WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ลาอซาน

ลุยล่าอิซาน ซุกบังกลาเทศ จักรทิพย์ ประสาน! ตร.สากล ทีมบึ้มซัด คนเสื้อฟ้า ชื่อซูแบร์

        'จักรทิพย์' ประสานตร. สากลช่วยล่าตัวอิซาน-หัวโจกทีมบึ้ม พบหนีไปบังกลาเทศ มั่นใจในหลักฐานที่ทำกับมือว่าจับเสื้อเหลืองได้แน่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้จับใครเพิ่ม หิ้ว 'ยูซุฟู' ทำแผนจุดส่งบึ้มให้ชายเสื้อเหลืองที่หัวลำโพง ก่อนนั่งสามล้อมาถ่ายรูปนาทีบึ้มที่เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วชี้จุดที่เปิดบัญชีแบงก์ย่านรามคำแหง ก่อนส่งตัวฝากขังศาลมีนบุรี ขณะที่'ประวุฒิ' แฉทีมบึ้มซัดเสื้อฟ้าชื่อ 'ซูแบร์' รวมถึงคนกำหนดจุดวางบึ้มที่ศาลพระพรหมด้วย ด้านวิษณุชี้คดีระเบิดขึ้นศาลทหารได้ ส่วน 'สมยศ' ให้อัยการชี้ชัดส่งคดี ยันยังจับผู้ต้องหาไม่ได้เพิ่ม ประสานมิตรประเทศช่วยควานตัว อัดปมตม.ฉาวซ้ำ ทำบันทึกถึงบิ๊กตู่ให้ช่วยแก้ไข แฉทีมบึ้มเคยจ่ายเงินแล้วผ่านเข้าออกสระแก้วถึง 4-5 ครั้ง

 

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9052 ข่าวสดรายวัน

ทำแผนฯ - จนท.นำตัวนายมีไรลี ยูซุฟู ทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันที่สอง บริเวณลานน้ำพุ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จุดนั่งสังเกตการณ์ก่อนระเบิดศาลท้าวมหาพรหม โดยจนท.ปิดแยกราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียงระหว่างทำแผนฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

 

 

คุม'ยูซุฟู'ทำแผนจุดส่งบึ้ม

       เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่สน.มีนบุรี พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.มีนบุรี ช่วยราชการบก.น.3 พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ รอง ผกก.ป.สน.มีนบุรี นำกำลังสายตรวจ 20 นาย และหน่วยอรินทราช 26 จำนวน 10 นาย พร้อมอาวุธหนักครบมือ ควบคุมตัวนายมีไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ออกจากห้องขัง สน.มีนบุรี ขึ้นรถตู้ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดอรินทราชนั่งประกบ และมีรถสายตรวจ 5 คันติดตามคุ้มกัน โดยนายยูซุฟูอยู่ในชุดเสื้อยืดสีเหลือง คลุมทับด้วยเสื้อเกราะ และมีสีหน้าตาอิดโรยอ่อนล้า ก่อนเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อรอทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุด หลังเมื่อ วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านได้คุมตัวไปทำแผนฯ ที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก ซึ่งเป็นจุดพบสารประกอบระเบิด หอพักไมมูณา การ์เด้น โฮม ย่านมีนบุรี เป็นจุดที่พบดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงของนายยูซุฟู และบริษัทเคมีภัณฑ์ ย่านบึงกุ่ม จุดที่มา ซื้อสารประกอบระเบิด

