WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

10คน

 

2 ชาย'แดง-ขาว'รุดเคลียร์ตร. ปัดเอี่ยวบึ้ม พบพิรุธอีก'สาวเสื้อดำ' เพิ่มเงินรางวัลเป็น4ล. 'บิ๊กเนชั่น"แถลงขอโทษ เลียนแบบ'ชายแบกเป้'

     กทม.จัดทำบุญ 5 ศาสนาปลุกขวัญ-กำลังใจหลังเหตุวางระเบิดศาลพระพรหม 'บิ๊กอ๊อด'ประเมินทำเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน

 

มติชนออนไลน์ :

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดอกไม้พระราชทานเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม



ขอโทษ - ทีมงานเนชั่นทีวีแต่งกายเลียนแบบผู้ต้องสงสัยวางระเบิดเดินเข้าไปบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ใกล้จุดระเบิด เพื่อถ่ายทำเหตุการณ์จำลอง ทำให้ผู้พบเห็นไม่พอใจ ตำรวจได้เชิญตัวออกจากพื้นที่ก่อนที่ผู้บริหารเนชั่นออกมาแถลงขอโทษ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม (ภาพจากแฟนเพจ"รวมมิตรการเมือง")

 


  หลักฐาน - ภาพกล้องวงจรปิดในเหตุลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม (ซ้าย) เวลา 18.38 น. รถตุ๊กตุ๊กเพิ่งส่งผู้ต้องหาลงที่หน้า รร.แกรนด์ ไฮแอทเอราวัณ ก่อนเดินมุ่งหน้าไปที่ศาลท้าวมหาพรหมแล้วทำการวางระเบิด (ขวา) คนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อหลบหนีตรงบริเวณหน้า ซอยมหาดเล็กหลวง 2 มุ่งหน้าสู่แยกศาลาแดง

@ ตร.ชี้ขบวนบึ้มไม่ต่ำกว่า 10 คน

      เจ้าหน้าที่ระดมกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามคนร้ายก่อเหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 สิงหาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน ได้รับบาดเจ็บ 130 คน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของคดีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าหลังเกิดเหตุ ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคงได้ทำงานร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งแลกเปลี่ยนข่าวสารกับหน่วยข่าวประเทศต่างๆ ที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการก่อการร้าย การก่อเหตุต่างๆ ทั่วโลก เพื่อนำมาเทียบเคียง จากการสืบสวนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่ามีความน่าสงสัย ทั้งตัวบุคคลหลายคนที่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ยังมองทุกประเด็น

       "ผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏตามซีซีทีวีก็เป็นคนหนึ่งเท่านั้นที่เราสงสัย เราไม่ปักใจว่าชายที่ปรากฏในภาพว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราไม่อาจสรุปได้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้ คนร้ายที่มีความเชี่ยวชาญอาจมีเจตนาทำให้เจ้าหน้าที่สับสน อาจปลอมแปลงใบหน้าเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นชาวต่างชาติ หรืออาจเป็นกรณีสร้างหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เราจึงยังไม่ฟันธงว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ แต่เชื่อว่าต้องมีเป็นขบวนการ ทำงานเป็นทีม มีทีมสำรวจพื้นที่ ดูแลเส้นทาง คุ้มกัน จัดหาวัสดุอุปกรณ์ และทีมพามาก่อเหตุ พาหลบหนีโดยรู้เส้นทาง เท่าที่เอ่ยมาไม่ต่ำกว่า 10 คน และเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นขบวนการที่มาจากต่างประเทศโดยลำพัง หรือเป็นอย่างที่หลายคนสงสัยว่าเป็นการก่อการร้ายที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ผมเชื่อว่าขบวนการนี้มีความเชื่อมโยงกับคนภายในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องพิสูจน์กันต่อไป กรณีที่นายกฯพูดว่าผู้ก่อเหตุอาจถูกฆ่าตัดตอน เพราะท่านคงมีข้อมูลเช่นเดียวกับผมว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนภายในประเทศ แต่ต้องการที่จะเบี่ยงเบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจผิดว่าเป็นชาวต่างชาติ" ผบ.ตร.กล่าว

 

@ คาดวางแผนมาเป็นเดือน

      เมื่อถามว่า การตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการฆ่าตัดตอน ขบวนการนี้ต้องใหญ่และอาจเป็นขบวนการต่างประเทศเกี่ยวข้อง ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่เคยบอกว่ามีขบวนการต่างประเทศมาเกี่ยวข้อง บอกแค่ว่าเป็นขบวนการใหญ่ มีการจัดตั้ง เตรียมการ โดยใช้บุคคลจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยเชื่อตามทฤษฎีที่ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่มีประสบการณ์ มีความรู้เรื่องการวางระเบิดเช่นนี้ ซึ่งระบุว่าต้องมีหลายชุดประกอบกัน 

