WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

3พนท

ออกหมาย ล่าเสื้อฟ้าบึ้มสาทร ป.ลุยใต้สกัดแขกขาวเสื้อเหลือง เช็กวงจรปิดถนนจันทน์-เจออีก นั่งรถแท็กซี่มาจากแถวพระราม 3

      ศาลอนุมัติหมายจับมือวางระเบิดท่าเรือสาทร ชายชาวเอเชียหน้าตี๋ ใส่เสื้อสีฟ้าเดินหิ้วถุง ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่เบาะแสมือบึ้มศาลพระพรหม ชายต่างชาติ เสื้อเหลือง ตร.ไล่ภาพจากกล้องบริเวณทางด่วนถนนจันทน์ พบแท็กซี่รับมาจากย่านพระราม 3 พื้นที่รอยต่อสน.บางโพงพาง กับสน.วัดพระยาไกร ด้านกองปราบฯ ส่งชุดสืบลงพื้นที่สงขลาหาหลักฐานเพิ่มเติม สกัด เส้นทางหลบหนี 'จักรทิพย์' รองผบ.ตร.ยอมรับ มีชาวต่างชาติบางกลุ่มเกี่ยวข้อง รู้กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังแล้วแต่ไม่ยืนยันหนีออกนอกประเทศ โฆษกตร.ระบุคนร้ายใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตติดต่อสื่อสารกัน

 

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9039 ข่าวสดรายวัน

ล่าเสื้อฟ้า - พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ให้คำแนะนำการติดตั้งกล้องวงจรปิด ล่าสุดตร.ออกหมายจับชายเสื้อฟ้า (รูปเล็ก) มือวางบึ้มสาทรแล้ว เมื่อ 27 ส.ค.

      จากเหตุระเบิดกรุง 2 จุด บริเวณศาล พระพรหม แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 20 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 คน และอีกจุดบริเวณท่าเรือสาทร โดยกล้องวงจรปิดจับภาพชายชาวต่างชาติต้องสงสัยใส่เสื้อสีเหลือง มือวางระเบิดที่ราชประสงค์ ส่วนที่บริเวณท่าเรือสาทรนั้นกล้องจับภาพชายชาวเอเชียหน้าตี๋ ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่า อาจเป็นฝีมือ "เกรย์ วูล์ฟส์" หรือหมาป่า สีเทา กลุ่มชาตินิยมสุดโต่งในประเทศตุรกี สาเหตุไม่พอใจที่รัฐบาลไทยส่งชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์กลับไปให้ทางการจีน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตรวจพบจุดใหม่ที่ชายต้องสงสัย เสื้อสีเหลืองขึ้นรถแท็กซี่มาจากย่านพระราม 3 ถนนเจริญกรุง จึงกระจายกำลังลงพื้นที่ควานหาแหล่งที่พักบริเวณดังกล่าวที่อาจ เชื่อมโยงกับมือระเบิด ตามที่เสนอข่าวไปเป็นลำดับแล้วนั้น

'สมยศ'ทำทุกมิติ-คลี่คดีบึ้ม

      ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงการตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของชาวตุรกี 15 คนว่า ตำรวจทำทุกอย่าง ทุกเรื่อง และทุกกรณี ที่ เป็นข้อสังเกตข้อสงสัยหรือมีข้อแนะนำ ทั้งจากผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ ตลอดจนข้อแนะนำของประชาชน และนำไปวิเคราะห์ ถ้าเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการอย่างที่บอกว่า 7-8 วันที่ผ่านมาตำรวจทำงานอย่างเต็มที่สุด ความสามารถ และทำมากกว่าที่เป็นข่าวหลาย สิบเท่าแต่ไม่ได้ชี้แจง เพราะบางเรื่องชี้แจง ไม่ได้ ทำไปแล้วในทุกๆ มิติ

       พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จะชี้แจงได้ก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานยืนยันและบ่งบอกได้ว่า เป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ใครจะสรุปอย่างไรก็แล้วแต่ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่สรุป และไม่สนุกด้วย เพราะการรีบด่วนสรุป อาจส่งผลกระทบกับบุคคล หน่วยงาน องค์กร สถาบัน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระดับประเทศ เรื่องแสดงความคิดเห็นใครก็ แสดงได้ เป็นเรื่องที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่เคยสรุป ในประเด็นใดและก็ยังไม่เคยตัดประเด็นใด

ไม่ด่วนสรุป-หวั่นชักศึกเข้าบ้าน

      ผู้สื่อข่าวถามว่าจากไม่ตัดประเด็นใด แต่ก็จับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ สร้างความเชื่อมั่นให้ ต่างชาติได้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่ายังไม่อยากสรุป เดี๋ยวกลุ่มที่โดนพาดพิงจะเสียหาย กลายเป็นชักศึกเข้าบ้าน สำนักข่าวไหนจะยืนยันอย่างไรก็แล้วแต่เขา เพราะอาจมีข้อมูลหรือคิดมโนไปเอง แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคงยังไม่ยืนยัน

