Details

Category: อาชญากรรม

Published: Thursday, 27 August 2015 15:08

Hits: 6738

จุดใหม่มือบึ้มขึ้นแท็กซี่ พระราม 3 ตร.ลุยเจริญกรุง-หาแหล่งพัก เร่งคลี่ปม'เกรย์วูล์ฟส์'แก้แค้น'ประวุฒิ'ยืนยัน-ไทยก็มีข้อมูล

      เร่งคลี่ปม 'เกรย์วูล์ฟส์' กลุ่มต่างชาติสุดโต่ง โยงเหตุระเบิดกรุง 20 ศพ โฆษกตร.ระบุไทยก็มีข้อมูล แต่ไม่พบเคยเคลื่อนไหวในไทยอาจมีบ้างในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ 'สมยศ' ย้ำทำเป็นขบวนการ พบตัวละครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คัดกรองโทรศัพท์ในข่ายต้องสงสัย จากหมื่นเบอร์จนเหลือ 10-20 เบอร์ เรียกสอบโชเฟอร์แท็กซี่อีกรอบ ชัดแล้วรับขึ้นรถจากถนนเจริญ กรุง ย่านพระราม 3 ตร.ลงพื้นที่หาแหล่งที่พัก จุดเชื่อมโยง พบ 15 ชาวตุรกีเข้าไทย ตรวจสอบไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย ส่วน 'บิ๊กป้อม' ชี้วิธีประกอบระเบิดมีให้เห็นไม่มากในไทย ไม่ตัดทิ้งปมก่อ การร้าย เรื่องระหว่างประเทศ ความเชื่อศาสนา

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9038 ข่าวสดรายวัน

ระดมบูรณะ - นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมทีมจากสำนักช่างสิบหมู่ เร่งบูรณะซ่อมแซมท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ ที่ถูกระเบิดเสียหาย คาดแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.ย. และจะมีพิธีสมโภชในวันที่ 4 ก.ย.

      จากเหตุระเบิดเขย่ากรุง 2 จุด บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 20 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 คน และอีกจุดในวันรุ่งขึ้นที่บริเวณท่าเรือสาทร แหล่งที่มีนักท่องเที่ยวจีนพลุกพล่าน โดยกล้องวงจรปิดจับภาพชายชาวต่างชาติต้องสงสัยใส่เสื้อสีเหลือง มือวางระเบิดที่ราชประสงค์ ส่วนที่บริเวณท่าเรือสาทรนั้นกล้องจับภาพชายชาวเอเชียหน้าตี๋ โดยล่าสุดมีการวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศว่าอาจเป็นฝีมือ "เกรย์ วูล์ฟส์" หรือหมาป่า สีเทา เป็น กลุ่มชาตินิยมสายสุดโต่งในประเทศตุรกี สาเหตุอาจไม่พอใจกรณีรัฐบาลไทยส่งชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์กลับไปให้ทางการจีน ซึ่งก็สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของหน่วยข่าวไทยเช่นกัน ตามที่เสนอข่าวไปเป็นลำดับแล้วนั้น

'สมยศ'รับกดดัน-คลี่บึ้มกรุง

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า ภายหลังพบพยานบุคคลและรถแท็กซี่ที่รับมือระเบิด คาดว่าอาจได้ดีเอ็นเอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คนร้ายทิ้งร่องรอยไว้ มาเป็นหลักฐานประกอบกับการสอบสวน เพื่อเป็นแนวทางติดตามจับกุมคนร้าย

ผู้สื่อข่าวถามว่านักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์ว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ พล.ต.อ. สมยศกล่าวว่า เรื่องวิเคราะห์ห้ามกันไม่ได้ เป็นสิทธิ เพราะเขามีแนวความคิด มีทฤษฎี และมีฐานข้อมูล หรือพยานหลักฐานที่แตกต่างกันไป แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น จนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่แน่นอน เอาเป็นว่าทุกวันนี้ผ่านไป 7-8 วันตำรวจไม่ได้หลับได้นอน ทุกคนทำงานเหมือนหัวนอต หัวสกรู แทบจะเอาหัวเดินต่างเท้า มันกดดัน ไม่ได้กดดันจากสื่อและสังคม เรากดดันตัวเราเอง เพราะมีความมุ่งมั่นจะจับให้ได้ ถ้าจับได้ก็เป็นการเรียกความ เชื่อมั่น เรียกศรัทธากลับมา

ย้ำทำเป็นทีม-พบตัวละครเพิ่ม

      ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจสอบของหน่วยข่าวพอจะชี้ชัดว่ามีการติดต่อกับคนต่างประเทศแล้วหรือยัง เพราะมีการตรวจสอบโทรศัพท์ ผบ.ตร.กล่าวว่า เราทำทุกเรื่องทุกทาง แต่บอกไม่ได้จริงๆ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมายังตำหนิ สน.ลุมพินี และกองพิสูจน์หลักฐาน ที่พาคนขับแท็กซี่ซึ่งเป็นพยานมาที่กองพิสูจน์หลักฐานโดยไม่ปิดบัง ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือปล่อยให้สัมภาษณ์แท็กซี่ที่เป็นพยาน ฝากตำรวจทุกคนที่รับผิดชอบอย่าทำในลักษณะที่ปล่อยให้พยานต้องถูกเปิดเผยตัว เพราะว่ากลัวเหมือนกัน

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ต้องขอบคุณประชาชน ที่รู้ว่าตำรวจมีปัญหาอะไรและเอาข้อมูลมาให้ เช่น กรณีบริษัท หรืออาคารต่างๆ มีกล้องซีซีทีวีที่จับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ก็เอามาให้ และขอบคุณมิตรประเทศที่เอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วย ทำในสิ่งที่เราไม่สามารถดำเนินการได้ หลายๆ อย่างเกิดประโยชน์ แต่หลายๆ อย่างต้องรอเวลา และขอย้ำว่าเหตุการณ์ระเบิดทำเป็นขบวนการ พบตัวละครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบ่งงานกันทำ

คัดกรองเบอร์โทร.ต้องสงสัย

       ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าเหตุระเบิดอาจเกิดจากกลุ่มอุยกูร์ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า นายกฯ คงมีข้อมูลในหลายๆ ด้าน เพราะเป็นผู้นำประเทศ ส่วนตนมีข้อมูลแค่ไหนก็พูดได้แค่นั้น บางสิ่งบางอย่างถ้ามองแล้วว่าตำรวจไม่ควรพูด พูดแล้วอาจเกิดความเสียหาย ก็ไม่ควรพูด ประเด็นนี้ก็ต้องฟังนายกฯ และตำรวจจะนำมาวิเคราะห์ต่อไป โดยต้องดูว่านายกฯ มีข้อมูลอะไรบ้าง เพราะประชุมทุกวัน และรัฐบาลอาจจะให้ข้อมูลต่อไป

"ผมเชื่อมั่นว่าตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้ แต่ประเด็นตอนนี้มันเปลี่ยนไปเรื่อย ขอย้ำว่าตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งแม้แต่ประเด็นเดียว ไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นใดประเด็นหนึ่ง จนกว่าหลักฐานจะชัดเจน การคัดกรองเบอร์โทรศัพท์ตำรวจคัดจากหมื่นหมายเลขมาเหลือเพียง 10-20 เบอร์ แต่ปัญหาคือเราไม่มีเครื่องมือคัดกรองโทรศัพท์ หรือคัดกรองใบหน้าบุคคล หากมีเครื่องมือเหล่านี้การทำงานจะง่ายขึ้น เพราะเครื่องมือคัดกรองใบหน้าจะมีกรอบสี่เหลี่ยมจับภาพใบหน้าของทุกคนพร้อมกันในเฟรมเดียว หากเป็นภาพบุคคลต้องสงสัยก็จะแจ้งเตือน ตำรวจก็ดูดข้อมูลเข้ามาตรวจสอบต่อไป เครื่องมือทันสมัยเหล่านี้ไม่มีในประเทศไทย แต่ในโลกเขามีกันแล้ว เช่น กล้องซีซีทีวีสมัยใหม่ไม่ได้ถ่ายแค่ภาพเท่านั้น ยกตัวอย่างเมื่อผมเดินถือกระเป๋าเข้ามาในห้อง แต่ตอนเดินออกไปไม่มีกระเป๋า เครื่องจะแจ้งเตือนทันทีว่าเป็นบุคคลน่าสงสัยผิดปกติ" ผบ.ตร.กล่าว

สอบคนขับแท็กซี่อีก-ยังสับสน

      พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตำรวจ กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศเชิญคนขับรถแท็กซี่มาสอบถามอีกครั้งว่าเป็นจุดไหนกันแน่ที่รับส่งผู้ต้องสงสัยมือระเบิด เพราะกำลังสับสน ทั้งเรื่องเวลา สถานที่ และจุดรับส่ง ขณะที่การสืบสวนกรณีระเบิดท่าเรือสาทรก็กำลังทำอยู่ แต่ติดขัดปัญหาที่กล้องวงจรปิดไม่ชัด บางกล้องก็เห็นแค่ขา กล้องบนถนนก็ไม่มี ถ้ามีก็ขอให้ส่งมาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่ผู้ต้องหาลงรถที่ศาลาแดงในเวลา 18.00 น.ก็ไม่มี

     โฆษกตำรวจกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่คนขับแท็กซี่ระบุว่ารับคนต่างชาติพูดภาษาไทยไม่ชัด จะทำให้ตำรวจตัดคนต่างชาติ หรือคนไทยไปได้เลยหรือไม่นั้น การพูดไม่ชัดอาจจะเป็นการท่องมาก็ได้ อาจจะเป็นคนที่เคยมาเมืองไทย หรือเป็นคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศ ไทย ทำให้พูดภาษาไทยได้ คนขับแท็กซี่ใช้คำว่าพูดภาษาไทยแบบคนต่างชาติ ก็เลยไม่รู้ว่าคนต่างชาติหรือเปล่า ส่วนหมายจับชายเสื้อเหลืองที่ระบุว่าเป็นชาวต่างชาตินั้น เพราะคนขับรถตุ๊กตุ๊กและคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างให้การว่าพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่หากจับกุมแล้ว ปรากฏว่าเป็นคนไทยปลอมเป็นชาวต่างชาติ และยอมรับว่าเป็นคนคนเดียวกันเรื่องก็จบ

ยังไม่ตัดปมก่อการร้ายสากล

      ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ว่าระเบิดลูก 2 ที่ท่าเรือสาทรเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้จับกุมคนร้ายวางระเบิดลูกแรกที่แยกราชประสงค์ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ถ้าเป็นการทำงานเป็นทีม คือคนหนึ่งวางลูกนี้ อีกคนวางอีกลูก อาจจะคิดว่าลูกที่ 2 สร้างความตื่นตระหนกก็พอ ส่วนการเก็บหลักฐานบนรถแท็กซี่อาจมีลายมือแฝงของมือระเบิด จะชัดเจนว่าคนร้ายขึ้นรถคันนี้ ลายนิ้วมือของคนร้ายในที่เกิดเหตุแทบจะไม่มีเหลืออยู่ที่บริเวณสาทรก็เช่นกัน ส่วนลายนิ้วมือแฝงบนธนบัตรที่จ่ายค่าโดยสารนั้นน่าจะได้อะไรมาบ้าง

      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีนักวิเคราะห์ระบุว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์นั้น นายแอนโทนี เดวิส เป็นนักวิเคราะห์สถานการณ์ของโลกก็มีข้อมูลเชื่อมโยงกับการกระทำความรุนแรงทั่วโลก เพราะฉะนั้นข้อมูลก็จะมีลักษณะเชื่อมโยงกับต่างประเทศ แต่ของเรายังไม่ได้ลงไปลึก ยังไม่ได้ตัดประเด็นว่าเป็นการกระทำของการก่อการร้ายสากล หรือการก่อความไม่สงบระหว่างประเทศ เพราะต้องแยกองค์ประกอบออกมาก่อนว่าการก่อการร้ายสากลคืออะไร ต้องแน่นอนว่ามีวัตถุประสงค์ และข้อเรียกร้องที่แน่ชัด เหตุการณ์นี้องค์ประกอบไม่เข้าสักอย่าง

เครียดจัด - นายกิติศักดิ์ มีมั่ง อายุ 35 ปี ผูดคอตายคาบ้านพักย่านปทุมธานี ญาติเผยคนตายเครียดหลังถูกแฮ็กเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความวิจารณ์เรื่องระเบิดแยกราชประสงค์ จนถูกขู่ทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 26 ส.ค.

ตร.ไทยก็มีข้อมูล'เกรย์วูล์ฟส์"

      "เพราะฉะนั้นในลักษณะที่นายแอนโทนีวิเคราะห์ว่ากลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์เข้าข่ายมากที่สุด เราก็ฟังเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีฐานข้อมูลอยู่ กลุ่มนี้ไม่เคยมีข้อมูลการเคลื่อนไหวในประเทศไทย และอยู่ไกลจากประเทศไทยพอสมควร อาจมีเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้านบ้าง อย่าเพิ่งไปให้น้ำหนักกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส์ เราพยายามทำตามแนวสืบสวนของเราก่อน ส่วนการแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุและหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แน่ใจว่าอย่างไรก็ต้องมีคนไทยร่วมขบวนการได้อยู่แล้ว" โฆษกตำรวจกล่าว

       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหลักฐานผู้ต้องสงสัยติดต่อกับเอ็นจีโออุยกูร์ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า เรายังไม่รู้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร แต่ทุกวันนี้ไม่มีกลุ่มไหนเคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะสำคัญเลย ข้อมูลทางสถานทูตก็ไม่มีอะไรในลักษณะนี้เลย ส่วนการส่งภาพผู้ต้องสงสัยผ่านทางตำรวจสากลของแต่ละประเทศนั้นยังไม่มีข้อ มูลที่เป็นประโยชน์ส่งมา ส่วนการออกหมาย จับเหตุระเบิดที่สาทรยังไม่เข้าข่ายออกหมายจับ พยายามทำให้ภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนอยู่ให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณีชาวตุรกี 15 คน ที่เดินทางเข้าประเทศไทยล่าสุดนั้น ตรวจสอบเปรียบเทียบใบหน้าทั้งหมดยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

รบ.รับฟังสื่อนอกวิเคราะห์

       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีกลุ่มเกรย์วูล์ฟส์ว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นของนักวิชาการชาวต่างประเทศ เป็นข้อ มูลที่รับฟังไว้ แต่ต้องเข้าใจว่าเป็นการวิเคราะห์ สถานการณ์ เป็นเรื่องของทฤษฎีบวกกับสถาน การณ์บวกกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยเขามีความรู้ว่าใครมีความเคลื่อนไหวอย่างไร

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า แต่สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือการวิเคราะห์ยังไม่มีหลักฐานอะไรประกอบ ฉะนั้นการจะชี้ลงไปชัดเจนว่าเป็นใคร ที่ไหน อย่างไร คงไม่ใช่เพียงแค่หลักการ หรือทฤษฎีอย่างเดียว แต่ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลดังกล่าวคิดว่าคงจะนำไปประกอบในการทำงานของ เจ้าหน้าที่ของเราได้ ว่าตรงนี้มีความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ มีกลุ่มที่มีความคิดก่อเหตุการณ์แบบนี้ โดยมีแรงจูงใจในลักษณะนี้ ก็ต้องดูว่ามีหลักฐานใดมาสนับสนุนกับความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มดังกล่าวว่ามีหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องถูก หรือที่เราพูดเป็นเรื่องถูก ต้องนำมาประกอบกันเพื่อนำมาวิเคราะห์ทั้งทฤษฎีและหลักฐาน

ต้องตรวจสอบหาจุดเชื่อมโยง

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลที่นักวิเคราะห์มีน่าเชื่อถือหรือไม่ พล.ต.วีรชนกล่าวว่า เป็นลักษณะของการเคลื่อนไหว เหมือนกับนักวิชาการที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มก่อความรุนแรงความไม่สงบต่างๆ จะมีข้อมูลว่าปัจจุบันมีกลุ่มใดเคลื่อนไหวอยู่บ้าง และเคลื่อนไหวอย่างไร มีมูลเหตุจูงใจอะไร จึงเหมือนเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ นำมารวมกับหลักฐานที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ หลักฐานที่ได้จากนิติวิทยาศาสตร์

พล.ต.วีรชนกล่าวต่อว่า ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความเคลื่อน ไหวของกลุ่มต่างๆ หากเป็นความเคลื่อนไหวที่มีการระบุพื้นที่ว่ามาจากที่ใด เคลื่อนไหวอยู่บริเวณหรือประเทศใด ก็ต้องแสวงหาความร่วมมือ แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองต่างๆ กับประเทศที่มีความเคลื่อนไหวตรงนั้น และเป็นมิตรประเทศกับไทย เมื่อมีประเด็นนี้เกิดขึ้นสิ่งที่จะอุดช่องว่างได้คือเรื่องของความร่วมมือ การแบ่งปันข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ เมื่อเราได้ยินในเรื่องนี้มาที่ทำให้มองได้ว่าไปเชื่อมโยง ก็ต้องมาตรวจสอบน้ำหนักข้อมูลกับสิ่งที่เรามี ต้องมาหาความเชื่อมโยงอื่นๆ ทั้งวิธีการปฏิบัติงาน ต้องมาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งข้อมูล หลักฐาน ทฤษฎีต่างๆ คงไปปฏิเสธว่าอันนี้ไม่จริง อันนี้ไม่ใช่ คงไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์อย่างหนึ่ง

'บิ๊กป้อม'ชี้จุดสังเกต-วิธีทำบึ้ม

      ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามความคืบหน้าตลอด และมีหลายประเด็น ไม่ตัดทิ้งทั้งเรื่องการก่อการร้าย เรื่องระหว่างประเทศ การเมือง ศาสนา ความรุนแรง การประกอบระเบิดแบบที่แยกราชประสงค์มีให้เห็นไม่มาก จะไปบอกว่าเกี่ยว ข้องกับเรื่องอุยกูร์แล้วมาก่อเหตุกับคนจีนไม่ได้ เพราะความจริงคนจีนอาศัยในพื้นที่อื่นมากกว่าบริเวณที่เกิดเหตุ คดีมีความคืบหน้าไปเรื่อยๆ พยายามให้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่กล้องบางจุดมีปัญหา เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามต่อไป

      ส่วน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ยังมีคนไทยไม่หวังดีบางกลุ่มปล่อยข่าวลวงในสังคมออนไลน์ และแจ้งข่าวเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อหวังให้ประชาชนตื่นตระหนกและสับสน พล.อ.ประวิตรให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว พร้อมประสานการทำงานกับส่วนราชการทุกฝ่าย ภาคประชาชน โดยให้ความสำคัญกับมาตรการด้านการข่าว เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน เน้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

เริ่มบูรณะแล้ว-ศาลพระพรหม

       ขณะเดียวกัน ที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมช่างจากสำนักช่างสิบหมู่บูรณะซ่อมแซมภายในบริเวณศาล ท้าวมหาพรหมที่เสียหายจากเหตุระเบิด โดยนายสหภูมิกล่าวว่า จะบูรณะ 2 ส่วน คือ องค์พระ และส่วนของซุ้มครอบองค์พระ จากการตรวจสอบพบว่าเสียหาย 4 จุด คือ บริเวณใต้คาง สร้อยสังวาล นิ้วชี้ด้านขวา และหน้าแข้งขององค์พระ โดยเฉพาะบริเวณคางเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีรอยแตกขนาดใหญ่ ในส่วนของซุ้มครอบองค์พระพบร่องรอยความเสียหายเล็กน้อยจากสะเก็ดระเบิด

     รองอธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่า ช่าง ประติมากรมาซ่อมแซมบริเวณคาง โดยนำปูนปลาสเตอร์สีเขียว เป็นสีที่ใกล้เคียงกับองค์พระมาเสริมในส่วนที่ชำรุด หลังจากเสริม ในส่วนที่เสียหายเรียบร้อยแล้วจะให้ช่างขัดองค์พระ ปิดทองใหม่ทั้งองค์ ใช้ทองคำเปลว 2,500 กรัม พร้อมทั้งให้ช่างประดับกระจกมา สกัดกระจกที่บริเวณซุ้ม เพื่อให้สวยงาม เหมือนเดิม โดยใช้งบประมาณจากมูลนิธิทุน ท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ จำนวน 70,000 บาท ใช้เวลาบูรณะ 9 วัน แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.ย. และจะทำพิธีสมโภชวันที่ 4 ก.ย. แต่ระหว่างนี้ยังเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวกราบไหว้สักการะได้ตามปกติ

มือบึ้มขึ้นแท็กซี่จากพระราม 3

      รายงานข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คดีระเบิดถล่มกรุงแจ้งว่า จากการสอบสวนคนขับโชเฟอร์รถแท็กซี่ ซึ่งคาดว่าเป็นคันที่มือระเบิดเรียกให้ไปส่งบริเวณหัวลำโพง ก่อนขึ้นรถตุ๊กตุ๊กอีกทอดหนึ่งไปยังบริเวณแยกราชประสงค์นั้น ในตอนแรกคนขับแท็กซี่ยังให้การสับสนเกี่ยวกับจุดที่รับชายต้องสงสัยมือระเบิดใส่เสื้อสีเหลืองขึ้นรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญมาให้การอีกรอบ เพื่อเคลียร์ให้ชัดว่ารับมาจากจุดใด และเวลาใดกันแน่

      ข่าวแจ้งต่อว่า ขณะเดียวกันจากคำให้การของคนขับแท็กซี่ ทางเจ้าหน้าที่จึงไปไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าชายต้องสงสัยใส่เสื้อเหลืองขึ้นรถแท็กซี่จากถนนเจริญกรุง ย่านพระราม 3 ทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ดังกล่าว หาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับแหล่ง ที่พัก หรืออาจมีบางอย่างที่เชื่อมกับมือระเบิด