      ต่อมาเวลา 06.00 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. พร้อมกำลังตำรวจบก.น.6 และหน่วยอรินทราช 26 นำตัวนายยูซุฟู ออกจากตร. มาทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกบริเวณหน้าวัดปทุมวนาราม เป็นจุดที่นายยูซุฟูลงรถสามล้อที่นั่งมาจากหัวลำโพง จากนั้นเดินเท้าไปยังลานน้ำพุหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นจุดที่นายยูซุฟูมายืนดูเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุระเบิดพร้อมถ่ายรูปเพื่อส่งให้ผู้จ้างวาน จากนั้นเดินเท้าไปยังหน้าห้างประตูน้ำเซ็นเตอร์และเรียกรถแท็กซี่บริเวณปากซอยเพชรบุรี 27 กลับที่พักย่านมีนบุรี ซึ่งระหว่างทำแผน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณถนนพระราม 1 ถนนราชดำริ 2 เลนซ้าย และถนนเพชรบุรี ขาออก เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนา

 

หิ้วตัวฝากขังศาลมีนบุรี

      จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวนายยูซุฟูกลับ ขึ้นรถ ก่อนพาไปทำแผนต่อยังสถานีรถไฟหัวลำโพง บริเวณสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นจุดที่นัดพบชายเสื้อเหลือง เพื่อส่งมอบและสลับกระเป๋าเป้บรรจุระเบิด ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายขึ้นรถสามล้อ โดยนาย ยูซุฟูนั่งรถไปลงที่วัดปทุมวนาราม ส่วนชาย เสื้อเหลืองนั่งไปลงที่แยกราชประสงค์ ก่อน เจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหาไปยังธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก บริเวณซอยรามคำแหง 22 ซึ่งเป็นจุดที่นายยูซุฟูนั่งแท็กซี่จากย่านประตูน้ำมาลงบริเวณดังกล่าว โดยจากแนวทางการสืบสวนประกอบกับภาพวงจรปิด พบว่าในวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา นายยูซุฟูเคยเดินทางมายังธนาคาร เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินและโอนเงินจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ รายละเอียดในส่วนปลายทางของบัญชีที่โอนไปนั้น ยังอยู่ระหว่าการตรวจสอบว่าเป็น ค่าจ้างในการก่อเหตุหรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายยูซุฟูกลับไปยังสน.มีนบุรี เพื่อรอ นำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดมีนบุรี

     จากนั้นเวลา 14.30 น. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ปรักกมะกุล รองผบก.น.3 และเจ้าหน้าที่คุมตัวนายยูซุฟู มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-20 ก.ย. โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดอรินทราช 26 และทหาร คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยูซุฟูมีสภาพร่างกายดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง

      ต่อมาเวลา 15.20 น. ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายยูซุฟูขึ้นรถเรือนจำ เพื่อไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษมีนบุรี

      ถัดมาเวลา 17.30 น. ที่ลานด้านหน้าม.รามคำแหง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 นำตำรวจและทหารตรวจค้นยุทธการปิดเมืองค้นรังโจร ภายในโรงแรมและห้องพัก ซอยรามคำแหง 22 โดยมุ่งเน้นไปที่ชาวต่างชาติที่เข้าพักอาศัย แต่จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดปกติ


ทำแผนฯ - จนท.นำตัวนายมีไรลี ยูซุฟู ทำแผนฯ เป็นวันที่สอง บริเวณลานน้ำพุหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จุดนั่งรถตุ๊กตุ๊กหลบหนี หลังเหตุระเบิดศาลพระพรหม โดยจนท.ต้องปิดแยกราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียงระหว่างทำแผนฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

 

ซัดชายเสื้อฟ้าชื่อ'ซูแบร์'

      ที่ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงการนำตัวนายยูซุฟูไปทำแผนฯว่า จุดที่ห้องพัก 414 พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำสารเคมีไวไฟที่ซื้อมาจากร้านเคมีภัณฑ์ ย่านบึงกุ่มมาเก็บไว้ ก่อนไปพบเพื่อน คือนายอะเด็ม คาราแด็ก ที่ห้องพัก 412 ซึ่งอยู่ใกล้กัน จากนั้นนำตัวไปทำแผนฯ ที่ร้านเคมีภัณฑ์ ซึ่งเจ้าของร้านระบุว่าผู้ต้องหามาซื้อสารเคมีไป 4 อย่าง แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด จากนั้นช่วงเช้าที่ผ่านมานำมาทำแผนฯ ที่แยกราชประสงค์ โดยผู้ต้องหาอ้างว่านั่งรถสามล้อมาลงข้างข้างวัดปทุมฯ ก่อนเดินมุ่งหน้าไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ก่อนเกิดเหตุ 1 ช.ม. แล้วนั่งสังเกตการณ์บริเวณลานน้ำพุ หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และถ่ายภาพหลังเกิดเหตุ สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ จากนั้นนายยูซุฟูเดินมุ่งหน้าไปบริเวณแยกประตูน้ำ เพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับไปย่านมีนบุรีและหนองจอก พร้อมปฏิเสธไม่รู้จักกับชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้า แต่ในความเป็นจริงอาจรู้จักหรือไม่รู้จักก็ได้ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ ปักใจเชื่อ อีกทั้งยังปฏิเสธว่าไม่ได้ประกอบระเบิดด้วย

      พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนจุดที่หัวลำโพง เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำเป้บรรจุระเบิดไปวางไว้ที่เก้าอี้ จากนั้นมีคำสั่งทางวอตส์แอพ และมีชายเสื้อเหลืองที่เป็นคนวางระเบิดมารับและสลับกระเป๋าเป้กัน คาดว่าเป้บรรจุระเบิดนำมาจากชายคนหนึ่งที่ห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ส่วนชายเสื้อฟ้าจะมารับระเบิดไปก่อเหตุที่สะพานสาทรหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน รวมทั้งที่ผู้ต้องหาซัดทอดว่าชายเสื้อสีฟ้าชื่อซูแบร์ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะตรวจสอบหลังจากนี้

      พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนจุดทำแผนที่ธนาคารย่านรามคำแหง เชื่อว่าเป็นจุดที่นายยูซุฟูไปทำธุรกรรมทางการเงิน และ เซ็นเปิดบัญชีไว้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยปปง.จะเร่งพิสูจน์เส้นทางการเงินว่ามีใครอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุหรือไม่

 

ทีมบึ้มแฉผู้กำหนดจุดวางระเบิด

      พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงนายอิซาน หรืออาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน ซึ่งถูกระบุว่าเป็น ผู้วางแผนสั่งการและออกค่าใช้จ่ายในการ ก่อเหตุว่า เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลของชายคนดังกล่าว จากข้อมูลแวดล้อมและข้อมูลในมุมอื่น พบว่ายังไม่สามารถระบุว่าทำหน้าที่ใด ดังนั้นข้อมูลที่มีข่าวออกไปจึงไม่ตรง ทั้งนี้ภาพที่ปรากฏตามสื่อมวลชนยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชื่อและภาพถ่ายของนายอิซาน หรือไม่ โดยขณะนี้หลักฐานยังไม่เพียงพอที่ จะเสนอศาลออกหมายจับ แต่ได้ส่งข้อมูล ให้ตำรวจสากลช่วยตรวจสอบประวัติแล้ว นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้การซัดทอดและบอกชื่อของผู้ที่เป็นคนกำหนดจุดระเบิดคือศาลพระพรหม ให้กับพนักงานสอบสวน แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การทั้งหมด

     พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ระเบิดที่ใช้ ครั้งนี้ไม่มีรูปแบบเหมือนกับระเบิดที่เคยก่อเหตุ ในประเทศและนอกประเทศในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่คนร้ายใช้รวมทั้งฝักแค สามารถหาซื้อในประเทศ ไทย ได้ตามอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งขบวนการ ดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 10 คน และเชื่อว่ายังมีคนไทยนอกจากน.ส.วรรณา สวนสัน ร่วมขบวนการอีกด้วย โดยมีความเชื่อมโยงกันระหว่างเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร สำหรับนายยูซุฟู อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติว่าตรงกับคำให้การที่อ้างว่ากำลังเรียนปีสุดท้ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารยืนยันจากพาสปอร์ตต้นฉบับ

 

ดึงตร.สากลล่าอิซานที่บังกลาเทศ

      ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร ด้านความมั่นคง และว่าที่ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์ กล่าวว่า จากการซักถามผู้ต้องหาในขบวนการนี้ทราบว่า นายอิซาน เป็นระดับหัวหน้าขบวนการที่เชื่อว่าใหญ่สุดในการ ก่อเหตุระเบิด ซึ่งตำรวจกำลังตามแกะรอยเบาะแส หลังมีข่าวว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โดยจะให้ตำรวจสากลประสานไปที่ประเทศบังกลาเทศ เพราะมีข่าวว่านายอิซานเดินทางไปจริง

      รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินที่พบว่าถูกโอนมาจากต่างประเทศว่ามีการนำมาสนับสนุนในการก่อเหตุหรือไม่ ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาในขบวนการนี้ให้การเป็นประโยชน์ สำหรับชายเสื้อเหลืองที่เป็นมือระเบิดนั้น ยังมั่นใจว่าจะจับกุมตัวได้ เพราะมีพยานหลักฐานที่ตนทำกับมือ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด

 

วิษณุชี้คดีบึ้มขึ้นศาลทหารได้

       ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีผู้ต้องหาวางระเบิดแยกราชประสงค์ว่า เรื่องนี้นำขึ้นศาลทหารได้ ถ้าเป็นความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนวัตถุระเบิด ขอตอบแค่นี้ว่าถ้าเป็นความผิดนี้เข้าข่าย แต่ตนไม่รู้ว่าจะตั้งข้อหาอะไร


ลุยค้น - ตำรวจ บก.น.4 ตรวจค้นห้องพักชาวต่างชาติในอพาร์ตเมนต์ ซ.รามคำแหง 22 ย่านหัวหมาก หลังนำตัวนายมีไรลี ยูซุฟู มาทำแผนฯ คดีบึ้มกรุง ที่ธนาคารหน้าปากซอย แล้วสงสัยว่าอาจเคยมาเช่าพักที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

        เมื่อถามว่า การพิจารณาจะเกี่ยวข้องหรือไม่ว่าผู้ต้องหาสัญชาติอะไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับสัญชาติ ตามประกาศคสช.บอกไว้แล้วว่าความผิดที่ขึ้นศาลทหารมี 4 ประเภท คือ 1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 2.ความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน 3.ความผิดฐานขัดคำสั่งคสช. และ 4.ความผิดที่กระทบกับความมั่นคง

 

สมยศให้อัยการชี้ส่งศาลทหาร

      ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดและเบาะแสในการติดตามตัวนายอิซานที่ถูกซัดทอดเป็นผู้บงการว่า สำหรับนายอิซานยังยืนยันไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่ผ่านมาเป็น แค่ข่าว ตราบใดที่ยังไม่มีข้อมูลและหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนถึงขนาดว่าเป็นผู้บงการ ก็ยากจะให้ยืนยันอะไรลงไปในขณะนี้ เพราะหลายอย่างเมื่อเป็นข่าวออกมาก็ยังไม่ทราบว่าข่าวออกมาจากไหน ยกตัวอย่างมีข่าวไปจับ ได้ที่ชายแดนใต้ 2 คน เป็นเสื้อเหลือง เสื้อเขียวก็ยังไม่ได้จับแล้วจะให้ตอบได้อย่างไร ดังนั้นจะตอบหรือยืนยันได้ก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานชัดเจน กรณีที่เป็นข่าวเรา ไม่กล้าจะยืนยัน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนำผู้ต้องหาไปขึ้นศาลทหาร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ต้องถามกลับว่าทำไมถึงมีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ก็บอกแล้วว่าไม่น่าจะต้องขึ้นศาลทหาร แต่หาก เข้าหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาก็ต้องขึ้น เพราะเป็นกรณีก่อเหตุรุนแรงใช้วัตถุระเบิดอาวุธสงคราม จึงต้องดูเงื่อนไขว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ ถ้าเข้าเกณฑ์ก็ต้องขึ้น ถ้าไม่เข้าก็ ไม่ต้องขึ้น จะเข้าหรือไม่เข้าก็ต้องดูก่อน โดยคนที่จะสรุปว่าจะเข้าศาลทหารหรือไม่ไม่ใช่ตำรวจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าใครเป็นผู้สรุปว่าคดีนี้ต้องขึ้นศาลทหารหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เมื่อพนักงานสอบสวนส่งถึงอัยการจะดูว่าควรขึ้นศาลใดและเข้าหลักเกณฑ์ต้องขึ้นศาลทหารหรือไม่

 

'วรรณา'หายเงียบ-ไม่ติดต่อ

      เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม ระบุหากเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิดเข้าข่าย ขึ้นศาลทหารได้ ผบ.ตร. กล่าวว่า หากเข้า หลักเกณฑ์ก็ต้องขึ้น

     เมื่อถามว่าสามารถติดต่อกับประเทศที่นายยูซุฟู ซัดทอดไปถึงนายอิซาน ได้หรือยัง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นชนชาติใด จะติดต่อไปประเทศไหน ทุกสิ่งทุกอย่างพวกที่มาก่อเหตุบางครั้งยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ อาจรู้จักหน้าแต่ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ชื่ออะไร ก็ซัดทอดกันไป ผู้ต้องสงสัยที่เราควบคุมตัวไว้และยึดพาสปอร์ตได้ก็เป็นของปลอม เราไปพูดว่าเป็นชนชาตินั้นชนชาตินี้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานไปมัดตัวจนดิ้นไม่หลุดเขาถึงจะพูด

    ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยมาถึง 11 ราย จะสรุปสาเหตุการก่อเหตุได้หรือยังว่าเพราะอะไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ต้องสอบปากคำทุกคนให้ชัดเจนก่อนแล้วนำพยานหลักฐานมาเชื่อมโยงก่อนที่จะสรุป

เมื่อถามว่าขณะนี้สามารถติดต่อน.ส. วรรณา หนึ่งในผู้ถูกออหมายจับได้หรือยัง ผบ.ตร.กล่าวว่า ครั้งแรกบอกว่าอยู่ตุรกี แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน

 

ยันยังจับผู้ต้องหาไม่ได้เพิ่ม

    พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริงและไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน จึงย้ำเสมอว่าอย่าเพิ่งรีบสรุปหรือเชื่อไปตามคำให้การจากผู้ต้องหา เพราะอาจพูดเช่นนั้นเพียงเพื่อต้องการให้ตัวเอง พ้นผิดในบางเรื่อง ส่วนที่อ้างว่ามีการส่ง เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงไปติดตามจับ ผู้ต้องหาในมาเลเซียนั้น ตนพูดไม่ได้เช่นนั้น การกระทำใดๆ ต้องผ่านกระบวนการทางการทูต ตามกฎหมายที่ถูกต้องจะบอกว่าเราส่งคนไปจับใครในประเทศเขาไม่ได้ แต่เรื่องนี้ไม่ยืนยัน ไม่มีหรอก แต่อย่างไรก็ตามหากมีการระบุถึงผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยว่าอยู่ในประเทศใด มิตรประเทศใกล้เคียงหรือที่อื่นๆ ต้องตรวจสอบและประสานงานแน่นอน

      "ขอยืนยันว่าขบวนการนี้มีผู้ร่วมขบวน การหลายคน มีขั้นตอนในการก่อเหตุที่สลับซับซ้อน ใช้การสื่อสารหลายรูปแบบที่มาก กว่าโทรศัพท์ ขบวนการนี้ทำงานละเอียด แบ่งงานกันอย่างดี สงสัยจะดูหนังเยอะ" ผบ.ตร.กล่าว

    พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงคำซัดทอดของนายยูซุฟูว่าผู้บงการทั้งหมดคือนายอิซานว่า ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบ เพื่อยืนยันว่าคำให้การเป็นความจริงก่อนที่จะสรุป เนื่องจากที่ผ่านมาหลายครั้งคำให้การหรือคำบอกเล่าไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่นเดียวกับกรณีระเบิดที่ท่าเรือสาทรนั้น อาจเป็นการทิ้งเพื่อก่อเหตุที่อื่น แต่คนลงมือเป็นชาวต่างชาติ จึงไม่รู้จักสถานที่นั้นจึงมาผิดที่ หรืออาจได้รับคำสั่งให้ยกเลิกแผนการที่สองจึงนำกระเป๋าระเบิดมาทิ้งไว้ก็ได้ เนื่องจากเหตุที่แยกราชประสงค์นั้นสำเร็จแล้ว ดังนั้นทุกการสันนิษฐานจึงเป็นไปได้ทั้งนั้น ต้องยืนยันด้วยพยานหลักฐาน

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ตราบใดอยู่ในตำแหน่งทำหน้าที่ ผบ.ตร.จะทำคดีนี้ให้ดีที่สุด โดยเชื่อมั่นในตัวพล.ต.อ.จักรทิพย์ ว่าที่ผบ.ตร.คนต่อไป ต้องสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ทำได้ดีกว่าตนด้วย

 

ทำบันทึกถึงบิ๊กตู่แก้ตม.ฉาว

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงพฤติกรรมตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบต่อภาพลักษณ์ ของตร.ว่า ได้ทำบันทึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้ว จะส่งไปภายในวันนี้ เนื้อหาคือสิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับการร้องเรียน มีการสืบสวน มีพยานหรือบุคคลที่บอกกล่าวเล่าให้ฟังว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ตนเห็นว่าปัญหานี้ระดับไม่ธรรมดา ไม่ถูกต้องไม่ถูกกฎหมาย ผู้นำประเทศต้องรู้ปัญหานี้และช่วยเหลือแก้ไข ตนมีเวลาน้อยที่จะแก้ปัญหานี้ ถ้าอยู่อีกสัก 1-2 เดือนคงได้เห็นดีกัน แต่มีเวลาแค่ 20 วัน จึงทำเท่าที่ได้และบอกพล.ต.อ. จักรทิพย์ ไปว่าเป็นผบ.ตร.รู้ปัญหาแล้ว ท่านทิ้งปัญหานี้ไม่ได้ ต้องเข้ามาแก้ไข

"ผมเป็นตำรวจผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เหมือนเอาความไม่ดี ความไม่ถูกต้องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเปิดเผยตีแผ่ หลายคนบอกว่าผมไม่ควรเอาเรื่องนี้ขึ้นมา จึงถามกลับไปว่าถ้าผมรู้แล้วจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้อีกต่อไปหรือ คนกลุ่มนั้นไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เขากลัวเดือดร้อน แต่ขืนเราปล่อยไว้อย่างนี้ ทั้งๆ ที่รู้ ผมทำไม่ได้หรอก ผมอาย ถึงแม้มีเวลา 20 วัน ผมก็รู้สึกอาย บางคนบอกว่าไม่เคยมีส่วนรู้เห็น มีการสอบสวน ตรวจสอบแล้ว อ้างว่าไม่พบผิด ก็พูดไปแก้ตัวไป แต่ผมจะนำเสนอนายกฯเป็นลายลักษณ์อักษร โดยยังไม่ระบุถึงตัวบุคคล" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

 

แฉทีมบึ้มจ่ายเงินผ่านที่สระแก้ว

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้มาจากการตรวจสอบสืบสวนจากการร้องเรียนถึงความเสื่อมเสีย แล้วกระทบกระเทือนความมั่นคง เช่นกรณีผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ เดินทางเข้าออกในประเทศไทยไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่ไม่มีการตรวจสอบ

"ครั้งนี้ใหญ่แค่ไหนก็จะเปิดโปง เรื่องนี้ผมเรียกมาเตือนมาว่า ดำเนินการมาตลอด คิดว่าไม่เคยดำเนินการหรือ บอกเตือนตลอดว่าเขาร้องเรียนอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ออกมา ตอนนี้เพราะมีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แล้ว ผู้ต้องสงสัยให้การว่าเดินทางเข้าออกที่จ.สระแก้ว 4-5 รอบแล้ว เสียตังค์ด้วย ผมไม่ได้จู่ๆ กุเรื่องมา ผมไม่ใช่คนบ้า ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น ฝ่ายสืบสวนรู้ทุกคนและว่าเป็นความหละหลวมหรือไม่ให้คิดกันเอง อย่าให้พูดทุกเรื่อง ไม่หละหลวม เหลวไหล มันไม่เป็นอย่างนี้หรอก นี่ไม่ใช่แค่การทิ้งทวน แต่คือการทิ้งปรมาณู ทิ้งทวนตายทีละศพ แต่ทิ้งปรมาณูตายทั้งพวง" พล.ต.อ.สมยศกล่าว

 

เสื้อเหลืองนั่งรถทัวร์ลงใต้

     รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดแยกราชประสงค์ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของชายเสื้อเหลือง หลังสอบปากคำนายอะเด็มและนายยูซุฟู โดยได้เบาะแสว่าหลังก่อเหตุวางระเบิดช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. ชายเสื้อเหลืองซ้อนรถจักรยานยนต์รับจ้าง ก่อนต่อรถแท็กซี่ย่านสวนลุมพินีไปยังห้องพักที่หนองจอก แต่หลักฐานกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีมีบางช่วงขาดตอนไป โดยมีพยานระบุว่าชายเสื้อเหลืองกบดานอยู่ในห้องพักนาน 1 สัปดาห์ จากนั้นออกจากห้องพักหลบหนีในวันที่ 24 ส.ค. หลังเกิดเหตุระเบิด 7 วัน โดยมีรถแท็กซี่มารับไป

      ชุดสืบสวนตรวจสอบพบข้อมูลด้วยว่า มีขบวนการจัดการพามือวางระเบิดหลบหนี พร้อมช่วยหาตั๋วรถทัวร์ให้โดยรู้กันกับคนขับรถทัวร์เดินทางไปยังภาคใต้ โดยมีการเรียกรับเงิน 3,500 บาทต่อหัว ซึ่งโชเฟอร์แท็กซี่ให้การว่ารับชายเสื้อเหลืองจากย่านหัวหมากขับรถใช้เส้นทางถนนพระราม 2 เพื่อไปส่งชายเสื้อเหลืองยังจุดนัดหมายใกล้สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ จากนั้นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก จะมาจอดรับระหว่างทาง พอถึงที่สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก็มีขบวนการพาคนไปประเทศที่สาม แล้วพาเข้าประเทศมาเลเซีย โดยเดินทางออกทางทะเล

      จากการสอบปากคำนายอะเด็มและนาย ยูซุฟูได้เบาะแสของชายเสื้อฟ้าที่ใช้เท้าเขี่ยระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร โดยผู้ต้องหาให้การสอดคล้องกันว่า ชายเสื้อฟ้าชื่อว่านายซูแบร์ พูดภาษาอุยกูร์ แต่ชายเสื้อเหลืองทางผู้ต้องหาให้การว่าเคยเห็นหน้าที่ห้องพักย่านหนองจอกไม่กี่หน ไม่รู้จักและไม่รู้ด้วยว่าชื่ออะไร ชุดสืบสวนเชื่อว่าผู้บงการน่าจะมีการวางแผนหรือตัดตอนไม่ให้สาวถึงกัน โดยชายเสื้อเหลืองถูกส่งมาให้ทำหน้าที่วางระเบิดเพียงอย่างเดียว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!