      "ปัจจุบันสื่อมวลชนมีหลายสำนัก และกำลังแข่งขันกันอยู่เพื่อธุรกิจของตัวเอง ใครเสนอข่าวก่อนก็ได้เปรียบ บางครั้งไม่เป็นข่าวก็สร้างเรื่องให้เป็นข่าว ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ เพราะการสร้างเรื่องให้เป็นข่าวมันเป็นคนเดียวที่ได้ข่าว ได้เครดิต การรีบเร่งเกินไป บางครั้งถ้าข่าวนั้นไม่เป็นความจริงตำรวจ ได้ตัวพยานมาคนหนึ่ง ไม่ว่าคดีใด สอบปากคำหลายครั้งเปลี่ยนคำถามในการสอบ แล้วต้องนำไปเทียบเคียงกับข้อมูลที่เคยให้ เอาไว้ก่อนหน้านั้น หรือพยานบุคคล กล้องวงจรปิด หรือต้องใช้เทคโนโลยีอื่นๆ มาประกอบเพื่อยืนยันกับคำให้การ และเมื่อสื่อเอาไมค์ไปจ่อปาก เขาก็พูดไปโดยไม่ตรง กับการสืบสวนของตำรวจ จะทำอย่างไร เป็นการก่อปัญหาในการทำงานของตำรวจ" ผบ.ตร.กล่าว

มือบึ้มไม่ได้ลงรถที่สีลมซอย 9

       พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่ออย่างประเด็น เรื่องคนร้ายไปลงที่สีลมซอย 9 ก็ไม่เป็นความจริง แต่พอเอาเข้าจริงๆ พยานที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างบอกว่าส่งแค่ลานพระบรมรูป ร.6 บางครั้งตำรวจอาจทำงานช้า เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมและถูกต้อง

      "ผมไม่ได้กล่าวหาว่ากล้องเขาพัง ไม่พัง ก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เพียงแต่ภาพมันไปลง ที่สีลมซอย 9 ได้อย่างไรไม่ทราบ ภาพมัน ไม่ต่อเนื่อง แล้วพอมาสอบปากพยานกลับให้ข้อมูลไม่ตรงกับหลักฐาน และภาพจากกล้องที่ตำรวจได้มาหลายครั้งพยานให้การผิดไปจากเทคโนโลยี จึงเกิดความสับสนในการสืบสวน" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศนำคณะสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดเข้ารายงาน ความคืบหน้าต่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรม ทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

'จักรทิพย์'รู้กลุ่มเบื้องหลังแล้ว

      ส่วนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีระเบิดกล่าวว่า ไม่เชื่อว่าคนไทยเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เนื่องจากการก่อเหตุเป็นพฤติกรรมที่โหดร้ายเกินกว่า คนไทยจะกระทำกันเอง แต่การสืบสวน ยังไม่ให้น้ำหนักว่าเป็นกลุ่มใด ยอมรับว่ามีบุคคลชาวต่างชาติบางกลุ่มอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การสอบสวนยังไม่พบพยานหลักฐาน ที่เชื่อมโยงกัน

     รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ปัญหาในขณะนี้คือการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนที่มีลักษณะชี้นำการสืบสวนสอบสวน ในบางข้อมูลที่นำเสนอไป ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ตำรวจมีอยู่ ขณะที่การสืบสวนในขณะนี้รู้กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานให้มากและเพียงพอเท่านั้น ส่วนคดีระเบิดท่าเรือสาทรนั้นตำรวจยังไม่มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุนำระเบิดไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานหรือจงใจก่อเหตุ โดยทั้ง 2 คดียังไม่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้วหรือไม่อย่างไร

'ประวุฒิ'ชี้คนร้ายใช้เน็ตสื่อสาร

      ขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกตำรวจ พร้อมด้วยพ.ต.อ. จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน เดินทางไปตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยกล้องวงจรปิดของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อให้คำแนะนำและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการติดกล้องให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น โดยเน้นให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ในระดับสายตาให้มากขึ้น และในวันที่ 1 ก.ย.จะเรียกประชุมผู้บริหารของห้างต่างๆ ในพื้นที่กทม. เพื่อชี้แนะการใช้กล้องวงจรปิดร่วมกับอุปกรณ์ ไบโอแมทริกที่สำนักนายกรัฐมนตรีจะสั่งซื้อ โดยจะใช้ตรวจยืนยันตัวบุคคล เข้าออกเพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิด ผลดีเอ็นเอจากการตรวจสอบธนบัตรและรถแท็กซี่นั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจมาให้แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากจะเสียรูปคดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังไปอีก 1 เดือนเพื่อหาว่ามีบุคคลต้องสงสัย เข้ามา ในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุหรือไม่ สำหรับการหาสัญญาณโทรศัพท์ ของผู้ต้องสงสัยทั้งที่สะพานสาทร และแยกราชประสงค์ ยังไม่พบความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน คาดว่าคนร้ายอาจใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตติดต่อสื่อสาร

'กองปราบฯ'ลงใต้-ล่าบึ้มกรุง

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบังคับการปราบปรามว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ในส่วนของกองปราบฯ นั้นยังคงอยู่ระหว่างการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยชุดทำงานออกตรวจสอบตามห้องพัก และโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ย่านสีลม สาทร บางรัก สุรวงศ์ เจริญกรุง เยาวราช และหัวลำโพง เพื่อหาเบาะแสคนร้าย

โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.สั่งการให้ทีมสืบสวนของ กองปราบฯ ออกหาข่าวในพื้นที่ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังส่วนหนึ่งเดินทางไปจ.สงขลา เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสคนร้าย รวมทั้งหาพยานต่างๆ เพิ่มเติม เนื่องจาก เชื่อว่าเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี อาจผ่านชายแดนทางจ.สงขลา หลบหนีออกนอกประเทศไป นอกจากนี้ ผบก.ป.ยังสั่งให้ทีมสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของชาว ต่างชาติกลุ่มต่างๆ ที่ต้องสงสัยเป็นตัวการสนับสนุนกลุ่มคนร้ายอีกด้วย

ออกหมายจับมือบึ้มสาทร

     ขณะที่รายงานจากชุดสืบสวนบช.น. แจ้งว่าจากการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางด่วนถนนจันทน์ เส้นทางมุ่งหน้ามาจากบริเวณถนนพระราม 3 พบรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง มีชายต้องสงสัยใส่เสื้อเหลืองที่ถูกออกหมายจับตามภาพสเกตช์อยู่ภายในรถ พร้อมทั้งเชิญคนขับแท็กซี่มาสอบปากคำอีกครั้ง และตรวจกล้องวงจรปิดพบชายต้องสงสัยขึ้นมาจากถนนเจริญกรุง ย่านพระราม 3 โดยพบว่าเป็นเขตรอยต่อพื้นที่ สน.บางโพงพาง กับ สน.วัดพระยาไกร

ส่วนเหตุระเบิดท่าเรือสาทรนั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ขออนุมัติหมายจับตามภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีฟ้าเดินหิ้วถุง ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเลขที่ 572/58 ลงวันที่ 27 ส.ค. โดยหมายจับระบุว่าผู้ต้องหาเป็นชายชาวเอเชีย ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 25-30 ปี สูงประมาณ 170 ซ.ม. ผิวขาวเหลือง ผมดก ผิวเข้ม จมูกโด่ง แจ้งข้อกล่าวหามีใช้ด้วย ประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น และพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

 

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9039 ข่าวสดรายวัน


ประวุฒิจ่อพล.ต.อ.-ศรีวราห์ได้ผู้ช่วย 
กตช.เปิด ตำแหน่ง ให้แล้ว!

      ก.ต.ช.เปิดตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.เยียวยา 'ศรีวราห์' ตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้คืนสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ เนื่องจากปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นรอก.ตร.พิจารณา แต่งตั้งย้อนหลัง นอกจากนี้ ก.ตร.ยังเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ยศพล.ต.อ.ขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง เตรียมเสนอตั้ง "ประวุฒิ" พร้อมมีมติเลื่อนแต่งตั้งรองผบ.ตร.-ผบก.ออกไปอีก 1 เดือน โดยสามารถพิจารณาได้จนถึง 30 ก.ย.นี้

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุมก.ตร.ครั้งที่ 13/2558 โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที

     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ก.ตร.มีมติขยายเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับนายพล ตำแหน่งรองผบ.ตร.-ผบก. วาระ ประจำปี 2558 ออกไปอีก 1 เดือน โดยสามารถ ดำเนินการได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขณะที่ก.ตร.ยังได้อนุมัติเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ยศพล.ต.อ. ขึ้นมา 1 ตำแหน่ง โดยยังไม่ระบุตัวบุคคล ซึ่งตำแหน่งที่เปิดใหม่ต้องขออนุมัติต่อคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) อีกครั้งหนึ่ง

      รายงานข่าวแจ้งว่า ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ที่ก.ตร.มีมติเปิดตำแหน่ง เพื่อจะเสนอให้พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. เลื่อนติดยศพล.ต.อ.เป็นกรณีพิเศษ ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2559

      ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เป็นประธานการประชุม ก.ต.ช.ครั้งที่ 2/2558 โดยที่ประชุมใช้เวลาเพียง 30 นาที ก่อนมีมติให้เปิดตำแหน่งผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. เพื่อรองรับการแต่งตั้งเยียวยาให้พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ตามคำสั่งศาล ปกครองกลาง ที่ให้คืนสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ เนื่องจากปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ให้กับพล.ต.ท.ศรีวราห์ และศาลปกครองกลางได้ยืนยันว่าเมื่อ ก.ตร.ไม่อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว สามารถดำเนินการต่างๆ เพื่อเยียวยาได้ทันที

     ขณะที่ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ก.ตร.มีมติเปิดตำแหน่ง ยังไม่นำเข้าพิจารณาของก.ต.ช.ในครั้งนี้ อย่างไร ก็ตามคาดว่าเร็วๆ นี้จะมีการนัดประชุมก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งย้อนหลังให้พล.ต.ท. ศรีวราห์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. ก่อนจะแต่งตั้งนายพลตำรวจวาระประจำปีในช่วงกลาง เดือนก.ย.นี้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!