       "จากพยานหลักฐานที่เราพบ มีการสำรวจพื้นที่หลายครั้ง มีการวางแผนกำหนดจุด พาหนีจากจุดนี้ไปลงตรงนี้ แล้วมีอีกชุดมารับ นอกจากนี้การวางแผนต้องวางแผนนอกพื้นที่ กทม.เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่ได้พูดลอยๆ คิดเอาเอง หรือจินตนาการ เพราะจากการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้เราจินตนาการได้ว่า เมื่อคนร้ายก่อเหตุแล้วเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ให้พาไปส่งที่สวนลุมพินี ขณะนั่งรถคนร้ายติดต่อโทรศัพท์พูดคุย เมื่อลงแล้วยืนรอ ไม่ไปไหน แสดงว่ามีคนมารับ ส่วนจะพูดภาษาอะไร เป็นคนชาติใด อยู่ในสำนวน บอกไม่ได้ คิดว่าคนร้ายยังอยู่ในประเทศไทย และเชื่อว่ามีการวางแผนมาเป็นเดือน" ผบ.ตร.กล่าว

 

@ ชี้มีคนจองที่นั่งให้คนวางบึ้ม

      เมื่อถามว่า หากเชื่อว่ามีคนไทยเกี่ยวข้อง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นคนมีสีเกี่ยวข้อง เพราะมีความเชี่ยวชาญ ผบ.ตร.กล่าวว่า "ยังตอบไม่ได้ ทำไมต้องมีคนมีสี เดี๋ยวนี้ยุทธวิธีคนธรรมดาก็ทำได้ ในอดีตที่ผ่านมา ถามคนร้ายที่ยิงระเบิดเอ็ม 79 สารภาพว่าไม่เคยยิง ยิงเป็นเพราะดูจากทีวี" 

       ผู้สื่อข่าวถามถึงภาพในวงจรปิดระบุถึงชายเสื้อแดงและเสื้อขาวที่อยู่ใกล้ผู้ต้องหาขณะก่อเหตุ ผบ.ตร.กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยมีมากกว่านั้น สองคนนี้เพียงตั้งประเด็นไว้ การข่าวมีมากกว่านี้ที่สงสัย แต่ต้องสงวนเป็นความลับ 

       "ทั้งคู่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ลักษณะคล้ายมาจองที่นั่งไว้ พอคนลงมือเดินทางมาถึงก็ลุกขึ้น ต้องจินตนาการว่าสถานที่อย่างนั้น เดินมาถึงมันจะมีที่นั่งเลยไหม อันนี้ยังเป็นเพียงแนวทางสืบสวน อาจไม่ใช่ อาจผิดก็ได้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าคนเหล่านี้รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ลักษณะคล้ายชนชาติใด ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะมีการโยงไปอีก ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน อยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บหรือไม่ แต่ดูจากคลิปออกจากบริเวณศาลไปก่อนที่คนเสื้อเหลืองจะออกจากจุดเกิดเหตุด้วยซ้ำ ส่วนจะออกหมายจับชาย 2 คนนี้หรือไม่ อยู่ที่พนักงานสอบสวน" พล.ต.อ.สมยศกล่าว 

 

@ คนร้ายเตรียมการรัดกุม

    เมื่อถามว่า มีคนพาคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศแล้วหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า หากเป็นชาวต่างชาติต้องมีการเตรียมการอย่างดี ต้องเตรียมมาแล้วว่าจะทำอย่างไรบ้าง ขั้นตอน 1-2-3 คงไม่มีแผนเดียว แต่ไม่ว่าจะเป็นใครที่ปรากฏในจุดเกิดเหตุและถูกสันนิษฐานว่า น่าจะเกี่ยวข้อง ต้องติดตามตัวมาสอบปากคำ 

      ส่วนการตรวจสอบวัตถุระเบิดจากเหตุที่ราชประสงค์กับที่สะพานสาทร ซึ่งคนร้ายโยนระเบิดจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินลงมาข้างท่าเรือสาทร ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน โดยระเบิดตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 สิงหาคม พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีความคล้ายคลึงกัน แต่ต้องดูว่าการทำงานของระเบิดมีการจุดชนวนคล้ายกันหรือไม่ ที่ศาลท้าวมหาพรหมไม่เจอพยานหลักฐานอะไรมากมาย แต่ที่สาทรระเบิดตกน้ำ การระเบิดไม่สมบูรณ์จึงทิ้งพยานหลักฐานไว้มาก

       ด้าน พ.ต.ท.สัญชัย มาตรคำจันทร์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา และ พ.ต.ต.ณัฐ มนัส สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวน เดินทางมาบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยนำก้อนอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยม น้ำหนัก 2 กิโลกรัม มาเพื่อขว้างลงมาจากด้านบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งมุ่งหน้าธนบุรี 3 ก้อน และถนนมุ่งหน้าถนนสาทร 2 ก้อน เพื่อดูทิศทางการดิ่งลงมาใกล้เคียงกับจุดที่ระเบิดตกเพื่อจำลองเหตุการณ์ ทางเจ้าหน้าที่พบว่าการใช้ก้อนอิฐขว้างลงนั้นใกล้เคียงกับจุดที่เกิดระเบิดมากที่สุดคือบริเวณเสาไฟฟ้าต้นที่ 19 บนสะพานฝั่งขาเข้า ใกล้เคียงกับชิ้นส่วนเหล็กคล้ายท่อแป๊บขนาดความยาว 7 นิ้ว ที่เจ้าหน้าที่พบก่อนหน้านี้

      ด้าน พ.ต.ท.สัญชัยกล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เนื่องจากครั้งแรกใช้ขวดน้ำขว้างลงมาจากสะพานยังมีความคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับจุดเกิดเหตุระเบิด เมื่อใช้ก้อนอิฐพบว่ามีความใกล้เคียงกับบริเวณที่ตกมากกว่า

 

@ ตร.เพิ่มนำจับอีก 1 ล้าน

      พล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ได้เพิ่มรางวัลนำจับคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ จากเดิม 1 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท หากใครสามารถให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย โดยเงินรางวัลนำจับที่นำมาสมทบ ได้มาจากบริษัทเอกชนรายใหญ่รายหนึ่ง แสดงความจำนงต้องการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว 

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ตามที่มีกระแสข่าว อย่างไรก็ตาม หากมีการจับกุมตัวได้จะต้องมารายงานตน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบ มีหลายคนโทรศัพท์มาแสดงความยินดีที่สามารถจับคนร้ายได้แล้ว โดยระบุว่าทราบมาจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็งงอยู่ จึงอยากเตือนคนที่ชอบเล่นโซเชียลมีเดียที่ส่งข้อความให้เกิดความสับสน ทำให้เสียเวลาไปกับสิ่งเหล่านี้

      "ส่วนเรื่องการนำเสนอข่าวนั้น ผมบอกว่าเรื่องนี้มีการวางแผนหรือดำเนินการมาโดยใช้เวลาพอสมควร พูดไปตามทฤษฎีจากผู้มีความรู้มาวิเคราะห์ให้ฟังว่าอาจมีการวางแผนมานานพอสมควร เช่น มาสำรวจพื้นที่ ตระเตรียมสถานที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อก่อเหตุ รวมถึงสถานที่พัก สำรวจเส้นทาง ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่หมายถึงมีจำนวนผู้ต้องสงสัยเป็น 10 คนตามที่สื่อเสนอ แต่ตามทฤษฎีการก่อความรุนแรงที่บอกว่าต้องประกอบไปด้วยผู้ร่วมตั้งแต่ 10 คน แต่จะน้อยหรือมากกว่านั้นก็แล้วแต่เหตุการณ์ ขอให้สื่อมวลชนเขียนข่าวให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าผมรู้มาเป็นเดือนว่าจะก่อเหตุหรือฟันธงว่าจะมีผู้ต้องสงสัยเป็น 10 คน แต่ความน่าจะเป็นต้องมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากเท่านั้น" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

 

@ เพิ่ม 3 ผู้ต้องสงสัยในวงจรปิด 

     ขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังห้างอัมรินทร์ พลาซ่า ตรวจสอบศูนย์ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณแยกราชประสงค์ รอบพื้นที่เกิดเหตุระเบิด โดย พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังไป 1 ชั่วโมง ก่อนเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยว่ามีกี่คน และมีความเคลื่อนไหวอะไรก่อนเกิดเหตุ และไม่ให้ใครไปทำอะไรกับวงจรปิดทั้งหมด 

       พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากโรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหม ยังไม่พบทะเบียนของรถสามล้อที่รับผู้ต้องหามาจุดเกิดเหตุ อยากวิงวอนให้ผู้ขับรถสามล้อคันดังกล่าวเข้ามาพบตำรวจโดยด่วน 

 

@ ปฏิบัติการเอกซเรย์ทั่วกรุง

     โฆษก ตร.กล่าวว่า นับจากวันนี้ไปตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจแบบเอกซเรย์ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเร่งค้นหาผู้ต้องสงสัย มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน นอกจากออกหมายจับชายต้องสงสัยที่สวมใส่เสื้อยืดสีเหลือง 1 คนแล้ว ยังมีบุคคลที่สงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องอีก 3 คน ในกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายก่อเหตุ คือชายสวมเสื้อแดง ชายเสื้อขาว และหญิงเสื้อดำ ซึ่งทั้งสามคนมีพฤติกรรมต้องสงสัย คือลุกให้นั่งและทำท่าทางเหมือนยืนบังขณะคนร้ายวางกระเป๋า และอยู่ระหว่างตรวจสอบการเข้าและออกบริเวณศาลของทั้งสามคน แต่เชื่อว่าหากเป็นขบวนการเดียวกันคงไม่เข้า-ออกพร้อมกับชายเสื้อเหลืองที่วางระเบิด อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนยังเป็นเพียงการสงสัย ต้องตามตัวมาสอบปากคำก่อน 

 

@ ยังไม่พบขบวนบึ้มหนีตปท.

      ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. เรียกประชุม ผบก.-รอง ผบก. ผกก. รอง ผกก. ที่รับผิดชอบงานสืบสวน สังกัด บช.น.ทั้งหมด เพื่อมอบนโยบายดูแลความปลอดภัยในพื้นที่นครบาล โดยเฉพาะพื้นที่มีชาวต่างชาติจำนวนมากพักอาศัยอยู่ พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดหาจุดเสี่ยงวางมาตรการป้องกันเหตุ

พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดแยกราชประสงค์และเหตุปาระเบิดที่ท่าน้ำสาทรว่า ระเบิดที่ท่าน้ำสาทรน่าจะเป็นระเบิดประเภทไปป์บอมบ์ แต่เป็นชนิดเดียวกับแยกราชประสงค์หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ ต้องรอกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด (อีโอดี) คดีระเบิดที่สาทรขณะนี้ยังสันนิษฐานไม่ได้ว่าคนร้ายใช้พาหนะอะไร อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้จึงยังระบุไม่ได้ว่าระเบิดเกิดจากคนร้ายโยนลงมาหรือไม่

      ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ยังอยู่ในประเทศหรือไม่ พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เนื่องจากทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รายงานว่ายังไม่พบกลุ่มผู้ต้องสงสัย เมื่อถามถึงชายผู้สงสัย 2 คน ใส่เสื้อแดงและเสื้อขาวอยู่ใกล้กับมือวางระเบิด พล.ต.ต.ชาญเทพตอบว่า คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นทิ้งไป ส่วนคนขับรถสามล้อที่พามือวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ขณะนี้ทราบทะเบียนรถแล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะเชิญตัวมาสอบปากคำได้

 

@ เจอคนขับตุ๊กตุ๊ก-นำสอบปากคำ

      รายงานจากชุดสืบสวน บช.น.แจ้งว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณเกิดเหตุแยกราชประสงค์ทั้งหมด โดยย้อนดูใหม่อีกครั้ง พบว่าชายใส่เสื้อแดงและชายใส่เสื้อสีขาวเดินคู่กันออกจากบริเวณศาลท้าวมหาพรหม ข้ามถนนพระราม 1 เดินมุ่งหน้าไปทางประตูน้ำ พอถึงบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ก็เกิดระเบิดขึ้น ในกล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายทั้งคู่ไว้ได้ขณะตกใจ ได้ยินเสียงระเบิดแล้วกระโดดหลบ มีอากัปกริยาคล้ายสาวประเภทสองอย่างเห็นได้ชัด ชุดสืบสวนวิเคราะห์ว่าทั้งคู่ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะถ้าร่วมก่อเหตุไม่น่าจะตกใจขนาดนั้นเมื่อได้ยินเสียงระเบิด

     รายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังพบต้นทางของคนร้ายมือวางระเบิดที่โดยสารรถตุ๊กตุ๊กมาลงที่เกิดเหตุ โดยพบว่ามีกล้องวงจรปิดบริเวณย่านถนนบรรทัดทองบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เวลา 17.55.28 น. วันที่ 17 สิงหาคม ซึ่งคนร้ายนั่งอยู่บนรถตุ๊กตุ๊ก หมายเลขทะเบียน สก 1824 ผ่านแถวบริเวณปากซอยจุฬาลงกรณ์ 9 จากการไล่ดูกล้องวงจรปิดต่อเนื่อง เวลา 17.56.14 น. เลี้ยวซ้ายถนนพระราม 4 (ขาเข้า) เวลา 17.56.29 น. รถตุ๊กตุ๊กขับขี่ไปทางถนนพระราม 4 จนถึงแยกสามย่าน และแยกอังรีดูนังต์ เวลา 18.20.44 น. รถสามล้อเครื่องเลี้ยวซ้ายที่แยกศาลาแดง มุ่งหน้าเข้าถนนราชดำริ ผ่านสามแยกถนนสารสิน มุ่งหน้าสี่แยกราชประสงค์ จากนั้นเลี้ยวกลับรถก่อนถึงสี่แยกราชประสงค์ ชุดสืบสวนคาดว่าคนร้ายน่าจะมีแหล่งที่พักอยู่แถวย่านปทุมวัน ล่าสุดชุดสืบสวนติดตามคนขับรถตุ๊กตุ๊กได้แล้ว อยู่ระหว่างพาตัวมาสอบปากคำ

 

@ จยย.แจงผู้สงสัยบึ้มไม่พูดภ.อังกฤษ

      ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์กับนายเกษม (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ประกอบอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างประจำซอยมหาดเล็กหลวง 1 ภายหลังจากให้เบาะแสเป็นประโยชน์ต่อตำรวจว่า เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งชายที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ 

นายเกษมกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุอยู่ประจำจุดให้บริการลูกค้ากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 3 คน จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว โดยช่วงแรกคาดว่าเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด จึงไม่ได้สนใจ เมื่อสิ้นเสียงได้ประมาณ 3-5 นาที มีชายชาวต่างชาติเดินชิดเข้ามาประกบ พร้อมทั้งยื่นกระดาษเขียนแผนที่ระบุลุมพินี พาร์ค (ภาษาอังกฤษ) จากนั้นจึงตกลงค่าโดยสารในราคา 30 บาท ก่อนไปส่งโดยใช้เส้นทางถนนราชดำริฝั่งขาเข้า จากจุดที่รับจนถึงจุดหมายปลายทางรวมระยะทางกว่า 1.2 กิโลเมตร และใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น โดยตลอดระยะทางผู้ต้องสงสัยได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคุยอยู่ตลอดเวลา และภาษาที่สื่อสารยืนยันว่าไม่ใช่ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

    นายเกษมกล่าวอีกว่า จนกระทั่งถึงที่หมาย จึงจอดรถบริเวณริมฟุตปาธด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถของลุมพินี พาร์ค เพื่อให้ลง จากนั้นผู้โดยสารได้หยิบธนบัตรใบละ 20 บาท 2 ใบ ส่งมาให้ ซึ่งระหว่างกำลังหยิบเงินทอน ได้จดจำรูปพรรณสัณฐานได้เพียงแค่คาง มีลักษณะเรียวยาว จมูกโด่ง ผิวขาว และส่วนสูงไม่เกิน 170 เซนติเมตร จากนั้นจึงขี่รถกลับจุดเดิมทันทีโดยไม่ทันสังเกตเห็นว่าชายชาวต่างชาติรายดังกล่าวเดินทางเข้าไปด้านในตัวอาคาร หรือเรียกรถคันอื่นเพื่อโดยสารเดินทางต่อไป

 

@ ตุ๊กตุ๊กยันไม่รู้-ไม่เห็น

     ต่อมาที่ บช.น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. นำตัวนายสุชาติ (สงวนนามสกุล) คนขับรถสามล้อเครื่อง ทะเบียน สก 1824 กรุงเทพมหานคร ที่มาส่งผู้ต้องสงสัยวางระเบิดแยกราชประสงค์ โดยรับมาจากบริเวณร้านซ่อมรถแห่งหนึ่งบริเวณซอยวัดดวงแข มาสอบปากคำเบื้องต้น นายสุชาติรับผู้ต้องหาจากบริเวณหน้าหัวลำโพงบอกว่าไปจุฬาฯ จากนั้นขับรถเลาะไปตามแผนที่ในโทรศัพท์ที่คนร้ายหยิบมาให้ดู ก่อนจะให้ไปส่งที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ รับค่าจ้างก่อนขับรถออกไปทันที แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนประเด็นผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน เป็นชายสวมเสื้อสีแดงและสวมเสื้อสีขาวยืนอยู่บริเวณหน้าผู้ต้องหาในศาลท้าวมหาพรหม เบื้องต้นชุดสืบสวนสอบสวนได้รับการประสานว่า ขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนกัน และประกอบอาชีพเป็นล่ามแปลภาษาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ต.ชาญเทพ, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุต่อไป 

 

@ 'ประวุฒิ'สรุปคดีคืบ 2 ประเด็น

      ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ประวุฒิให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการประชุมสรุปคดีวันนี้ว่า มีความคืบหน้า 2 เรื่อง คือ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก เป็นคนที่รับผู้ต้องหาไปยังที่เกิดเหตุ จุดใดจุดหนึ่งหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ฝั่งเดียวกับศาลท้าวมหาพรหม กำลังสอบปากคำ ส่วนอีกกรณีเรื่องภาพชาย 2 คน ปรากฏอยู่ภายในคลิปวิดีโอใส่เสื้อคอกลมสีแดงและใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เบื้องต้นพบชายใส่เสื้อคอกลมสีแดงแล้ว เดินทางเข้ามาพบตำรวจ สน.ลุมพินี จากนั้นจึงเชิญตัวไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. เบื้องต้นทำการสอบปากคำเสร็จแล้วและให้เดินทางกลับ 

       ส่วนชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีเป็นชาวจีนแผนดินใหญ่ เดินทางกลับประเทศไปแล้ว แต่จากการตรวจสอบไม่มีอะไรน่าจะเกี่ยวข้องผู้ต้องหา 

เมื่อถามว่า นอกจากชาย 2 คนในคลิปดังกล่าว มีบุคคลอื่นอีกหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ชายไทยเสื้อแดงเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ พ่อแม่เปิดร้านอาหารในกรุงเทพมหานคร แต่เพื่อนฝากมาให้ดูแลเพื่อนที่เป็นชาวจีนไปเที่ยวเมืองไทย อยากจะไปไหนก็พาไป สุดท้ายพามาไหว้พระพรหม ส่วนจะมีการเชิญตัวชายไทยเสื้อแดงมาสอบอีกครั้งหรือไม่ คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะเชิญมาสอบอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า เมื่อจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งผู้ต้องหาบริเวณลุมพินี พาร์ค ผู้ต้องหาได้นั่งรถไปบริเวณไหนต่อหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ทราบ กล้องซีซีทีวีไม่สามารถจับภาพได้เลย ในวันนั้น เวลา 19.00 น. ซีซีทีวีจะลดการมองเห็นแค่ 1 ใน 3 เพราะช่วงมืดออกมาข้างนอก ลงจากรถตุ๊กตุ๊ก เวลา 18.00 น. ถนนค่อนข้างมืด แสงไฟก็มีความสว่างน้อยมาก แต่ละกล้องทำให้เห็นได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม หากมีผู้พบเห็นสาวเสื้อดำให้ติดต่อมา

 

@ บิ๊กตู่เผยไม่ตัดปมการเมือง

      ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ในเวลา 07.00 น. วันที่ 21 สิงหาคมนี้ ได้มอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ซึ่งจัดโดย กทม. โดยหวังว่าจะเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจประชาชนกลับมา โดยให้มีการจัดเตรียมสถานที่ให้มีความปลอดภัย 

     ผู้สื่อข่าวถามว่า สื่อต่างชาติมุ่งประเด็นสาเหตุไปที่ปัญหาอุยกูร์ จากกรณีไทยส่งชาวอุยกูร์อพยพไปให้ทางการจีน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่ว่าหน้าผู้ต้องสงสัยจะเหมือนฝรั่งแล้วจะเป็นอุยกูร์ แต่อาจจะเป็นฝรั่งที่ร่วมมือกับคนไทยก็ได้ ทำไมไม่คิดแบบนั้นบ้าง แต่ยังไม่มองไปทางหนึ่งทางใด ดังนั้นอย่าเพิ่งไปมองว่าใช่หรือไม่ใช่ 

 

@ พวกสุดโต่งก็อยู่ในข่าย

     เมื่อถามอีกว่า จะมีการขอหลักฐานจากสื่อต่างชาติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า "เขาพูดมาแล้ว มีคณะกรรมการสิทธิของอุยกูร์อยู่ มีการแถลงไปแล้วว่าไม่ควรจะทำอย่างนั้น ซึ่งหนังสือพิมพ์เขียนเอง แต่ก็เป็นไปได้หลายประเด็น หนึ่งการเมือง สองอย่างที่สื่อว่า สามก็คือสุดโต่งอะไรอย่างนั้น มันเป็นไปได้ทั้งหมด แต่สองอย่างนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นผมจึงไม่อยากพูดในตอนนี้ เพราะมันอันตรายต่ออาเซียนด้วย เราต้องระมัดระวังตัวเอง แต่เรื่องการเมืองก็ไม่ได้ตัดทิ้ง คิดได้หลายอย่าง ไอ้นี่ก็เป็นฝรั่ง ระเบิดก็อีกแบบบ้าง เหมือนใต้เหมือนอะไรบ้าง ถ้าทางด้านการเมืองก็มีเว็บไซต์อะไรออกมาต่อๆ กัน มีการบอกว่าจะปิดโรงเรียน สถาบันการเงิน ใครทำ พวกที่สื่อเอ่ยชื่อมามันทำหรือเปล่า ตอนนี้กำลังสอบอยู่ เขาคิดทุกอย่าง แต่ยิ่งพูดมากคนร้ายก็จะยิ่งหนีไปไกลอีก เงียบๆ เสียบ้าง"

      เมื่อถามว่า ที่นายกฯบอกว่าสุดโต่งนั้น หมายถึงสุดโต่งขบวนการไอเอส หรือสุดโต่งในภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบสวนกลับอย่างมีอารมณ์ว่า "เธอก็รู้อยู่แล้ว เธอจะมาถามฉันทำไม ให้ฉันเอ่ยชื่อออกมาใช่ไหมล่ะ เคยตัว ถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วฉันจะโทษเธอนะจะบอกให้" 

เมื่อผู้สื่อข่าวแย้งว่า ไม่ๆ พล.อ.ประยุทธ์รีบตอบตัดบททันทีว่า "ไม่ต้องมาไม่ ฉันพูดมาหลายทีแล้ว ไอ้สุดโต่งนักข่าวสุดโต่งนั่นมันเธอ"

ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้ตอบรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศที่จะยืมเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบเหตุระเบิด แต่ไม่ได้ให้มาร่วมสอบสวนด้วย ส่วนประเทศอะไรไม่ทราบ ต้องไปถามตำรวจ อาจจะเป็นสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ

 

@ 'มารค์'ชี้ก่อการร้ายไม่ชัดเจน

      นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดว่า หากจะมองว่าเป็นเรื่องของการก่อการร้ายสากล ก็ยังไม่สนิทใจนัก เพราหากเป็นลักษณะดังกล่าวต้องมีความชัดเจนของผู้กระทำพอสมควรว่า ทำเพื่ออะไร ตรงนี้ยังเป็นข้อสังเกตอยู่ เหมือนเป็นชิ้นส่วนที่หายไป หากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการก่อการร้ายสากล

      นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ต้องเร่งเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพื่อที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่น หลายเดือนที่ผ่านมาเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้น แต่ไม่รุนแรงเท่านี้ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้และก็จะมีมาอีก เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องให้ความร่วมมือ สนับสนุนทางเจ้าหน้าที่เต็มที่ในการแก้ปัญหา ส่วนประเด็นหรือสาเหตุในการก่อเหตุจากวัตถุระเบิดที่ระบุว่า ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน จนทำให้มองถึงเรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ ถือเป็นการคาดการณ์ทั้งนั้น 

 

@ เต้นขอร่วมมือสู่ภัยคุกคาม

      ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีนายพงศ์ภพ บุญสารี อายุ 36 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก วิชเวช พรพรหมรักษา โพสต์แจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุรุนแรงระหว่างวันที่ 14-18 สิงหาคม เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่า เท่าที่ติดตามข่าวเข้าใจว่าเป็นการโพสต์โดยเอาข้อความมาจากเว็บเพจอื่น แล้วตัวคนโพสต์ข้อความมีลักษณะบุคลิกและวิธีคิดเฉพาะตัว เจ้าหน้าที่คงจะสัมผัสได้ เรื่องแบบนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจน เพราะสถานการณ์แบบนี้ถ้าคลุมเครือจะมีแต่ความวุ่นวาย และพยายามสื่อสารไปยังฝ่ายต่างๆ ว่านี่คือภัยคุกคามของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะฝ่ายไหน สีอะไร เดินถนน เดินบนสะพาน มีโอกาสเป็นผู้เคราะห์ร้ายบาดเจ็บล้มตายได้หมด ดังนั้นความแตกต่างทางการเมืองต้องวางเอาไว้ก่อน ให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมตัวทั้งคนลงมือ คนอยู่เบื้องหลังให้ได้

 

@ ทรงพระราชทานช่วยเหลือ

      สำนักพระราชวังแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ในส่วนผู้บาดเจ็บที่ไม่สามารถเบิกตามสิทธิได้ และสำหรับค่าใช้จ่ายในการศพผู้เสียชีวิต รายละ 90,000 บาท ทั้งนี้ ญาติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่นางพรจันทร์ นุกุลประดิษฐ์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง โทร 0-2224-3220 โดยตรง 

นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้เชิญแจกันดอกไม้พระราชทานไปมอบผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลพระราม 9 และโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ 

 

@ แจงเยียวยาเสียชีวิต-บาดเจ็บ

      ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา สบ 10 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิฑูรย์ นิติวรางกูร รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ และ พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ สบ 5 แถลงสรุปยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดย พล.ต.อ.ชัยยงกล่าวว่า ยังคงมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 20 ราย บาดเจ็บประมาณ 130 คน อยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 67 คน โดยมีอาการสาหัสต้องรักษาตัวในห้องไอซียู 6 คน ส่วนผู้เสียชีวิต แบ่งเป็นชาวไทย 6 ราย ชาวต่างชาติ 14 ราย ประกอบด้วย ชาวจีน 5 ราย, มาเลเซีย 5 ราย, ฮ่องกง 2 ราย, อินโดนีเซีย 1 ราย และสิงคโปร์ 1 ราย 

พล.ต.อ.ชัยยงกล่าวต่อว่า สำหรับการเยียวยาผู้เสียชีวิต กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม มอบเงินช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามอบเงินรายละ 3 แสนบาท และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบเงินช่วยเหลือรายละ 90,000 บาท รวมถึงทางรัฐบาลและบริษัทการบินไทยยังช่วยเหลือค่าขนส่งร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติกลับภูมิลำเนาอีกด้วย

 

@ รพ.ตำรวจทำเว็บให้เช็กข้อมูล

      พ.ต.อ.วิรุฬห์กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพศพส่วนใหญ่พบว่าอานุภาพของระเบิดมีความแรงสูง เนื่องจากมีสะเก็ดของลูกบอลเหล็กติดตามร่างกายของผู้เสียชีวิตทุกราย ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย อยู่ รพ.ตำรวจ 17 ราย รพ.จุฬาฯ 3 ราย ซึ่งมีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลครบทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นได้มีญาติผู้เสียชีวิตติดต่อรับศพทั้งหมดแล้ว ส่วนชิ้นเนื้อที่ตรวจดีเอ็นเอพบว่าเป็นบุคคล 2 บุคคล เป็นสัญชาติจีนจำนวน 1 ราย และสัญชาติมาเลเซียอีก 1 ราย เหลือเพียงแค่ดำเนินการเอกสารการออกใบมรณะบัตร ก่อนประสานสถานทูตเพื่อดำเนินการส่งศพกลับประเทศของผู้เสียชีวิต

       นอกจากนี้ รพ.ตำรวจได้จัดทำเว็บไซต์ชื่อว่า www.rps.pgs.go.th เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลรายชื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีทั้งหมด 3 ภาษา คือ ไทย จีน และอังกฤษ 

 

@ มูลนิธิต้านโกงมอบ1แสนช่วยเหยื่อ

       ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับมอบเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวจากนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นจำนวน 1 แสนบาท

       ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า หากผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคสามารถบริจาคเพิ่มเติม ก็สามารถบริจาคได้ที่กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล บัญชีเลขที่ 067 0 06895 0 และสามารถบริจาคด้วยตนเองได้ที่ทำเนียบรัฐบาล

 

@ 'เฮียหวัง'แจงสมทบ 2 ล.ล่ามือบึ้ม

     นายสมหวัง อัสราษี แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการสมทบเงินจำนวน 2 ล้านบาท เป็นรางวัลนำจับมือวางระเบิดแยกราชประสงค์ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องแย่ที่สุด มีการสูญเสีย และส่งผลกระทบที่ร้ายแรงและสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่งรู้สึกว่ารับไม่ได้ เมื่อทางตำรวจมีการตั้งรางวัลนำจับ ก็อยากร่วมด้วย เพื่อให้จับคนร้ายได้โดยเร็ว อยากให้ความร่วมมือในการหาตัวผู้กระทำความผิดในฐานะคนไทยคนหนึ่ง

 

@ แห่ไว้อาลัยที่ศาลพระพรหม

      สำหรับ บรรยากาศบริเวณศาลพระพรหม เเยกราชประสงค์ ตั้งเเต่ช่วงเช้ามีประชาชนเดินทางมาร่วมไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต โดยนำช่อดอกไม้ พวงมาลัย เครื่องเซ่น ผลไม้ กระดาษเงินกระดาษทอง มาเเสดงความอาลัยรอบรั้วศาล นอกจากนี้ ยังนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมาสักการะพระพรหมจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องนำโต๊ะยาวสีขาวมาให้ประชาชนใช้วางดอกไม้สักการะ

พ.ญ.ศิริจันทร์ วงศ์อุไรเลิศกุล หนึ่งในผู้เดินทางมาวางดอกไม้ กล่าวว่า คนไทยต้องมาช่วยกัน จริงๆ มีกลุ่มเพื่อนทางไลน์ 30 กว่าคน จึงมาเป็นตัวเเทน เพราะบางคนอยู่ไกล

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!