนชาวมาเลเซียได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 3 คน พร้อมกันนี้นายนาจิบยังกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ประสบเหตุ และว่ากระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียและสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยจะประสานงานให้ความช่วยเหลือชาวมาเลเซียและครอบครัวของเหยื่ออย่างเต็มที่
    ด้านชาแนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องยืนยันว่ามีชาวสิงคโปร์อย่างน้อย 1 รายเสียชีวิตจากเหตุระเบิด พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่กงสุลสิงคโปร์เร่งประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวในการเดินทางมาเยี่ยมญาติผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในประเทศไทย