WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

20บาท


โฉมหน้า-บึ้มสาทร ล่าหนุ่มตี๋ หิ้วมาหย่อนลงน้ำ 
วงจรปิดเพิ่มถือมาตามถนน เช็กดีเอ็นเอมือระเบิด20ศพ ตรวจเศษเป้-เงินจ่ายตุ๊กตุ๊ก

      เปิดหลักฐานเด็ดเป็นธนบัตรใบละ 20 บาท ที่คนร้ายใช้จ่ายค่ารถ ส่งตรวจดีเอ็นเอ พร้อมซากเป้บรรจุระเบิดที่เก็บได้ก่อนหน้านี้ ส่งภาพสเกตช์คนร้ายให้ตำรวจสากล 190 ประเทศช่วยไล่ล่า ผลตรวจชัดระเบิดสาทร-พระพรหมเชื่อมโยงกันแน่ เพราะมีรูปแบบเดียวกัน ใช้ทีเอ็นทีและ ลูกปราย ชี้เป็นรูปแบบระเบิดในต่างประเทศ เผยการข่าวระบุเมื่อปี 2554 มีชาวต่างชาติ เข้ามาสอนทำระเบิดในไทย เช็กวงจรปิดย้อนเส้นทางชายเสื้อเหลือง พบนั่งแท็กซี่เขียว-เหลืองมาจากยานนาวา ก่อนขึ้นสามล้อที่หัวลำโพง มาก่อเหตุที่แยกราชประสงค์ ญาติ 4 ชาวจีนรับศพที่นิติเวช เศร้าสลด ขณะที่เหยื่อบึ้มชาวบึงกาฬและเลยเผาศพแล้ว

คสช.ยันคดีบึ้มคืบหน้า

วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9034 ข่าวสดรายวัน


อีกมือบึ้ม - กล้องวงจรปิดจับภาพชายหนุ่มชาวเอเชียเดินหิ้วถุงซุกระเบิด มาตามถนนย่านซอยจรัสเวียง เชิงสะพานสาทร ก่อนนำมาหย่อนลงน้ำที่ท่าเรือเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. โดยตั้งเวลาให้ระเบิดทำงานช่วงบ่ายของวันที่ 18 ส.ค.

 

    เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 22 ส.ค. พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์ในภาพรวม มีความสงบเรียบ ร้อย ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้เสาไฟฟ้าเสียหาย 9 ต้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่เกิดระเบิด 4 ลูก และเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ 5 ลูก แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งผบ.ทบ.สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 เร่งติดตามและจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว

      การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ สำหรับด้านการสอบสวนคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า มีผลการสอบสวนคดีคืบหน้าไปพอสมควร ทั้งเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรเพื่อติดตามจับกุม ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีแต่ยังไม่สามารถ เปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอาจส่งผล กระทบต่อรูปคดี

        ส่วนการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและ ผู้ที่เสียชีวิต กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวง ยุติธรรม จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้ที่เสียชีวิตแล้ว 15 ราย เป็นชาวต่างชาติ 13 ราย และชาวไทย 2 ราย และกรุงเทพมหานคร จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว 9 ราย

การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ มีผู้ที่อาการดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก 7 ราย คงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 56 ราย

      การขอความร่วมมือ หากประชาชนพบเห็น บุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย และวัตถุแปลกปลอม อย่าเข้าไปดำเนินการเอง ให้รีบแจ้ง เจ้าหน้าที่สายตรวจหรือจุดตรวจทั้งทหารและตำรวจ ในบริเวณที่ใกล้ที่สุดได้ทันที เนื่องจากยังคงมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออน ไลน์และการสร้างสถานการณ์ในลักษณะที่ ผิดกฎหมาย ก่อกวนให้สังคมเกิดความสับสนหรือตื่นตระหนก จึงขอให้ยุติการกระทำ ดังกล่าวและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในทุกๆ เรื่องด้วย

ประสานตร.สากลช่วยจับ

       พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกตร. เปิดเผยว่า ส่งภาพสเกตช์ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ให้กับตำรวจสากล 190 ประเทศเพื่อช่วยติดตามตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมของตำรวจสากลหรืออิน เตอร์โพล ส่วนเหตุระเบิดท่าเรือด่วนสาทร ที่มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายเสื้อฟ้ามีพฤติกรรมต้องสงสัย ใช้เท้าถีบของลงน้ำ ก่อนจะเกิดเหตุระเบิดขึ้นในวันต่อมา เบื้องต้นตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว แต่กล้องอยู่ในระยะไกลจึงไม่สามารถจับใบหน้าชายต้องสงสัยได้ชัดเจน และตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการโยนลงจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน แม้ภาพจากกล้องวงจรปิดจะไม่ สามารถจับภาพวัตถุขณะหล่นลงมาได้ก็ตาม ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ยอมรับการคลี่คลายคดีระเบิดเป็นเรื่องยาก และเตรียมลงพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนนักท่องเที่ยว

      เมื่อถามถึงข่าวผู้ก่อเหตุแยกราชประสงค์เป็นคนต่างชาติและคลั่งศาสนา พล.ต.ท. ประวุฒิกล่าวอีกว่า ข้อมูลทั้งหมดให้ตรวจสอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น หลังพบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่สร้างความตื่นตระหนกในโซเชี่ยลมีเดีย ทั้งนี้คดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ตำรวจยังไม่ตัดประเด็น ใดทิ้ง พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ร.ต.ท.พงษ์ศาสตร์ นนท์ตา อายุ 44 ปี พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าจะเกิดความรุนแรง สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างพิจารณาโทษความผิด เนื่องจากสอบสวนแล้วไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุที่เกิดขึ้น จึงถือว่าเป็นการสร้างความตื่นกลัวให้กับสังคม


เป้ระเบิด - เศษซากชิ้นส่วนเป้สะพายของมือบึ้มเสื้อสีเหลือง ที่ใช้ซุกระเบิดแสวงเครื่องนำไปก่อเหตุถล่มศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอ เพื่อเป็นเบาะแสชี้ตัวคนร้าย

บึ้ม"สาทร-พระพรหม"เหมือนกัน

      รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ กับระเบิดที่สะพานสาทร น่าจะเป็นระเบิดชนิดเดียวกันคือทีเอ็นที เนื่องจากพบชิ้นส่วนจากที่เกิดเหตุทั้ง 2 ที่เหมือนกันคือ ท่อแป๊บ และลูกปรายจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่น่าจะประกอบระเบิดมาเพียง 1-2 ลูก น่าจะประกอบมากกว่านั้นไม่ต่ำกว่า 4-5 ลูก จากการตรวจสอบย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ไม่เคยพบวิธีการก่อเหตุระเบิดแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย เชื่อว่าน่าจะเป็นวิธีประกอบระเบิดของต่างประเทศ ขณะเดียวกันจากข้อมูลการตรวจสอบพบว่าเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติ (ไม่รู้สัญชาติ) เข้ามาสอนประกอบระเบิดชนิดดังกล่าวในประเทศไทย โดยระเบิดทีเอ็นทีจะมีน้ำหนักมาก จึงทำให้มีอานุภาพทำลายล้างสูง จนก่อให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

เปิดโฉมหน้าสงสัยบึ้มสาทร

      ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าในส่วนของระเบิด ที่สะพานสาทรนั้นมีภาพปรากฏเพียงในคืนวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของกรมเจ้าท่าบริเวณท่าเรือสาทร พบชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลเดินไป-มาบนสะพาน พร้อมทำทีใช้โทรศัพท์ ก่อนจะวางถุงพลาสติกสีขาวที่เชื่อได้ว่าน่าจะมีระเบิดอยู่ภายใน และใช้เท้าเขี่ยลงไปในคลองเท่านั้น แต่ยังคงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจาก บริเวณดังกล่าวพบเศษถุงพลาสติกสีส้ม ขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบพบกล้องวงจรปิดถึงบริเวณแยกสาทรแล้ว เพื่อตรวจสอบว่า ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวใช้พาหนะใดเดินทางมาก่อเหตุ ทั้งนี้ เนื่องจากระเบิดทีเอ็นเอสามารถจุดชนวนได้ 2 แบบ คือแบบฝักแคหรือตั้งเวลาด้วยการจุดชนวนที่สามารถตั้งเวลาได้สูงสุดประมาณ 12-16 ชั่วโมง ส่วนอีกแบบต่อด้วยวงจรไฟฟ้า ที่อยู่ได้อย่างน้อย 4 วัน ดังนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ต้องไล่กล้องวงจรปิดย้อนกลับไปก่อนเกิด เหตุอย่างน้อย 4 วัน เพื่อดูว่ามีบุคคลใดที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยจะเป็นคนร้ายบ้าง

       รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพวงจรปิดชายต้องสงสัยใส่เสื้อฟ้าที่วางระเบิดท่าเรือสาทรอีกมุมแล้ว เป็นภาพที่เดินมาจากซอยจรัสเวียง เชิงสะพานตากสิน เขตบางรัก กทม. โดยพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายหนุ่มผมสั้น หน้าตี๋ เดินสะพายกระเป๋าและถือถุงพลาสติกคาดใส่ระเบิด พร้อมกับถือแท็บเล็ตเหมือนดูเป็นแผนที่เดินทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวชายต้องสงสัยมาสอบสวนโดยเร็ว

ตร.ยันชายเสื้อลายไม่เกี่ยวข้อง

        อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการระเบิดที่สะพานสาทรนั้นคนร้ายจงใจจะให้ระเบิดทำงานในวันที่ 18 ส.ค. เวลาช่วงบ่ายตามที่ระเบิดจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการนำระเบิดมาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานหลังก่อเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหมสำเร็จแล้ว แต่ที่แน่ใจคือ จุดประสงค์การระเบิดที่สะพานสาทรนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะให้มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะคนร้ายใช้เท้าเขี่ยระเบิดทิ้งคลอง ซึ่งต้องทราบดีอยู่แล้วว่าการที่หล่นลงไปในน้ำจะทำให้อานุภาพของระเบิด ลดน้อยลง ในส่วนของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ลงรูปชายใส่เสื้อเชิ้ตมีลายยืนอยู่บนสะพานสาทรในวันที่ 18 ส.ค. โดยมีการระบุว่าเป็นเวลาก่อนที่ระเบิดจะทำงานนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนละคนกับชายที่เตะระเบิดลงคลอง และจะไม่มีการเรียกชายคนดังกล่าวมาสอบปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากไม่พบความเกี่ยวข้อง

ตรวจดีเอ็นเอจากแบงก์-เศษเป้


รับศพ - พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. อำนวยความสะดวกให้ญาติติดต่อรับศพ ชาวจีน 4 ราย เหยื่อระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ กทม. กลับไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความเศร้าสลดเสียใจ ที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.

        รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะที่ความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม โดยเป็นชายใส่เสื้อสีเหลือง และถูกออกหมายจับตามภาพสเกตช์ไปแล้วนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถไล่กล้องจนทราบว่าคนร้ายโบกรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองมาจากยานนาวา ก่อนจะมาลงรถที่บริเวณสถานี รถไฟหัวลำโพง จากนั้นจึงโบกรถ 3 ล้อ เพื่อเดินทางมาก่อเหตุ โดยขณะนี้พยายามหาตัวคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวเพื่อนำมาสอบปากคำ ขณะเดียวกันทางชุดคณะพนักงานสอบสวนได้หลักฐานเพิ่มเป็นธนบัตรใบละ 20 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรที่คนร้ายชำระเงินค่ารถให้กับคนขับรถสามล้อรวมอยู่ในเงิน 200 บาทเป็นค่ารถ โดยธนบัตรใบละ 100 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนเงินที่ชำระค่ารถคนขับรถสามล้อได้ใช้จ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว จึงเหลือแต่ธนบัตรใบละ 20 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะนำธนบัตรใบดังกล่าวส่งตรวจสอบเพื่อหาดีเอ็นเอของคนร้ายต่อไป

       เช่นเดียวกับเศษเป้ใส่วัตถุระเบิด ที่เจ้าหน้าที่ เก็บหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้ก็จะส่งตรวจดีเอ็นเอ ด้วย

ผบ.ตร.ปิดเมืองค้นรังโจร

      นอกจากนี้ ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 กก.สส.บก.น.6 ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา วิเคราะห์ ข้อมูลจากพฤติกรรมคนร้ายขณะนำวัตถุระเบิดไปวางสถานที่เป้าหมาย คนร้ายเสื้อ สีเหลืองก่อเหตุที่ศาลพระพรหม ย่านราชประสงค์ กับคนร้ายใส่เสื้อสีฟ้า ก่อเหตุที่ท่าน้ำสาทร ทั้ง 2 คน มีการทำท่าทางยกโทรศัพท์มือถือคล้ายกับถ่ายรูป จึงน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน เชื่อว่าน่าจะใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อจุดระเบิดผ่านสัญญาณโทรศัพท์ โดยอาจใช้สัญญาณไวไฟ หรือบลูทูธก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ ชุดสืบสวน ใช้กำลังปูพรมตรวจสอบย่านยานนาวา แถวถนนสาทร และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะพักอาศัยบริเวณดังกล่าว เนื่องจากคนร้ายวางระเบิดที่ท่าน้ำสาทรจุดที่ 2 ก็อยู่ใกล้เคียงกับคนร้ายเสื้อเหลืองก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลพระพรหมที่พบว่ามีการเรียกรถแท็กซี่มาจากบริเวณดังกล่าว

       ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 04.00 น. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานการเปิดยุทธการ "ปิดเมือง ค้นรังโจร" ที่ลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยต่างๆ เพื่อระดมป้องกันปราบปราม และการจัดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย ตรวจค้นจุดล่อแหลมภายในพื้นที่เป้าหมายทั่ว กทม.

โดยเฉพาะแหล่งที่พักพิงชาวต่างชาติ เช่น อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ห้องเช่า เกสต์เฮาส์ เป็นต้น เนื่องมาจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม ย่านราชประสงค์ใจกลางกรุงเทพฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

ญาติชาวจีนรุดรับศพ

      เมื่อเวลา 11.00 น. ที่นิติเวช ร.พ.ตำรวจ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการรับศพให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ บริเวณด้านหน้าศาลท้าวมหา พรหม เอราวัณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด เสียใจ ร่ำไห้กับการจากไปของเหตุการณ์ดังกล่าว

      ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่สถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมครอบครัวของ น.ส.เส้า ฉิง นายได วู เชง น.ส.เกา หยู่ ชู นางฮวง หยู หลาน ผู้เสียชีวิตชาวจีน ติดต่อเข้ารับศพเพื่อไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า วันนี้สถาบันนิติเวช ส่งมอบศพ 4 รายสุดท้ายให้กับทางญาติของผู้เสียชีวิต และจะไปร่วมในพิธีตามศาสนา ด้วย ขณะนี้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว และมีโอกาสสัมผัสกับญาติของผู้เสียชีวิต และได้แจ้งข่าวสารจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กับญาติของผู้เสียชีวิตทราบแล้ว ว่าไม่มีใครอยากให้เกิด และขอโทษ กับทางญาติแล้ว ส่วนเรื่องเงินเยียวยาทางญาติก็พอใจ ขณะนี้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ถ้าหากมีโอกาสจะไปร่วมพิธีศพ

     ส่วนเรื่องความมั่นใจของชาวต่างชาตินั้น เมื่อคืนได้ออกตรวจ และพบชาวต่างชาติทั้ง ที่เพิ่งเข้ามาเที่ยวและที่เที่ยวอยู่ก่อนเกิดเหตุนั้น ยังมีความมั่นใจในความปลอดภัยของประเทศไทย ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีมาตรการในการจัดการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันเต็มที่ 24 ชั่วโมง อยากให้ทุกคนมั่นใจ ส่วนเรื่องศพชาวจีนทั้ง 4 รายนี้ทางญาติขอให้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เปิดเผยสถานที่ในการทำพิธีศพ

จับหนุ่มน.ศ.โพสต์ขู่วางบึ้ม

      ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมสอบสวนนายต้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กขู่วางระเบิดห้างสรรพสินค้าโลตัสหลายจุด โดยข้อความระบุว่า "จุดต่อไปคืออยุธยา กูได้วางไว้ที่โลตัสชั้นใต้ดิน 1 ลูก หน้าโรงหนัง 2 ลูก ทางเข้า 3 ลูก ที่ตลาดเจ้าพรหม 3 ลูก โรงเรียนอนุบาลในฝัน 2 ลูก" จนมีการแชร์ต่อไปทั่วสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสอบตามจุดต่างๆ

นายต้นยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนเองพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คนแอบเอาโทรศัพท์ของเพื่อนแล้วใช้เฟซบุ๊กของเพื่อนพิมพ์ข้อความขู่วางระเบิดตามจุดต่างๆ แล้วโพสต์ข้อความไปตามเพจต่างๆ ทำไปด้วยความคึกคะนองไม่คิดว่าผลกระทบจะรุนแรงมากขนาดนี้ ต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนด้วย

      พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวว่า ฝากเตือนไปยัง ผู้ที่โพสต์ข้อความหรือสร้างสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องของการระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะจับกุมตัวมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับประชาชนและ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบ และยังซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายมากขึ้น ซึ่งมีความผิดวางโทษจำคุกหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำเข้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

เผาศพเหยื่อราชประสงค์

      เมื่อเวลา 15.00 น. ที่จ.บึงกาฬ ญาติๆ นำร่าง น.ส.ปราณี หรือกระแต สีสุวะ อายุ 39 ปี พนักงานสาวธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 1 ใน 20 ของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ ไปยังเมรุวัดโพธิ์ศรีรัตนวราราม บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 6 บ้านดงสาร ต.ซาง อ.เซกา จ.บึงกาฬ เพื่อฌาปนกิจ ท่ามกลาง แขกเหรื่อ ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ตลอดทั้งผู้บังคับ บัญชาและเพื่อนร่วมงานของพ.จ.อ.สำราญ เร่งงาน สามีจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มาร่วมงานประมาณ 1 พันคน โดยมีนายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัด บึงกาฬ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ

      ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในงานศพของน.ส.ปราณี มีการแสดงฟ้อนรำในชุดฉุยฉายต่อหน้าศพ โดยน.ส.อภัสสรา ทาเทพ นักศึกษา วิชานาฏศิลป์ ม.ราชภัฏอุดรธานี หลานสาวของผู้ตาย จากนั้นได้อ่านประวัติความเป็นมาของผู้ตายตั้งแต่ไปทำงานกรุงเทพฯ จนถึงวินาทีสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดหน้าศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพ มหานคร

ที่วัดป่าเวฬุวัณ บ้านห้วยพอด ต.ธาตุ อ.เชียง คาน จ.เลย นายเสน่ห์ นนทะโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยนายอำเภอเชียงคาน หน่วยงานราชการ ประชาชนในหมู่บ้านห้วยพอด และหมู่บ้านใกล้เคียง ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย ไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพน.ส.สุดชาดา นิสิดา อายุ 32 ปี เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่โดนระเบิดจนเสียชีวิต จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของผู้เป็นพ่อแม่ สามี ลูกสาววัย 8 ขวบ ญาติพี่น้อง ที่ต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและเป็นเสาหลักของครอบครัว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!